ด้วยภารกิจในการสืบสาน สร้างสรรค์ส่งเสริม งานศิลปหัตถกรรมไทยในทุกมิติอย่างยั่งยืน สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ sacit จึงมีการพัฒนาผู้ประกอบการศิลปหัตถกรรมไทยให้มีองค์ความรู้ในการประกอบกิจการ สามารถรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยที่ตรงใจผู้ซื้อและจำหน่ายได้ทั้งในระดับประเทศ และระดับสากล รวมทั้งสนับสนุนการสร้างผู้ประกอบการรายใหม่พรพล เอกอรรถพร รักษาการผู้อำนวยการ sacit กล่าวว่า sacit มุ่งสร้างความเข้มแข็งงานศิลปหัตถกรรมไทยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มทักษะให้ผู้ประกอบการ การเน้นคุณค่านวัตกรรมควบคู่งานศิลป์ การสร้างมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยเพื่อส่งออก รวมถึงพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการศิลปหัตถกรรมไทยให้มีความรู้ ความสามารถโดยเฉพาะทายาทที่สืบสานต่อยอดงานศิลปหัตถกรรมจากบรรพบุรุษ ตัวอย่างเช่น อภิเดชศิริบุรี ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ประจำปี 2563 ประเภทเครื่องรักลายรดน้ำ ที่ได้รับการยกย่องในการสืบสานและสร้างสรรค์งานลายรดน้ำตามแบบฉบับโบราณ และ หัสยา ปรีชารัตน์ ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ที่ได้รับการยกย่องประเภทเครื่องดิน (เครื่องเบญจรงค์) และเป็นเจ้าของแบรนด์ไทยเบญจรงค์ ที่ได้สืบทอดมรดกภูมิปัญญาแห่งความงดงามและทรงคุณค่าของแผ่นดิน ด้านทายาทช่างฝีมือไทยที่มาสานต่อการทำงาน อย่าง หัสยา ปรีชารัตน์ กล่าวว่า ตั้งใจสืบสานงานเครื่องเบญจรงค์ต่อจากคุณพ่อ จึงศึกษาด้านศิลปะการออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างจริงจัง และได้นำศิลปะ รูปแบบและ รูปทรงสมัยใหม่ มาประยุกต์พัฒนาเครื่องเบญจรงค์ให้มีความทันสมัย เรียบหรูมากขึ้น อีกทั้งมีการผสมผสานความทันสมัยบนพื้นฐานความดั้งเดิม เพื่อให้งานเครื่องเบญจรงค์เข้าถึงคนรุ่นใหม่ ให้นำไปใช้เป็นของฝากของที่ระลึกได้ทุกโอกาส ซึ่งผลงานการพัฒนางานเครื่องเบญจรงค์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและความภาคภูมิใจของเรามีชื่อว่า “ศิลาดลเบญจรงค์” มีการลงสีเบญจรงค์ ประกอบกับเอกลักษณ์ ร่องรอยการแตก ลายงาแบบ “ศิลาดล” ที่ผสมผสานเข้าด้วยกัน รวมทั้งปรับประยุกต์การใช้โทนสีให้เข้ากับยุคสมัย อภิเดช ส่วน อภิเดช ศิริบุรี กล่าวว่า ตนมีความสนใจในงานศิลปะไทยมาตั้งแต่เด็ก เลยเลือกเรียนด้านงานจิตรกรรมไทย ก็สามารถออกแบบลวดลายได้ด้วยตนเอง โดยยังคงกระบวน การทำตามแบบโบราณด้วยการใช้ “รักสมุก” ที่ทำให้ชิ้นงานมีความคงทนและสวยงาม ส่วนด้านการพัฒนาผลงาน ยังคงอนุรักษ์กระบวนการสร้างงานลายรดน้ำแบบโบราณดั้งเดิม มีการปรับประยุกต์เพียงเรื่องลวดลายเท่านั้นที่มีการนำลวดลายไทยแบบดั้งเดิมมาลดทอนลงเพื่อให้ได้ลวดลายที่ประยุกต์ขึ้นใหม่ที่สวยงามมากยิ่งขึ้น ซึ่งตนมุ่งมั่นทุ่มเทในการฝึกฝนเพื่อพัฒนาฝีมือ และเผยแพร่ผลงานและความรู้ในงานหัตถศิลป์โบราณ งานหัตถกรรมไทยโบราณแขนงนี้ให้เป็นที่รู้จักและอยู่คู่คนไทยต่อไป.