เมื่อ 20 ปีที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ค้นพบกะโหลกอายุ 7 ล้านปีในแอฟริกา แล้วก็สรุปเบื้องต้นว่าเป็นของสิ่งมีชีวิตที่เดินตรงและอาจเป็นบรรพบุรุษที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์เรา กะโหลกดังกล่าวเป็นของสายพันธุ์ Sahelanthropus tchadensis แต่ถึงจะระบุเช่นนั้น ทุกคนกลับไม่มั่นใจว่านั่นจะเป็นข้อสรุปที่ถูกต้อง ทว่าตอนนี้ดูจะมีหลักฐานเพิ่มเติมที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจะช่วยเติมข้อมูลสนับสนุนมากขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่พบกะโหลก Sahelanthropus tchadensis ก็พบว่ามีฟอสซิลกระดูกโคนขาและกระดูกปลายแขนอยู่ใกล้ๆกัน แต่กลับไม่ได้การยอมรับในขั้นต้นว่าเป็นส่วนหนึ่งของฟอสซิล Sahelanthropus tchadensis แม้ว่าจะพบอยู่ใกล้กะโหลกศีรษะก็ตาม ซึ่งการศึกษาใหม่จากทีมวิจัยนำโดยนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยปัวตีเย ในฝรั่งเศส ลองมุ่งวิเคราะห์ฟอสซิลกระดูกโคนขาและกระดูกปลายแขน เพื่อมองหาสัญญาณของการเดินด้วย 2 เท้าแทนที่จะเป็น 4 เท้า ด้วยเหตุผลที่ว่าเมื่อมนุษย์ยุคแรกเริ่มเดินตัวตรง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการแยกตัวออกจากลิง และซากฟอสซิลเหล่านี้อาจชี้ให้เห็นว่ามนุษย์ยุคแรกเริ่มเดินด้วย 2 เท้าเป็นประจำเมื่อประมาณ 7 ล้านปีก่อน ทั้งนี้ผลวิเคราะห์ใหม่ทีมวิจัยอ้างว่ามีความชัดเจนที่ Sahelanthropus tchadensis จะเป็นสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ เมื่อสายพันธุ์มนุษย์แยกออกจากชิมแปนซี และนั่นอาจทำให้สกุล Sahelanthropus tchadensis กลายเป็นสายพันธุ์มนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งนอกจากจะเดินตัวตรงแล้ว กลุ่ม Sahelanthropus tchadensis ยังปีนป่ายขึ้นต้นไม้ได้ด้วย อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อค้นหาตำแหน่งที่ถูกต้องในลำดับวิวัฒนาการของสายพันธุ์มนุษย์ เพราะก็ยังมีนักวิจัยอื่นๆกังขาว่านี่อาจเป็นฟอสซิลลิง.