เมื่อวันที่ 21 ม.ค. นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เข้าหารือกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย อย่างเป็นทางการ ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ หวังคลี่คลายความตึงเครียด และความกังวลของชาติตะวันตก กรณีรัสเซียเคลื่อนกำลังพลเข้าใกล้ภาคตะวันออกของยูเครน รวมถึงโยกย้ายกำลังขนานใหญ่เข้าไปในเบลารุส ทางตอนเหนือของยูเครน เพื่อเตรียมฝึกซ้อมรบในช่วงต้นเดือน ก.พ. ที่ทำให้สหรัฐฯเชื่อว่า รัสเซียกำลังเตรียมการผนวกยูเครน ดินแดนที่แยกตัวออกไปตอนสหภาพโซเวียตล่มสลาย กลับคืนสู่อ้อมอกมาตุภูมิ เหมือนอย่างที่เคยผนวกคาบสมุทรไครเมีย ทางภาคใต้ของยูเครน เมื่อปี 2557 การประชุมอย่างเป็นทางการครั้งนี้มีขึ้นหลังรมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ทำการหารือร่วมกับกลุ่มชาติพันธมิตรตะวันตกทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ที่กรุงเบอร์ลิน ซึ่งนายบลิงเคนได้ประกาศจุดยืนของสหรัฐฯว่า การปล่อยให้รัสเซียบุกรุกเข้าไปในยูเครน เปรียบเสมือนการลากทุกๆคนให้กลับไปยังยุคสมัยที่อันตรายและไร้เสถียรภาพ ซึ่งเป็นยุคที่ทวีปยุโรปแห่งนี้ถูกแบ่งเป็นสองส่วน ตะวันตก-ตะวันออก และเป็นยุคที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามเต็มรูปแบบได้ทุกเมื่อแหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯเผยว่า การประชุมระหว่างนายบลิงเคนกับนายลาฟรอฟครั้งนี้ ตัวแทนสหรัฐฯจะพยายามยื่นทางออกทางการทูตให้แก่ฝ่ายรัสเซีย ที่จะทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดผ่อนคลายลง แต่มิได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งสำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้เรียกร้องมาตลอดว่า ชาติตะวันตกต้องยับยั้งไม่ให้ยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต พร้อมทั้งยกเลิกการฝึกซ้อมทางการทหารต่างๆในภูมิภาคยุโรปตะวันออก รวมถึงหยุดการส่งอาวุธให้แก่ประเทศในยุโรปตะวันออกวันเดียวกัน นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประชุมออนไลน์ หารือกับนายฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในประเด็นความมั่นคง ทั้งเรื่องสถานการณ์ยูเครน การขยายอิทธิพลของจีน และภัยคุกคามจากการยิงขีปนาวุธของกองทัพเกาหลีเหนือพร้อมกระชับความร่วมมือด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่า รัฐบาลญี่ปุ่นตอนนี้มีมุมมองในทิศทางเดียวกับสหรัฐฯ และมีความเป็นไปได้ที่นายคิชิดะจะแสดงจุดยืนอย่างหนักแน่นในเรื่องบทบาทการคานอำนาจจีน.