เนื่องในโอกาสครบรอบ 92 ปี ของการรวมประเทศของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย โดยสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลอาซิซ บินอับดุลเราะห์มาน อัลซาอุด ที่ล่วงลับ สถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทยได้จัดงานเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษดังกล่าวท่ามกลางแขกผู้เกียรติที่มาร่วมยินดีอย่างคับคั่ง ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมสยามเคมปินสกี้ เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบียและไทยมีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนานนับแต่ปี 2500 ขณะที่อยู่ในระหว่างการพัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน นับตั้งแต่การประกาศรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ชาติ สู่ภาวะปกติ เมื่อ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากลดความสัมพันธ์ระหว่างกันนานถึง 32 ปี กระทั่งมีการแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างทั้ง 2 ชาติ เพื่อสานต่อความร่วมมือทางด้านต่างๆ ที่ขาดหายไป โดยเชื่อมั่นว่าจากจุดแข็งและศักยภาพของทั้ง 2 ฝ่าย ว่าจะสามารถขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา เพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกันในอนาคตอันใกล้จากมูลค่าประมาณ 7.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2564 ก่อนรื้อฟื้นความสัมพันธ์นอกจากนี้ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียยังมีความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆและพิสูจน์ได้ว่าวิสัยทัศน์ 2030 ไม่ใช่เพียงความฝัน แต่เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและดำเนินไปอย่างรุดหน้ากว่าแผนที่วางแผนไว้ จากผลงานโดดเด่นของเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ได้โอกาสพิสูจน์ความสามารถและศักยภาพ รับบทบาทสำคัญเป็นผู้นำยุคแห่งความรุ่งเรือง ยุคแห่งการปฏิรูปเศรษฐกิจ และการฟื้นฟูอย่างรอบด้านผ่านการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งด้านการท่องเที่ยว การลงทุน และอุตสาหกรรม พร้อมการรักษาสิ่งแวดล้อมและให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่าง “โครงการซาอุดีอาระเบียเขียวขจี” (Saudi Green Initiative) ที่มีเป้าหมายปลูกต้นไม้ 10,000 ล้านต้น ในราชอาณาจักร และ “โครงการตะวันออกเขียวขจี” (Middle East Green Initiative) มุ่งปลูกต้นไม้ 50,000 ล้านต้นในตะวันออกกลาง โดยมกุฎราชกุมารเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุล อาซิซอาลซาอูดนอกจากนี้ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียยังมุ่งยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนไปพร้อมๆกับการรักษาค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวอาหรับและหลักการศาสนาอิสลาม ขณะที่ก้าวทันการพัฒนาของโลก.