เอาหัวใจดวงนี้ไปสู้!! เอาความจริงใจที่มีต่อประชาชนเข้าสู้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เปิดใจถึงแนวการทำงานของพรรคใหม่ ที่เผชิญหน้ากับอำนาจรัฐ อำนาจทุน ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปขอกลั่นประสบการณ์ 30 ปีที่ทำงานการเมือง เปลี่ยนประเทศไทย เพื่อสร้างอำนาจให้ประชาชนคนไทยโดยเฉพาะการเปิดประตูให้คนตัวเล็กๆได้เข้าถึงโอกาส ซึ่งจำเป็นต้อง “ปลดล็อกวิกฤติการเมืองไทย” ที่มีปัญหามากกว่า 16 ปีเลือกฝั่งหนึ่งติดหล่ม เลือกอีกฝั่งติดล็อกฉะนั้นต้องคืนอำนาจให้ประชาชน สร้างรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน เพื่อประชาชน โดยผลักดันให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งของประชาชนแล้วต้องบัญญัติให้คนล้มล้างรัฐธรรมนูญเป็นกบฏ รับโทษสูงสุด ไม่มีการนิรโทษกรรมให้กับคณะรัฐประหาร ไม่ว่าจะบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายใดก็ต้องไม่มีผลเพราะขัดต่อประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและหลักนิติธรรมขณะเดียวกันต้อง “ปลดล็อกรัฐราชการ ให้เป็นรัฐประชาชน” เพื่อช่วยประชาชนให้ดำรงชีวิตและทำมาหากินได้ง่ายขึ้นรวมถึง “ปลดล็อกกฎหมาย” ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางประชาชนทำมาหากิน โดยพักใช้กฎหมายชั่วคราว 3-5 ปี ประมาณ 1,300 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการอนุมัติ อนุญาต รวมโทษอาญาหรือทางปกครอง ควบคู่กับทำกิโยตีนกฎหมายให้ประชาชนลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุด “ปลดล็อกทุจริตคอร์รัปชัน” ก็จำเป็นต้องเดินหน้า เพราะนับตั้งแต่ที่ยึดอำนาจปี 57 อ้างว่าเพื่อปราบปรามคอร์รัปชัน เป็นข้ออ้างที่หลอกลวง เห็นได้จากผลชี้วัดได้คะแนนตกต่ำมากสี่ปลดล็อกปล่อยประชาชนที่ถูกกดทับมานานสร้างพลังอำนาจให้ประชาชนทั่วประเทศพร้อมส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนทำมาค้าขายได้สะดวกโยธิน โดยร่างกฎหมายจัดตั้ง 5 กองทุน ทั้งกองทุน SMEs เติมทุนให้ผู้ประกอบการลุกขึ้นมาทำมาค้าขายได้ใหม่ปลดล็อกหนี้เสีย SMEs คนตัวเล็ก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้เสียจากมาตรการของรัฐในช่วงโควิดทั้งสิ้นกองทุน START UP ช่วยให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสใช้ความรู้ของโลกยุคใหม่มาสร้างเนื้อสร้างตัว กองทุนฟื้นฟูการท่องเที่ยวและบริการ กองทุนวิสาหกิจชุมชนและกองทุนเครดิตประชาชนหรือกองทุนคนตัวเล็ก เพื่อช่วยให้คนตัวเล็กที่ไม่ได้อยู่ในระบบธนาคาร ได้เข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ ดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1 ต่อเดือน เพื่อล้างหนี้นอกระบบที่ดอกเบี้ยมหาโหดการดูแลคุณภาพชีวิตตั้งแต่เกิดจนแก่ อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีก็เป็นสิ่งที่เราต้องขับเคลื่อน ผ่าน “30 บาทสุขภาพดีถ้วนหน้า” “เรียนฟรีจบปริญญาตรี” ไม่มีหนี้ กยศ. “บำนาญประชาชน 3,000 บาท” รองรับสังคมผู้สูงวัยโครงการบำนาญประชาชนจะเป็นตัวกระตุ้น สร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง งบประมาณกว่า 3 แสนล้านกระจายไปทั่วทุกชุมชนทั่วประเทศ เกิดการหมุนเวียนรายได้ ของเศรษฐกิจฐานรากอย่างมีพลังเมื่อเศรษฐกิจฐานรากฟื้นจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งประเทศให้โตได้อย่างยั่งยืนฉะนั้นขออุทิศตนเป็นเสาเข็มวางรากฐาน เป็นสะพานเชื่อมหลอมประชาชนเข้าด้วยกัน เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิต มีศักดิ์ศรีอย่างยั่งยืนและรวมพลังกำจัดความคิดแบบอำนาจนิยม ระบบรัฐราชการที่กดทับประชาชน เอื้อประโยชน์ให้กับเผด็จการ เปรียบเหมือนกองขยะที่ทำให้แมลงวันสกปรกเข้าสู่อำนาจด้วยการยึดอำนาจฉะนั้นถึงเวลาร่วมกันกำจัดระบบเผด็จการมีวิธีก้าวข้ามความขัดแย้งที่เป็นหัวใจการพัฒนาประเทศอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า ทุกฝ่ายต้องปรับมายด์เซต ลดอัตตาตัวเอง ความเห็นต่างมีได้ รับฟังด้วยเหตุและผล อะไรที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งก็วางลงก่อนหยุดใช้วาทกรรมสร้างความเกลียดชังหยุดใช้กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือปลดล็อกแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน หากปล่อยให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเขียน อีกฝ่ายก็ไม่ยอมรับ แบบนี้ไม่จบเสียที ขอให้เสียสละเพื่อชาติและประชาชน โดยคืนอำนาจการร่างรัฐธรรมนูญให้ประชาชน เป็นกติกาที่ทุกคนต้องเคารพ“สมัยเรียนปริญญาเอกพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต หัวข้อการก้าวข้ามความขัดแย้งด้วยพุทธวิธี เป็นหลักผสมคำสอนของพระพุทธเจ้าและพระราชดำรัสของล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 9ย้อนไป 9 มิ.ย.49 การเมืองเริ่มวุ่นวาย พระองค์ท่านมีพระราชดำรัสใจความว่า การที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆของประเทศที่ขัดแย้งนี้ให้ยึดหลักคุณธรรม 4 ประการ ดิฉันใช้ตรงนี้ที่ต้องรับฟังกันด้วยเหตุด้วยผล คิดดีต่อกัน มุมที่ผิดติติงกันได้ แต่ไม่สร้างความเกลียดชังเอาเหตุเอาผลที่ว่าใช่ เอามาแก้ไข วางเป้าหมายไปทางเดียวกัน เพื่อให้ประเทศและประชาชนรอดไปด้วยกันหลักของพรรคไทยสร้างไทยขอเข้ามาปลดล็อกความขัดแย้งทางการเมืองเป็นข้อแรกเลย เพราะตลอด 16 ปีที่ผ่านมาประชาชนต้องรับกรรมมาถึงทุกวันนี้”ประเทศไทยถึงเวลาก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่เช่นนั้นประเทศก็เสื่อมถอยลงทุกด้าน เราไม่ขอเป็นกลาง แต่เสนอตัวยืนหยัดอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไม่สนับสนุนรัฐประหาร–สืบทอดอำนาจขอเป็นทางเลือกที่เป็นทางรอดของประเทศทำอย่างไรให้การร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน เป็นสัญญาประชาคม หลังเลือกตั้งพรรคไหนมี ส.ส.เข้าสภาต้องรวมพลังผลักดันให้สำเร็จ คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า แผนที่ล็อกประเทศไม่ให้เดินหน้าพัฒนา ยังอยู่ที่ ส.ว. มีอำนาจเลือกนายกฯอยู่อำนาจของประชาชนถูกลิดรอนฉะนั้นการแก้กติกาเลือกตั้งมันเป็นเรื่องไร้สาระ แต่กติกาไหนเราก็สู้ พร้อมเป็นหัวหอกลงปฏิญาณว่า ทุกพรรคการเมืองหลังหรือก่อนเลือกตั้ง กล้าไหม…ลงปฏิญาณทำรัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชนแม้การเลือกตั้งครั้งต่อไปค่อนข้างมั่นใจว่าจะใช้เงินมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ คล้ายเป็น “มันนี่ โพลิติกส์”นับเป็นสิ่งที่ท้าทาย กกต. ท้าทายคนไทย ที่จะก้าวข้ามอิทธิพลอำนาจเงิน อำนาจรัฐ เพื่อใช้ความกล้าหาญ เลือกพรรคที่เป็นทางออกของประเทศหลายฝ่ายเริ่มเห็นประเทศไทยกำลังเข้าสู่การใช้เงินประมูลอำนาจในแต่ละเขตเลือกตั้ง เพื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ คุณหญิงสุดารัตน์ ตอบว่า จริงๆมันร้ายกว่านั้น“ที่ผ่านมานักการเมืองทุจริต-ซื้อเสียง-เอื้อนายทุน ปัจจุบันวิวัฒนาการ นายทุนซื้อทั้งพรรคการเมือง-ออกนโยบายต่างๆเอื้อประโยชน์นายทุน-ทุจริตเชิงนโยบายขอย้ำว่าการเลือกตั้งครั้งหน้ามันจะเป็นมันนี่ โพลิติกส์อย่างรุนแรง มีการซื้อเสียงอย่างรุนแรงสูงเป็นประวัติการณ์ ขั้นต่ำ 60 ล้านต่อเขตวันนี้ถึงเชิญชวนประชาชนลุกขึ้นปฏิวัติ อย่ายอมจำนนต่ออำนาจเงิน อำนาจรัฐ ต้องแสดงให้เห็นหัวใจคนไทยยิ่งใหญ่ ที่จะเปลี่ยนความชั่วร้ายทั้งหลายให้เป็นความดีงามให้ได้”ฉะนั้นถึงเวลารวมพลังเปลี่ยนประเทศไทยเพื่อส่งมอบให้ลูกหลานของคนไทยทุกคน.ทีมการเมือง