3.39 นาฬิกา อังคาร 11 ตุลาคม 2565 หลวงปู่พวง ธมฺมสาโร ประธานสงฆ์วัดเทพนรสิงห์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เทพเจ้าแห่งเมืองบุรีรัมย์ ผืนป่าเขากระโดง ถิ่นภูเขาไฟ มรณภาพด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี 49 พรรษา การจากไปของท่านสร้างความอาลัยแก่ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมากศิษย์ของหลวงปู่พวงคนหนึ่งคือ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ผู้ซึ่งเดินทางไปกราบนมัสการท่านเป็นประจำ อาจารย์นิติภูมิธณัฐกราบหลวงปู่พวงครั้งสุดท้ายเมื่อ 21 สิงหาคม 2565 ที่สำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านด่าน-ตาไทย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งวันนั้นอาจารย์ไปเป็นประธานร่วมในงานทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อซื้อที่ดินสร้างวัดบ้านด่าน-ตาไทยครั้งหนึ่งท่านอาพาธ พวกเราจึงได้เข้าไปกราบท่านถึงห้อง แล้วก็ต้องแปลกใจว่าในห้องของหลวงปู่พวงมีรูปหล่อพระหริหระองค์ใหญ่ศิลปะขอมเหมือนกันกับพระหริหระที่อาจารย์นิติภูมิธณัฐบูชาอยู่ในห้องพระที่บ้านที่กรุงเทพฯย้อนหลังไปเมื่อ 19 มิถุนายน 2562 หลวงปู่พวงเมตตาเป็นประธานในพิธีเทวา-พุทธาภิเษก พระหริหระ เนื้อมวลสาร รุ่นอัญมณีทวีโชคโภคทรัพย์ 9,999 องค์ และ 14 ธันวาคม 2562 หลวงปู่พวงเมตตาเป็นประธานในพิธีเทวา-พุทธาภิเษก พระหริหระองค์ยืน รุ่นไชนะวิเทศ (ผู้ชนะในต่างประเทศ) โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์และอาจารย์นิติภูมิธณัฐเป็นประธานฝ่ายฆราวาสหลวงปู่พวงเป็นประธานในพิธีเทวา-พุทธาภิเษก โดยมี อาจารย์นิติภูมิธณัฐเป็นประธานฝ่ายฆราวาสอีกหลายครั้ง พระหรือเทพที่หลวงปู่พวงเมตตาเป็นประธานในพิธีฯ มีการนำไปประดิษฐานในต่างประเทศ เช่นที่สาธารณรัฐประชาชนจีนและแคนาดาหลวงปู่พวงเกิดเมื่อ 10 พฤษภาคม 2474 คุณพ่อท่านนำไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่พรหมสาลี วัดบ้านสนวนใน จ.บุรีรัมย์ หลังจากเรียนวิชาจากหลวงปู่พรหมสาลีอยู่หลายปี ท่านก็มาจำพรรษากับหลวงปู่ด่อน วัดบ้านหนองปรือ และเรียนวิชาเขียนอักขระยันต์ ภายหลังสึกมาดูแลบุพการีที่ป่วย เมื่อสิ้นบุพการี ท่านก็ตระเวนขอเรียนวิชาป้องกันตัวกับหลวงปู่สุข วัดโพธิทรายทอง หลวงปู่ปล้อง วัดเขาสวาย จ.สุรินทร์ และพระเขมรลึกลับที่มีชื่อว่าหลวงปู่รอดทั้งที่ยังเป็นฆราวาส ท่านตระเวนอยู่กับเกจิอาจารย์อีกหลายรูป เช่น หลวงปู่เจริญ ศิษย์เอกหลวงปู่เอีย วัดบ้านด่าน และหลวงปู่จาด วัดบางกะเบา ที่วัดปทุมสราราม จ.ปราจีนบุรี ชีวิตในวัยฉกรรจ์ ท่านโลดโผนโจนทะยานตามจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาจนตกผลึกแล้ว ท่านจึงกลับมาบวชอีกครั้ง โดยมีหลวงปู่เจริญ กิติโสภโณ เป็นพระอุปัชฌาย์หลวงปู่พวงธุดงค์ตั้งแต่ปัตตานีขึ้นมาภาคเหนือและภาคอีสาน อยู่ตามป่าตามถ้ำ ได้เจอกับครูบาอาจารย์หลายรูป เช่น หลวงปู่ดำ วัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งท่านได้รับตำราใบลานโบราณให้มาศึกษาในครั้งนั้นด้วย พระเขมรผู้มีนามว่าหลวงปู่พรหมรอด สอนวิชาให้หลวงปู่พวงและให้ตำรายาใบข่อยโบราณเพื่อให้หลวงปู่พวงเอาไว้ใช้รักษาช่วยเหลือผู้คน สอนวิชาเหยียบไฟเพื่อให้ท่านใช้รักษาคนเป็นโรคอัมพฤกษ์อัมพาตสมัยที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเต็มไปด้วยกับระเบิด ทว่าหลวงปู่พวงธุดงค์เดินทางไปมาโดยไม่เคยได้รับอันตราย ไม่เหมือนกับคนหรือสุนัขแถวนั้นที่มักจะเหยียบกับระเบิดตาย ร่างกายแหลกเหลวหรือขาขาด ทหารพรานเห็นหลวงปู่พวงก็เกิดศรัทธาและถามว่า เดินฝ่าดงระเบิดโดยไม่เป็นอันตราย ท่านมีพระดีอะไร หลวงปู่พวงตอบว่า ‘ไม่มี’ มีแต่ ‘พุทโธและศีล’วันหนึ่ง หลวงปู่พวงธุดงค์มาปักกลดอยู่ที่ป่าช้าบ้านโคกตาสิงห์ ชาวบ้านมาทำบุญก็ศรัทธา นิมนต์ให้ท่านอยู่และสร้างวัดจนกลายเป็นวัดเทพนรสิงห์ บ้านโคกตาสิงห์ ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์พิธีบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารของหลวงปู่พวงจัดที่วัดเทพนรสิงห์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่ 11 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้กราบสักการะ ท่านใดต้องการร่วมทำบุญในพิธีบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารของหลวงปู่พวง เชิญไปด้วยตนเอง หากไปไม่ได้ สามารถร่วมทำบุญที่บัญชีของพระธวิชชา อุนัยบัน (ครูบาตึ๋ง) ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 055-1-52362-4 ครับ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com