เมื่อเร็วๆนี้ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล สร้างความฮือฮาผงาดบนเวทีระดับนานาชาติ เดลต้าคัพ 2021 (Delta Cup) คว้ารางวัลชนะเลิศ Grand Prize ด้วยผลงานนวัตกรรมป้องกันน้ำท่วมอัตโนมัติ Flood Prevention Protocol ที่น่าทึ่ง ท่ามกลางผู้เข้าแข่งขันจากนานาประเทศ 546 ทีม จาก 200 มหาวิทยาลัย ณ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ในชื่อทีม คาลามารี (Calamari) นำโดย รศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ภาควิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ ดร.เอกชัย วารินศิริรักษ์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหกรรม ผศ.ดร.ปานนท์ ลาชโรจน์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาพร้อมด้วย ทีมนักศึกษามหิดล 22 คนรศ.ดร.ยศชนันกล่าวว่า งานแข่งขันเดลต้าคัพ 2021 จัดโดยเดลต้า อิเล็กโทรนิคส์ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการแห่งประเทศจีนและสมาคมเทคโนโลยีอัตโนมัติแห่งประเทศจีน (CAA) ภายใต้ธีม Seeking Smart Industrial Internet of Things (IIoT) Talents ผลิตอัจฉริยะและแอปพลิเคชันเทคโนโลยีสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การแข่งขันมี 3 ประเภทคือ Innovative Machines, Smart Factory และ Better Future Living โดยทีมจากประเทศไทย สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ Grand Prize โดยทีม Calamari จากผลงาน Flood Prevention Protocol ที่ออกแบบจากแนวคิด Smart IIoT For Better Future Living ชอน กัลอัพ หัวหน้าทีมนักศึกษาวิศวกรรมชีวการแพทย์ปีที่ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.มหิดล กล่าวว่า พื้นที่กรุงเทพฯอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล จึงประสบปัญหาน้ำท่วมมาทุกปี ถึงแม้จะมีมาตรการป้องกันน้ำท่วมโดยการใช้ประตูน้ำ 100 แห่งทั่ว กทม. แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการน้ำท่วมได้ เนื่องจากประตูน้ำแต่ละบานเปิด-ปิด โดยใช้คน ขาดการใช้เทคโนโลยีในการควบคุมดูแลระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ขาดความแม่นยำด้วยข้อมูล ทีมคาลามารี (Calamari) ได้คิดค้นและออกแบบนวัตกรรมป้องกันน้ำท่วมอัตโนมัติ Flood Prevention Protocol ซึ่งเป็นระบบระบายน้ำอัตโนมัติที่ผสานรวมกับเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ มีเครือข่ายระบบเซ็นเซอร์เก็บข้อมูลน้ำจากประตูน้ำทั้ง 100 แห่ง และประมวลผลด้วยคลาวด์ คอมพิวติ้งระบบสามารถคาดการณ์ปริมาณน้ำ ความน่าจะเป็นใน 1 ชม.ข้างหน้า ทำ Flow Rate Mapping กำหนดเส้นทางการไหลของน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม จนถึงควบคุมการเปิด–ปิดประตูน้ำอย่างสอดคล้องกับสถานการณ์จริง อีกทั้งแสดงข้อมูลจากเครือข่ายเซ็นเซอร์มอเตอร์ และการไหลของน้ำทั้งหมดบนคอมพิวเตอร์ศูนย์ควบคุม SCADA หรือระบบมอนิเตอร์แสดงสถานะของแต่ละประตูน้ำและเห็นภาพรวมได้อีกด้วย นับเป็นการรวมระบบการตัดสินใจการควบคุมประตูน้ำทั้ง 100 แห่งด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้าไปซึ่งจะช่วยพัฒนายกระดับให้เป็นระบบเปิด-ปิดประตูน้ำอัจฉริยะสุเมธ กล่อมจิตเจริญ นักศึกษา ป.โท และณัฐภัทร ตันจริยภรณ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.มหิดล กล่าวว่า จุดเด่นของนวัตกรรมระบบป้องกันน้ำท่วมอัตโนมัติ Flood Prevention Protocol คือก้าวหน้าด้วยความอัจฉริยะ โดยเราทำ Machine Learning ฝึกเอไอให้เรียนรู้การคำนวณ ประมวลวิเคราะห์จากข้อมูลน้ำทั้งหมดในพื้นที่ ประเมินผลและคาดการณ์อนาคต (Event Prediction) โดยใช้ข้อมูลจากระดับน้ำ อัตราการไหล และอื่นๆ จากนั้นจึงเปิดหรือปิดประตูระบายน้ำแต่ละบานโดยอัตโนมัติด้วยระบบอัจฉริยะ ช่วยประหยัดทรัพยากรมนุษย์ ประหยัดเวลา ทำให้มีความแม่นยำ การแก้ไขน้ำท่วมอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสภาพน้ำในพื้นที่มากยิ่งขึ้น เตือนภัยและสามารถป้องกันน้ำท่วมได้ ช่วยลดความเสียหายและ การสูญเสียชีวิตของประชาชนตลอดจนเกษตรกรจะได้รับจากน้ำท่วม.