เป็นอีกหนึ่งไลน์ธุรกิจของ “เจ้าสัวเป้า” ประยุทธ์ มหากิจศิริ เจ้าพ่อเนสกาแฟ-P80 ธุรกิจขนส่งทางเรือ ดำเนินงานโดย บริษัท โทรีเซน ชิปปิ้ง สิงคโปร์ พีทีอี แอลทีดี (“โทรีเซน ชิปปิ้ง”) ก็เป็นบริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นร้อยละ 100หนึ่งในผู้ให้บริการเรือเดินทะเลขนส่งสินค้าไปยังทุกภูมิภาคของโลก มีกองเรือขนาดใหญ่ ระวางบรรทุกเฉลี่ย : 55,913 เดทเวทตัน (DWT) รวม 24 ลำภายใต้ TTA GROUP (Thoresen Thai Agencies Public Company Limited) “โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)” พันธมิตรเพื่อการลงทุนอันประกอบไปด้วย กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ, กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง, กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร, กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มการลงทุนอื่นมี “กึ้ง” เฉลิมชัย มหากิจศิริ บุตรชาย รับหน้าที่กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารตั้งเป้าจะก้าวขึ้นมาเป็นกลุ่มบริษัทเพื่อการลงทุนชั้นนำของเอเชีย ที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดเพิ่งจะเป็นข่าวในต่างประเทศเมื่อเร็วๆนี้ “เรือทอร์เมเนลุส” หนึ่งในกองเรือโทรีเซน ได้เข้าช่วยเหลือลูกเรือประมงชาวโปรตุเกส กลางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือเรือลำนี้มี กัปตันอาณัติ ช่วยพรหม เป็นนายเรือ และลูกเรือล้วนแต่เป็นชาวไทยมีข้อมูลการช่วยชีวิตลูกเรือประมงชาวโปรตุเกสที่อยากจะนำมาเล่า เหตุการณ์เกิดตอนช่วงเช้าวันที่ 27 ก.ย. เวลา 07.10 น. (เวลาท้องถิ่น) กัปตันอาณัติได้รับโทรศัพท์จาก กัปตันธงชัย ศรีวงษา ที่รับผิดชอบดูแลด้านความปลอดภัยทางทะเล ของ บริษัท โทรีเซน (กรุงเทพ) แจ้งข่าวด่วนเข้ามาว่า ทาง หน่วยยามฝั่งเดลกาดา (MRCC DELGADA) ได้ติดต่อมาและแจ้งว่ามีเรือประมงเกิดเหตุเพลิงไหม้ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือลูกเรือทั้งหมดได้ทำการสละเรือและรอความช่วยเหลืออยู่ในแพชูชีพ ซึ่ง เรือทอร์ เมเนลุส อยู่ในตำแหน่งที่ใกล้สุด จึงเร่งตรวจสอบหาสัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่กลับไม่พบสัญญาณฉุกเฉินใดๆ จึงตรวจสอบข่าวในเครื่องเทเลกซ์ผ่านดาวเทียม (INM-C) พบว่ามีข้อความที่ส่งมาจากหน่วยยามฝั่งเดลกาดา พร้อมกับได้ระบุตำแหน่งเรือที่ประสบภัยเมื่อตรวจสอบและเทียบตำแหน่งแล้ว พบว่าระยะห่างประมาณ 41 ไมล์ทะเล จึงรีบแจ้งขอวิ่งออกนอกเส้นทางปกติ และตรงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยความเร็วสูงสุดพร้อมไปกับการเตรียมทีมช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามแผนเผชิญเหตุที่ฝึกมา แต่ปัญหาแรกที่พบ คือมองเห็นแต่เรือประมงฟิลิปา มิเกล (F/V FILIPA MIGUEL) ยังมีไฟลุกไหม้อยู่ แต่ไม่เห็นแพชูชีพ จนมี เครื่องบินกู้ภัย (Air Craft) 1 ลำ บินมาถึงบริเวณดังกล่าว และแจ้งตำแหน่งของแพชูชีพปัญหาต่อมา คือสภาพอากาศที่มีคลื่น/ลมแรง จนไม่สามารถหย่อนเรือช่วยชีวิตลงไปรับได้ จึงปรับแผนการช่วยเหลือด้วยการนำเรือใหญ่เข้าบังคลื่น/ลม ให้ตำแหน่งของแพชูชีพอยู่ในฝั่งอับลมเมื่ออยู่ในระยะจึงยิงเชือกไปที่แพชูชีพ จนสามารถนำผู้ประสบภัยทั้ง 8 คนขึ้นเรือใหญ่โดยปลอดภัยถ้าใครเคยดูภาพยนตร์ไททานิก อาจจะพอนึกภาพออก เพราะเป็นย่านมหาสมุทรเดียวกันคงพอเข้าใจหัวอกของลูกเรือทั้ง 8 ชีวิตที่ประสบภัย ในนาทีเป็นตายนั้นได้และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่แสดงให้คนทั่วโลกได้เห็น ในน้ำใจของคนไทย ที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อ และเห็นทุกข์คนอื่นก็อยากจะช่วยเหลือน่าปลื้มใจกับทีมลูกเรือทุกคน และโดยเฉพาะทีมผู้บริหารคนไทยที่แสดงให้เห็นถึงในน้ำใจคนไทย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของมุมโลก.“เพลิงสุริยะ”