น้ำป่าถล่มเมืองเชียงใหม่ทะลักเข้าหอพักนักศึกษา มช. จ.กำแพงเพชร เฝ้าระวังฝนถล่มอีกรอบเตรียมอพยพชาวบ้านอุบลฯอ่วมน้ำมูลหนุนสูงเมืองจมบาดาล กอนช.ประกาศเตือน 6 จังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา “ชัชชาติ” เตรียมรับมือ น้ำเหนือเฝ้าระวังจุดเสี่ยง ขณะที่กรมอุตุฯแจงผล กระทบพายุโซนร้อน 27-29 ก.ย.ฝนตกหนักเหนือ อีสาน และกลางจากสภาพอากาศฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ส่งผลให้น้ำป่าทะลักซัดบ้านเรือนเสียหาย โดยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 ก.ย. นายอุทัย ภูวงศ์ นายก อบต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมสำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม 4 หมู่บ้านในตำบลแม่พริก หมู่ 1, 4, 5, และ 6 พบว่ามีน้ำหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน และไหลท่วมพื้นผิวจราจรบนถนนทางหลวงหมายเลข 118 ช่วงเขตติดต่อ จ.เชียงรายมุ่งหน้าไป จ.เชียงใหม่ ถนนพังเสียหายไป 1 ช่องทาง นอกจากนี้พื้นที่หมู่บ้านปางกลาง หมู่ 4 บ้านปางต้นผึ้ง หมู่ 5 และบ้านปางอาณาเขต หมู่ 6 ต.แม่พริก เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาถูกน้ำป่าถล่มบ้านเรือนเสียหาย ดินโคลนไหลเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ระดมกำลังช่วยเหลือชาวบ้านทำความสะอาดพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันเกิดฝนตกหนักใน อ.เมืองเชียงใหม่ และอำเภอใกล้เคียงนานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้น้ำป่าจากดอยสุเทพไหลลงเข้าสู่ตัวเมืองท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำหลายจุด โดยเฉพาะที่ชุมชนใกล้วัดอุโมงค์ ต.สุเทพ บริเวณหลัง ม.เชียงใหม่น้ำท่วมสูงเกือบถึงเอว หอพักนักศึกษาบริเวณชั้นล่างน้ำเข้าท่วมเข้าไปในห้อง ส่วนรถ จยย.ที่จอดหน้าหอพักน้ำท่วมเกือบมิดคัน จากนั้นเพียง 1 ชม. น้ำไหลลงพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ข้าวของเสียหายเป็นจำนวนมากส่วนบริเวณหน้าตลาดประตูก้อม ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและจุดน้ำท่วมซ้ำซาก มีน้ำท่วมขังตั้งแต่ช่วงเช้า ระดับน้ำลดลงอย่างช้าๆ เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนนบางช่วงเพื่อความปลอดภัย ที่ถนนศรีปิงเมืองจนถึงแยกสุสานประตูหายยามีน้ำท่วมขัง สูงถึงหัวเข่า รถเล็กสัญจรลำบาก ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องเดินลุยน้ำไปธุระกันอย่างทุลัก ทุเล ส่วนร้านค้าหลายร้านข้างถนนต้องปิด เจ้าหน้าที่เร่งนำเครื่องสูบน้ำระบายน้ำออกจากพื้นที่ ที่ อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ฝนตกหนัก เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาจากภูเขาในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์และอุทยานแห่งชาติคลองลานเข้าท่วมบ้านเรือน เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง พื้นที่ได้รับผลกระทบมากสุดอยู่ที่บ้านไพรสวรรค์ และบ้านปางเหนือ หมู่ 6 ต.ปางตาไว อ.ปางศิลาทอง เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังหากเกิดฝนตกซ้ำมาอีกรอบจะต้องอพยพชาวบ้านไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวสถานการณ์น้ำมูลที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำสูงเกิน 8 เมตรอยู่ในเกณฑ์ล้นตลิ่งสูงถึง 1 เมตร ไหลท่วมชุมชนในเทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ขณะที่ชุมชนท่ากอไผ่ที่เป็นแนวฟันหลอของแม่น้ำมูล ระดับน้ำล้นแนวกั้นกระสอบทรายที่นำมาวางปิดไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมชุมชนท่ากอไผ่ และชุมชนใกล้เคียงที่อาศัยอยู่หนาแน่นกว่า 1,000 ครอบครัว ระดับน้ำสูงถึงต้นขา ทำให้น้ำไหลท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชน ชาวบ้านบางส่วนพากันอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ที่ อ.วารินชำราบ มีเทศบาลที่ตั้งอยู่ติดแม่น้ำมูล 4 แห่ง น้ำไหลท่วมและต้องอพยพแล้ว 16 ชุมชน 277 ครอบครัว กว่า 1,015 คน กระจายพักอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพจำนวน 10 แห่ง จ.อำนาจเจริญ เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังบริเวณผิวการจราจรในบริเวณที่ลุ่มต่ำ เช่น ถนนอรุณประเสริฐ บริเวณหน้าโรงพยาบาลอำนาจเจริญ น้ำท่วมถนนสูงต้องวิ่งได้เพียง 1 เลน อีกจุดคือเส้นทางจากตัวเมืองไปยัง อ.ปทุมราชวงศา บริเวณหน้าหมู่บ้านแสงทอง มีน้ำท่วมเส้นทางจราจร 2 ช่องทาง และจุดที่หนักสุดคือถนนชยางกูร เริ่มจากหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ไปจนถึงหน้าสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.อำนาจเจริญ มีน้ำท่วมสูงรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ปภ.เทศบาลเมืองอำนาจเจริญ เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงอำนาจเจริญ นำป้ายปิดการจราจรชั่วคราว และจัดเจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวกร่วมกับตำรวจจราจรนายชาญวิชญ์ แฮมเกตุ ผอ.โครงการชลประทานอุดรธานี เปิดเผยว่า รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ อบต.แสงสว่างว่า อ่างเก็บน้ำห้วยลิ้นควาย ที่บ้านทับไฮ ต.แสงสว่าง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี เกิดรั่วซึมบริเวณเขื่อนดิน ไปตรวจสอบพบว่ามีน้ำรั่วซึมไหลแรงออกมา แต่สิ่งที่เบาใจคือสีน้ำไม่ขุ่น ไม่มีตะกอนดินไหลออกมา หากการตรวจสอบจุดรั่วซึมมาจากฐานรากแนวชั้นหิน จากรอยแตกของหินแล้วรอดออกมา ตรงนี้สามารถเบาใจได้ เนื่องจากแกนโครงสร้างของเขื่อนยังไม่ได้รับ แรงกระแทกจากแรงดันน้ำ จะต้องรอการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งว่าจะใช้วิธีใดซ่อมแซมปิดรอยรั่วกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ประกาศ ฉบับที่ 40/2565 เรื่องเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาว่า ประเมินสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา คาดการณ์ว่า จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ จ.นครสวรรค์ อยู่ในเกณฑ์ 2,100-2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในช่วงวันที่ 25-27 ก.ย. จะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้น 0.30-0.50 เมตร ชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำประกอบด้วย คลองโผงเผง อ.ป่าโมก และ อ.ไชโย จ.อ่างทอง อ.อินทร์บุรี อ.เมือง และ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี คลองบางบาล อ.บางบาล อ.เสนา และ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธาน จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ เตรียมพร้อมรับมือน้ำหนุนสูง สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในกรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้ห่วงเรื่องน้ำทะเลหนุนช่วงวันที่ 25-26 ก.ย. ประกอบกับน้ำเหนือที่ปล่อยมาจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น จุดอ่อนคือเขื่อนริมน้ำรวมถึงเขื่อนฟันหลอ ต้องไปเตรียมเฝ้าระวัง กทม.ติดตามสถานการณ์ตลอดและต้องดูฐานน้ำประกอบน้ำเหนือที่ปล่อยมา ขณะนี้ทราบว่าปล่อยน้ำมาในระดับที่ 2,300 ลบ.ม.ต่อวินาที ถือว่ายังไม่ได้วิกฤติ แต่กำชับ ผอ.เขตริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 17 เขตเฝ้าระวัง แต่ละเขตทราบอยู่แล้วว่าจุดเสี่ยงในพื้นที่อยู่จุดใดปัญหาที่แตกย่อยลงมาคือเมื่อน้ำขึ้นสูง การสูบน้ำออกจะสูบได้ช้าและยาก กทม.ต้องเตรียมตัวปั๊มน้ำสูบเพิ่มตามสถานี เช่น สถานีสูบน้ำพระโขนง เป็นสถานีหลักต้องรอดูกรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศว่า วันที่ 26-29 ก.ย. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขณะที่พายุดีเปรสชันบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกมีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์และเคลื่อนลงสู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางในช่วงวันที่ 25-26 ก.ย. และมีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 27-28 ก.ย. ส่งผลทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และลมแรงในช่วงวันที่ 27-29 ก.ย.นี้