ชื่นชม รปภ.ฮีโร่ดวลมีดฮึดสู้โจรบุกจี้ชิงเงินธนาคารจนตัวเองเจ็บสาหัส ส่วนคนร้ายเสียชีวิต แบงก์ออมสินต้นสังกัดมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 8 หมื่นบาท พร้อมดูแลค่ารักษาพยาบาลเต็มที่ ขอบคุณที่ทำหน้าที่ปกป้องทรัพย์สินของธนาคารด้วยความเข้มแข็ง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี นำตำรวจเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ ยังไม่ได้แจ้งข้อหา ต้องรอออกจากโรงพยาบาลไปให้การก่อน ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เจ้าตัวเปิดใจทำไปด้วยสัญชาตญาณต้องหยุดยั้งคนร้ายให้ได้ เมียภูมิใจสามีเป็นคนดีช่วยเหลือผู้อื่น ด้านแม่โจรชะตาขาดเผยลูกชายเครียดตกงาน ไม่มีเงินเลี้ยงดูลูกเมีย แถมตัวเองยังป่วยปอดติดเชื้อ อาจเป็นแรงจูงใจให้ลงมือก่อเหตุจากเหตุการณ์ระทึก นายปิยะพงษ์ อ่ำอ่อน อายุ 28 ปี หนุ่มตกงานควงมีดบุกเดี่ยวจี้ชิงเงินธนาคารออมสิน สาขาทียูโดม ถนนเชียงราก ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 ธ.ค. ถูกนายขุนทอง ศรีไชยะ อายุ 51 ปี รปภ.ของธนาคาร สวมหัวใจสิงห์กระโดดเข้าขวาง กอดปล้ำดวลมีดต่อสู้กันชุลมุน นายขุนทอง รปภ.ฮีโร่ถูกมีดแทงต้นคอได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายปิยะพงษ์ถูกแทงสวนวิ่งออกไปเสียชีวิตอยู่ริมถนนหน้าธนาคารความคืบหน้าของคดีเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ธ.ค. พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รอง ผกก.สอบสวน รรท. ผกก.สภ.คลองหลวง เผยว่า พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและรอฟังข้อมูลจากชุดสืบสวน ได้ดำเนินคดีนายปิยะพงษ์ในข้อหาชิงทรัพย์ แต่ผู้ก่อเหตุเสียชีวิตจะทำสำนวนสั่งไม่ฟ้อง ส่วนเงินที่คนร้ายได้ไปทั้งหมด 143,000 บาท ธนาคารเก็บไปเกือบหมดแล้ว เหลืออยู่แค่ติดตัวคนร้ายอีกประมาณ 1,000 กว่าบาท จะส่งตรวจและนำคืนธนาคารต่อไป ส่วนนายขุนทอง รปภ.ที่ได้รับบาดเจ็บ ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้วด้านนางสมศรี อ่ำอ่อน อายุ 51 ปี มารดาผู้ตายเข้าให้ปากคำที่ สภ.คลองหลวง เผยว่า ที่บ้านอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 คน ตนกับสามี ลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลาน ตอนนี้ลูกชายตกงานและเครียดจัดเพราะไม่มีเงินเลี้ยงดูภรรยาและลูกน้อยวัย 1 ขวบครึ่ง ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 อาทิตย์ลูกชายล้มป่วยปอดติดเชื้อเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล พร่ำบ่นกลัวว่าโรคที่เป็นอยู่จะทำให้เสียชีวิต ก่อนเกิดเหตุเพียงวันเดียวเพิ่งไปพบแพทย์เพื่อเอกซเรย์ปอด คาดว่าแรงจูงใจมาจากความเครียดที่ต้องการใช้เงิน แต่ยังหางานทำไม่ได้ รถ จยย.ที่ขี่ไปก่อเหตุเป็นชื่อของตน ลูกชายขี่ออกจากบ้านบอกว่าจะไปสมัครงานที่ย่านคลองสาม มาทราบอีกทีก็หลังเกิดเหตุแล้วที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พร้อมตำรวจ สภ.คลองหลวง เข้าเยี่ยมอาการนายขุนทอง ศรีไชยะ อายุ 51 ปี รปภ.ใจเด็ดนอนพักรักษาบาดแผลที่ถูกคนร้ายแทงเข้าลำคอได้รับบาดเจ็บ พล.ต.ต.ชุมพลเผยว่า ขอชื่นชมนายขุนทอง ทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจและเสียสละ ทาง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 มอบหมายให้ตนมาเยี่ยม พร้อมมอบสิ่งของและเงินสดจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ด้านคดีที่นายขุนทองใช้มีดต่อสู้คนร้ายเพื่อป้องกันทรัพย์สินของธนาคาร ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเรื่องคดีด้านอื่นไปก่อนจนกว่านายขุนทองจะหายดีออกจากโรงพยาบาลไปให้การได้ถึงจะแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง ยืนยันตำรวจจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายด้านนายขุนทอง ศรีไชยะ รปภ.ฮีโร่ เปิดใจว่า ยังรู้สึกเจ็บที่แผล วันเกิดเหตุนั่งอยู่บริเวณหน้าธนาคาร คนร้ายย่องมาทางด้านหลังเสาเข้าล็อกคอจ้วงแทงทันที ตอนนั้นรู้สึกร้อนที่คอจึงสะบัดตัววิ่งหนี ส่วน คนร้ายบุกเข้าไปจี้ชิงเงินในธนาคาร พอคนร้ายเดินออกมา ตนอยู่ด้านนอกมองหาอุปกรณ์ที่จะหยุดยั้งคนร้าย เห็นเก้าอี้วางอยู่เลยคว้ามาฟาดใส่พร้อมกอดปล้ำต่อสู้กัน ทำไปด้วยสัญชาตญาณคิดในใจต้องทำสุดความสามารถเพื่อหยุดคนร้ายให้ได้น.ส.อำพร สีโคกกรวด อายุ 49 ปี ภรรยานายขุนทองที่มาเฝ้าอาการสามีด้วยความเป็นห่วง กล่าวว่า ตอนแรกรู้สึกห่วงสามีมาก แต่ตอนนี้โล่งอกแล้วเพราะพ้นขีดอันตรายปลอดภัยแล้ว รู้สึกภูมิใจที่สามีเป็นคนดีและช่วยเหลือคนอื่น แต่ก็ยังกังวลเพราะสามียังไม่ออกจากโรงพยาบาล หลังจากนี้สามีบอกว่าจะยังคงทำงานเป็น รปภ.ต่อไปนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน มอบหมายให้นายเทอดธรรม สุวิชาวรพันธุ์ รองผู้ อำนวยการ ธนาคารออมสิน กลุ่มทรัพยากรบุคคล เป็นตัวแทนธนาคารเข้าเยี่ยมนายขุนทอง ชื่นชมที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถในเหตุการณ์โจรปล้นสาขาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 80,000 บาท สนับสนุนโดยมูลนิธิออมสินเพื่อสังคม 50,000 บาท และมูลนิธิออมสินเราช่วยกัน 30,000 บาท พร้อมกระเช้าปลอบขวัญและแสดงความขอบคุณที่ช่วยปกป้องทรัพย์ของธนาคารและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ทั้งนี้ ธนาคารยินดีช่วยค่ารักษาพยาบาลอย่างเต็มที่