“สามเหลี่ยมดินแดง” กลายเป็นสมรภูมิปะทะกันระหว่างกลุ่มวัยรุ่นและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เสียงประทัดดังต่อเนื่องในช่วงเย็นย่ำถึงค่ำคืน ควันไฟจากการเผายางรถยนต์ เจ้าหน้าที่คอยตอบโต้ด้วยกระสุนยาง และรถจีโน่ฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตาเพื่อคุมสถานการณ์ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้สร้างความเสียหายแค่สองฝ่าย แต่ผลพวงของความไม่สงบส่งกระทบถึงชาวบ้านทั่วย่านดินแดง โดยเฉพาะร้านอาหารที่ตั้งอยู่ใจกลางจุดปะทะ“คุณชายตะลอนชิม” สัปดาห์นี้ “คุณชายแป๊ะ” ขอแนะนำร้าน “หัวปลาเฮียอ้วน” ของ “เฮียอ้วน–ทศพร เจริญชัยใจแก้ว” อายุ 52 ปี และ “เจ๊กอล์ฟ–นงรัก เจริญชัยใจแก้ว” อายุ 47 ปี สองสามีภรรยาร่วมกันฝ่าวิกฤติครั้งนี้มาด้วยกันทั้งน้ำตา เพราะร้านตั้งอยู่ริมถนนวิภาวดีรังสิต ทางออกปั๊มน้ำมันเชลล์ติดกับอาคารมหาวิทยาลัยมหิดล ใกล้จุดปะทะเดือด ผมมาถึงร้านก่อนเวลานัดหมาย นั่งมองดูรถราวิ่งไปมา ไร้ภาพความวุ่นวายของเมื่อหลายเดือนก่อน ยังคิดว่าเฮียอ้วนกับเจ๊กอล์ฟต้องใช้ความอดทนแค่ไหนในการฟันฝ่าวิกฤติแยกดินแดง ร้านนี้ใช้พื้นที่เล็กๆริมถนนสำหรับตั้งร้านทำครัว ทันทีที่ทุกอย่างถูกลำเลียงลงจากท้ายรถกระบะด้วยความคล่องแคล่ว แค่ไม่เกิน 15 นาที ก็พร้อมให้บริการ หลังจัดวางถังแก๊สหัวเตา ขึงผ้าใบกันลมกันฝน ถังพลาสติกใบใหญ่ทั้งใส่น้ำแข็งแช่ของสด “หน้าตาสดใสขึ้นเยอะเลยนะครับเจ๊” ผมเดินเข้าไปทักทาย เมื่อเห็นว่าทางร้านพร้อมให้บริการลูกค้าแล้ว“ตอนนี้ขายได้ต้องรีบขายก่อน เพราะอนาคตเจ๊ก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีก” เจ๊กอล์ฟเปรยด้วยความกังวล ผมมองเฮียอ้วนปรุงเครื่องต้มยำนานาชนิดในหม้อเดือดๆที่วางเรียงรายเต็ม 5 เตา ก่อนยกเทใส่ชามพร้อมเสิร์ฟ หัวปลาชิ้นใหญ่ เนื้อปลาหั่นเป็นท่อนพอดีคำ แถมด้วยไข่ปลา ช่างเข้ากันดีกับรสชาติแซ่บนัวของน้ำต้มยำโชยกลิ่นหอมพริกมะนาวไม่ได้มีดีเฉพาะ “หัวปลา” แต่ร้านนี้ยังมีเมนู “ปีกไก่ทอด” เสิร์ฟกับซอสพริก กินตอนร้อนๆทอดใหม่ๆอร่อยฟิน หรือจะลอง “คะน้ากวางตุ้งผัดน้ำมันหอย” หอมมันเค็มกำลังดี ส่วน “หอยลายผัดพริกเผา” สีสันไม่เหมือนที่อื่น ใช้พริกเผาทำเอง รสชาติถูกปาก เผ็ดเค็มกำลังดี หวานพอปะแล่มๆ ดึงจุดเด่นด้วยกลิ่นหอมของใบโหระพา “ปีกไก่ทอดอร่อยเกินคาดนะเจ๊ มาทีไรผมกินแต่ต้มยำหัวปลา เที่ยวนี้กินปีกไก่แล้วติดใจ” ผมเอ่ยปากชม “ของทุกอย่างเจ๊ทำด้วยใจ ปีกไก่ทอดทำง่าย หมักซอสปรุงรสคลุกด้วยแป้งทอดกรอบไม่ผสมน้ำ เวลาทอดใช้น้ำมันท่วมๆ แป้งทอดกรอบเคลือบอยู่ที่ปีกไก่บางๆ กินตอนทอดร้อนๆจะอร่อยที่สุด ส่วนต้มยำหัวปลา เจ๊ใช้หัวปลาช่อนกับหัวปลาแซลมอน จุดเด่นของร้านเราคือ ลูกค้ามากินจะไม่เจอข่า, ตะไคร้, ใบมะกรูด เพราะเจ๊ต้มน้ำต้มยำใส่เครื่องสมุนไพรไว้ในหม้อใหญ่ เวลาปรุงใช้หม้อใบเล็กตักน้ำซุปมาทำทีละถ้วย ส่วนน้ำพริกเผาเป็นสูตรของเจ๊เอง สีสันไม่แดงเหมือนพริกเผาทั่วไป ใช้เครื่องสมุนไพรทั้ง ข่า, ตะไคร้, หอมแดง, กระเทียมและพริกปั่นรวมกัน ทำให้หอมและได้รสชาติดีกว่าน้ำพริกเผาสำเร็จรูป ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายแดง ไม่ใส่ผงชูรส” เมื่อถามเจ๊ถึงช่วงวิกฤติดินแดง “เจ๊กอล์ฟ” ย้อนรำลึกวันฝันร้ายว่า “ตอนตำรวจวางตู้คอนเทนเนอร์ปิดถนนไม่ให้รถวิ่งผ่านถนนวิภาวดีรังสิต เจ๊ต้องหยุดขายไป 1 เดือนเต็ม จากนั้นมีการขยับแนวตู้คอนเทนเนอร์ไปที่ รพ.ทหารผ่านศึก เจ๊กับเฮียช่วยกันขนของ มาตั้งร้านเพื่อจะเปิดขายวันแรก ปรากฏว่าทั้งประทัดและแก๊สน้ำตาวุ่นวายไปหมด เจ๊ยืนมองสองฝ่ายห้ำหั่นกัน รู้สึกเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก ของก็ไม่ได้ขาย ยืนมองแล้วน้ำตามันไหลออกมาเอง ตอนนั้นมีสื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียง ทำให้มีคนโอนเงินมาช่วยเหลือร้านเรา วันต่อมาเจ๊เลยเปิดร้านให้สื่อและลูกค้ากินฟรีซะเลย จนกลายเป็นฐานประจำของสื่อทุกแขนงที่มาเกาะติดรายงานข่าว” “ช่วงที่มีการปะทะกัน ตอนนั้นสื่อมวลชนต้องใส่เสื้อสะท้อนแสง และสวมหมวกสวมหน้ากากกันแก๊สน้ำตา แต่เจ๊ไม่มีอะไรป้องกันตัวหรอก ยังคงขายของไปตามปกติ เจ๊ไม่รู้สึกอะไรหรอก ใครจะปะทะกับใครก็ไม่เกี่ยวกับเราเพราะเจ๊เป็นคนค้าขายต้องดูแลลูกน้อง ตำรวจรู้ว่าตรงนี้มีประชาชนค้าขายอยู่ ฉะนั้นเขาไม่มายิงกระสุนยาง หรือรบกวนในจุดที่เจ๊ค้าขาย เด็กวัยรุ่นก็ไม่เคยมาวุ่นวายกับบริเวณนี้”“ตอนนี้สถานการณ์ดูเหมือนคลี่คลายลงเยอะแล้ว เจ๊กลับมาค้าขายได้ตามปกติ ลูกค้ามานั่งกินได้อย่างสบายใจ กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมแล้ว อยากให้คงสถานการณ์อย่างนี้ไปนานๆ” เจ๊กอล์ฟเล่าไปยิ้มไป มือก็คว้าหนังยางรัดถุงต้มยำหัวปลาส่งให้ลูกค้า สนนราคา ต้มยำหัวปลาแซลมอน และหัวปลาช่อน 60 บาท, ต้มยำหัวปลา+เนื้อปลา, ต้มยำหัวปลา+เนื้อปลา+ไข่ปลา 80 บาท, ผัดหอยลาย 70 บาท, กะเพราปลาหมึก 70 บาท, ผัดคะน้าฮ่องกง 40 บาท, ปีกไก่ทอด ชิ้นละ 10 บาท นอกจากนี้ ยังมีไข่เจียวหมูสับ 45 บาท ร้าน “หัวปลาเฮียอ้วน” เปิดขายทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.30 น.ถึง 24.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ สั่งผ่าน GrabFood และ Facebook : ต้มยำหัวปลา เฮียอ้วน สาขา 1 ดินแดง. คุณชายแป๊ะ