เมื่อวันที่ 26 ก.ค.65 ที่ศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงความร่วมมือในการเชื่อมโยงระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยนายชัชชาติกล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวเป็นนโยบายของ ผบ.ตร ที่จะประสานงานระหว่างตำรวจกับ กทม.อย่างเข้มข้นขึ้น จริงๆแล้ว กทม.ทำงานคนเดียวไม่สำเร็จ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยต่างๆ ซึ่งตำรวจมีบทบาทหน้าที่โดยตรงในการดูแลด้วย จากการหารือได้พูดคุย 2 ประเด็น เรื่องแรก การใช้ทราฟฟี่ ฟองดูว์ ในการแจ้งเหตุ ที่ผ่านมามีการแจ้งเหตุประมาณ 1 แสนกว่าเรื่อง เป็นเรื่องของตำรวจประมาณ 8,000 เรื่อง ขณะนี้ เรามีการเชื่อมโยงระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์กับตำรวจแล้ว ดังนั้น จึงสามารถส่งเรื่องไปยังตำรวจได้โดยตรงในแต่ละ สน. ผบ.ตร.อยากนำเทคโนโลยีไปขยายผลทั้งประเทศ โดยนำระบบทราฟฟี่ฟองดูว์ไปใช้ใน 1,480 สถานีตำรวจ เพื่อให้ประชาชนแจ้งเหตุได้ง่ายขึ้นผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่าเรื่องที่สอง สมาร์ทเซฟตี้ โซน 4.0 (Smart Safety Zone 4.0) ซึ่ง กทม.ได้ร่วมมือกับตำรวจ ตั้งแต่สมัย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. โดยได้ทำโครงการสมาร์ท เซฟตี้ โซน 4.0 ใน 12 พื้นที่ แต่ละพื้นที่มีการติดตั้งกล้อง Ai วิเคราะห์ใบหน้าคนร้ายตามหมายจับ หรือบุคคลที่มีความเสี่ยงเข้ามาในพื้นที่ รวมถึงมีระบบทางม้าลาย ทางเท้าที่ปลอดภัย ได้มอบหมาย พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม.ไปดูรายละเอียด สมาร์ท เซฟตี้ โซน 4.0 ต้องมีอะไรบ้าง กทม.สนับสนุนด้านไหน และตำรวจดูแลด้านไหนอย่างไรบ้าง เพื่อพัฒนาสมาร์ท เซฟตี้ฯในองค์รวมได้เร็วขึ้นด้านนายวสันต์ ภัทรอธิคม นักวิจัยประจำศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) กล่าวว่า ขณะนี้ กทม.เชื่อมโยงระบบทราฟฟี่ ฟองดูว์กับสถานีตำรวจในพื้นที่ครบทั้ง 88 สน.แล้ว ส่วนใหญ่เป็นปัญหาด้านจราจรและแจ้งเหตุอื่นๆ เช่น มีคนยิงปืน สน.ก็ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เข้าระงับเหตุ.
