ใกล้จะหมดอายุไขของ รัฐบาลชุดนี้ ปี่กลองการเมืองเริ่มจะโหมโรงกันคึกคัก เปิดตัวผู้สมัคร เปิดนโยบายกลยุทธ์ ชูแคนดิเดตบัญชีนายกฯ ของแต่ละพรรค ซึ่งจะเป็นไพ่ใบสุดท้าย ของการชิงอำนาจขั้วการเมือง เที่ยวนี้ เนื่องจากวิกฤติที่ผ่านมาทำให้คนไทยเข้าใจคำว่า ภาวะผู้นำ มากขึ้นขั้วการเมืองหลักๆก็ จะแบ่งเป็น 3 ขั้ว ไม่ใช่ 2 ขั้ว อย่างที่คิดกัน ไม่ใช่ ระบอบประยุทธ์ กับ ระบอบทักษิณ เท่านั้น ต้องอย่าลืม ก้าวไกล ความหวังของคนรุ่นใหม่ที่มาแรงแซงโค้ง ที่ผ่านมา ก้าวไกล อาจจะโชคไม่ดี จังหวะยังไม่เหมาะสม แต่คาดกันว่าเลือกตั้งครั้งหน้า ก้าวไกล จะเป็นคู่แข่งที่สำคัญ ระหว่าง พลังประชารัฐ กับ เพื่อไทย ก็มีคำถามตามมาว่า แล้ว ภูมิใจไทย แล้วพรรคใหม่ๆ ที่มี บิ๊กเนมไปเป็นผู้ก่อตั้งพรรค ที่มีทั้งดูดทั้งดึงทั้งทึ้ง เอา ส.ส.ไปรวมอยู่ในพรรค เปิดกรงเลี้ยง งูเห่า เอาไว้ขนาดนั้น จะเป็นแกนนำไม่ได้เลยหรือคำตอบคือ องค์ประกอบของศักยภาพยังไม่พร้อมทุกมิติ บางพรรคก็ไม่พร้อมเรื่องจำนวน ส.ส. บางพรรคก็ไม่พร้อมเรื่องของคุณสมบัติคนที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำ ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งก็เป็นแกนนำไม่ได้ส่วนสูตรหาร 100 หาร 500 ไม่ใช่ปัจจัยว่าพรรคไหนจะได้ที่นั่ง ส.ส. เสียงข้างมาก แต่เป็นสูตรที่จะสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรค การเมืองเล็กกับการเมืองใหญ่ เนื่องจากไม่ว่าจะสูตรไหน พรรคการเมืองก็สามารถที่จะแก้สมการได้อย่างสบายๆ แตกแบงก์พัน แบงก์ร้อย พรรคสาขา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนเขียนรัฐธรรมนูญไปคิดสูตรอะไรให้ยุ่งยากซับซ้อนทำไม กลายเป็นดาบมาเชือดคอระบอบประชาธิปไตย ส่งตีความกันไม่หยุดไม่หย่อน ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวเลือก ส.ส.เขตอย่างเดียว วัดคะแนนนิยมจากชาวบ้านโดยตรงไปเลย เป็นประชาธิปไตยดีออกจะตายถ้าจะแยกข้างแยกขั้วกันตอนนี้ ระหว่าง ระบอบประยุทธ์ กับระบอบทักษิณ ขั้ว พลังประชารัฐ ก็มี รวมไทยสร้างชาติ พรรคกล้า ไทยภักดี พรรคพลัง พรรคไทยสร้างสรรค์ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯกันต่อไป จะกี่ปีก็แล้วแต่ โดยเฉพาะพรรคกล้าของ กรณ์ จาติกวณิช มีเป้าหมายที่จะเข้ามาร่วมรัฐบาลชุดนี้ด้วยซ้ำ ฉวยโอกาสพยายามจะสร้างเครดิตจากเรื่องของพลังงานขั้วระบอบทักษิณ ประกอบด้วย เพื่อไทย และพรรคในสังกัดครอบครัวเพื่อไทย อาทิ พรรคเส้นทางใหม่ พรรคเพื่อธรรม พรรคเพื่อชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ ส่วนพรรคเล็กพรรคน้อยที่เหลือ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าจะถูกฝ่ายไหนทาบทามให้ไปร่วมรัฐบาลบ้าง ประกาศเป็น พรรคตัวกลาง กันไปแล้วและก็มาถึง ขั้วก้าวไกล จะว่าไปแล้วด้วยข้อจำกัดทางการเมือง ถ้า ก้าวไกล ไม่ได้เสียงข้างมากจริงๆ โอกาสที่จะเป็นทางเลือกในการเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลคงลำบาก แม้ตามหลักทฤษฎีถ้า เพื่อไทยกับก้าวไกล จับมือกันตั้งรัฐบาลครั้งหน้าจะมีความเป็นได้สูง แต่ในระยะยาวการทำงานร่วมกันปัญหาจะตามมาอีกบานตะไทจุดแข็งก้าวไกลคือรวมกับใครก็ได้ เพราะฉะนั้นเพื่อไทย คงจะเลือกไปรวมกับพลังประชารัฐง่ายกว่า ยกเว้นว่าจะเป็นการเมืองภาคบังคับให้ต้องจับมือกัน อย่างที่บอกไว้แล้วว่า การเมืองในอนาคตจะเป็นทิศทางใด หงายไพ่ใบสุดท้าย บัญชีแคนดิเดตนายกฯคนต่อไป ออกมาเมื่อไหร่จะเห็นสูตรการตั้งรัฐบาลชัดเจน.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th