อธิบดีกรมปศุสัตว์ส่งทีมปฏิบัติ การสุนัขดมกลิ่น “สารวัตรบีเกิล” ตรวจกระเป๋า สัมภาระของนักท่องเที่ยว สนามบินสุวรรณภูมิ พบเที่ยวบินจากเมืองคุนหมิง ซุกซ่อนซากค้างคาวรมควัน ขาหมูรมควัน และหมูสามชั้นรมควันยัดใส่กระเป๋าเดินทาง หวั่นเป็นพาหะแพร่เชื้อทั้งไวรัสนิปาห์และอหิวาต์แอฟริกาในสุกร สั่งเข้มอายัดเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการและเตรียมทำลายทิ้งนักท่องเที่ยวซุกซากค้างคาวเข้าไทย หวั่นเกิดโรคระบาด โดยช่วงสายวันที่ 10 พ.ย.นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ชุดปฏิบัติการทีมสุนัขดมกลิ่น (DLD-Quarantine and Inspection Canine unit) ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ นำ “สารวัตรบีเกิล” เป็นสุนัขที่มีความสามารถพิเศษการดมกลิ่นหาเหยื่อ ถูกฝึกจนมีความชำนาญในการหาสิ่งของผิดกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งติดยศ “สารวัตรบีเกิล” ออกปฏิบัติงานตรวจสอบการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์-ซากสัตว์ทั้งขาเข้าและขาออกบริเวณอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะเที่ยวบินที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ประเทศกัมพูชา มาเลเซีย ไต้หวัน ลาว เวียดนาม และจีนนายสัตวแพทย์สมชวนเปิดเผยอีกว่า กระทั่งเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 พ.ย. “สารวัตรบีเกิล” ตรวจพบกระเป๋าสัมภาระต้องสงสัยของผู้โดยสารจากสายการบินจากเมืองคุนหมิง ประเทศจีน ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่เปิดกระเป๋าตรวจอย่างละเอียดพบว่า ซุกซ่อนซากสัตว์ประกอบด้วยค้างคาวรมควัน 1 ถุง น้ำหนัก 2.5 กก. ขาหมูรมควัน 1 ถุง น้ำหนัก 2.5 กก. และหมูสามชั้นรมควัน 1 ถุง น้ำหนัก 4.5 กก. เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานอธิบดีกรมปศุสัตว์เปิดเผยว่า สำหรับการลักลอบนำซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรไทยเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 เจ้าหน้าที่อายัดและเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุมัติทำลายตามระเบียบกรมปศุสัตว์ เพื่อเฝ้าระวังโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จากซากสุกร โรค ASF เป็นโรคติดเชื้อในสุกรและโรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์ที่มีค้างคาวเป็นแหล่งรังโรค เชื้อไวรัสนิปาห์จะก่อให้เกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงของระบบหายใจ เกิดภาวะสมองอักเสบจนอันตรายถึงชีวิต ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ขอให้ประชาชนรับประทานเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกและไม่รับประทานสัตว์แปลก เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคดังกล่าวส่วนกรณีที่ “ครูจุ๋ย” เจ้าของเพจ “กินแซบแบบนัวนัว” ทำคอนเทนต์โชว์เปิบเมนูพิสดารกินต้มค้างคาว ก่อนเผยแพร่ลงเพจเฟซบุ๊กจนเป็นที่วิจารณ์ของสังคมเป็นอย่างมาก ต่อมา ตำรวจ สภ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร จับกุมครูสาวรายนี้ แจ้งข้อหาดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐานครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองฯ โทษจำคุก 5 ปี ปรับ 5 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ ภายหลังเจ้าตัวไปรับทราบข้อกล่าวหาออกมาไลฟ์ขอโทษว่า “ดิฉันครูจุ๋ย เพจกินแซบแบบนัวนัว ขอโทษทุกๆหน่วยงาน ขอโทษสังคม ขอโทษคุณหมอ นักข่าว เอฟซี เพื่อนร่วมงาน ครอบครัว ที่การกระทำของดิฉันที่ทำลงไปไม่มีเจตนาที่จะให้เป็นอย่างนั้น ขอโทษกับการขาดสติของตัวเองที่คิดน้อย ขอโทษมากๆ ต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”