พระอุดมวัฒนมงคล เจ้าอาวาสวัดถ้ำวัฒนมงคล จ.ระยอง ละสังขารอย่างสงบเมื่อเวลา 13.59 น.ของวันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2564 ระหว่าง 21-25 กันยายน 2564 เวลา 18.00 น. พระพิธีสวดพระอภิธรรม วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน 2564 เวลา 15.30 น. พิธีพระราชทานเพลิงศพ จึงขอเรียนเชิญท่านที่เคารพนับถือร่วมเป็นเกียรติเพื่อไว้อาลัยแก่ท่านนอกจากพ่อแม่ผู้มีพระคุณแล้ว สมัยเป็นเด็ก ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ได้รับการอุปการะจากพระสองรูป รูปแรกคือท่านพ่อมหาเข้ม จิตธมฺโม (ปัจจุบันคือพระปัญญาวิสุทธิ์) เจ้าอาวาสวัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี รูปที่สองคือพระสุวัฒน์ด้วงบ้านยาง วัดอาวุธวิกสิตาราม เขตบางพลัด กรุงเทพฯ พระสุวัฒน์ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนามที่พระอุดมวัฒนมงคล เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดถ้ำวัฒนมงคลสามสิบกว่าปีก่อน พระครูปลัดสุวัฒน์ให้พ่อผมไปพบในป่าแห่งหนึ่งของ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ท่านบอกว่า “เราจะอยู่ที่นี่” ปัจจุบันสถานที่นั้นก็คือวัดถ้ำวัฒนมงคล พวกเราเรียกท่านเจ้าคุณว่าพระอาจารย์ พระอาจารย์เกิดเมื่อ พ.ศ.2497 คุณแม่คือท่านประยงค์เป็นคนคลองใหญ่ จ.ตราด ตอนอุปสมบทใหม่ๆ พระอาจารย์รับอุปการะเด็กจากตราดไว้ 2 คน ถือได้ว่าเป็นเด็กวัด 2 คนแรกของท่าน คือบุญชัย สีหะ (นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 17) และพ่อผม ซึ่งเป็นผู้เขียนเปิดฟ้าส่องโลกคนแรกหลังจากที่พ่อไปเรียนที่ออสเตรเลียเมื่อ พ.ศ.2521 แล้ว พระอาจารย์ก็อุปการะเยาวชนอีกเป็นจำนวนมาก เกือบ 100% ของเด็กที่ท่านอุปการะสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้ ศิษย์ของเจ้าคุณอุดมวัฒนมงคลในปัจจุบันเป็นนายพลนายพันทหารบก เรือ อากาศ และตำรวจในหนังสือเด็กชายจากเขาสมิง หน้า 113-124 พ่อเล่าถึงท่านพ่อลี ธมฺมธโร จาริกธุดงค์มาถึงตัวเมืองจันทบุรีเมื่อ พ.ศ.2478 และได้สร้างวัดบนป่าช้าสาธารณะบ้านคลองกุ้ง ท่านพ่อลีจำพรรษาที่วัดป่าคลองกุ้งนานถึง 14 พรรษา ก่อนที่จะเดินทางมาสร้างวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ซึ่งภายหลัง พ่อผมเป็นเด็กวัดที่ท่านพ่อลีสร้างเป็นวัดแรกนี้เองหน้า 125-135 พ่อเล่าถึงชีวิตสมัยอยู่กับพระอาจารย์สุวัฒน์ที่วัดอาวุธวิกสิตาราม มีข้อความตอนหนึ่งว่า “สมัยนั้น คนเดินทางไปต่างประเทศส่วนใหญ่จะใส่สูทและผูกเนกไท คืนก่อนเดินทาง พระสุวัฒน์เรียกผมไปสอนวิธีการผูกเนกไท ปรากฏว่าใช้เวลาเป็นชั่วโมง ทั้งพระอาจารย์ทั้งลูกศิษย์ผูกกันไม่ได้ เพราะเป็นเสื้อที่มีคอกว้างและไม่มีกระดุมคอ วันรุ่งขึ้น ผมจึงเดินทางไปออสเตรเลียโดยที่ไม่ได้ผูกเนกไท”หลังจากพ่อผมไปอยู่ออสเตรเลียได้ครบ 1 ปีแล้ว ก็ได้ทุนกองทัพบกออสเตรเลียเข้าเรียนที่โรงเรียนนายร้อยมหาบกพอร์ตซี ได้กลับมาอยู่กับพระอาจารย์ที่วัดอาวุธวิกสิตารามเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนกลับไปออสเตรเลียอีกครั้ง แต่กลับไปใหม่ได้ไม่นาน พ่อก็ถูกถอนทุนและถูกส่งกลับประเทศไทยถึงเมืองไทยในเวลาเช้าตรู่ พ่อวางกระเป๋าไว้หน้ากุฏิแล้วก็เดินไปตามเส้นทางที่เคยเดินถือปิ่นโตตามหลังพระอาจารย์ พ่อเล่าว่าพระอาจารย์เป็นพระเคร่งกัมมัฏฐานสายวิปัสสนาธุระ แม้ไม่มีการสื่อสารใดแจ้งข่าวกันได้เหมือนในสมัยนี้ แต่พระอาจารย์ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นหน้าพ่อ ท่านให้กำลังใจพ่อผมด้วยความเห็นใจสงสารอีกหลายปีต่อมา พ่อไปเรียนปริญญาเอกที่กรุงมอสโกด้วยทุน ก.พ.ประเภท 2 ตามความต้องการของกรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย ทันทีที่ได้รับพระราชทานยศร้อยตำรวจเอก พ่อเดินทางมาไทยและพาผมซึ่งตอนนั้นอายุ 4 ขวบไปกราบพระอาจารย์เพื่อขอให้พระอาจารย์ติดยศให้พระอุดมวัฒนมงคลเพียงรูปเดียวช่วยเยาวชนให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ทำประโยชน์ให้ประเทศได้นับร้อยเป็นพันคน หากวัดที่มีมากกว่า 4 หมื่นแห่ง ช่วยเยาวชนให้ได้รับโอกาสอย่างที่พระอาจารย์ทำ วัดทั้งประเทศจะสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้ชาติได้เป็นล้านคน เปิดฟ้าส่องโลกวันนี้ ขออนุญาตเขียนถึงพระอาจารย์ผู้มีพระคุณครับ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com