กลับเข้าสู่เส้นทางชีวิตในเครื่องแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อีกรอบ หลังจากศาลปกครองให้ “ทุเลาการบังคับ” ตามคำสั่ง ตร. ที่ 387/2563 ลงวันที่ 29 ก.ค.2563 ที่ให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา สำรองราชการ และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่ให้พ้นจากตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่นวิบากกรรมที่เล่นงาน “นายพลคนดัง” นานเกือบปีจากผลพิษ “คลิปหลุด” ในบทสนทนาทางโทรศัพท์มือถือข้ามประเทศกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ขณะนั้นเจ้าตัวยื่นเรื่องถึงศาลปกครองฟ้อง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลปกครองได้วินิจฉัยมาตามลำดับเห็นว่า พฤติการณ์ของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องดังกล่าวข้างต้น ถือว่ามีสภาพร้ายแรงอันอาจทำให้การพิจารณาทางการปกครอง “ไม่เป็นกลาง”การที่ออกคำสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา สำรองราชการ น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายมีผลทำให้ประกาศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 31 ส.ค.2563 น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายไปด้วยกรณีนี้จึงมีเหตุอันสมควรที่จะ “ทุเลาการบังคับ” เสมือนว่าไม่เคยมีคำสั่งสำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา มาก่อนแต่อย่างใดเสมือนไม่เคยมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่ให้พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา พ้นจากตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ตามที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษามาก่อนแต่อย่างใดทำเอา “สำนักปทุมวัน” แทบลุกเป็นไฟ.สหบาท