สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การประท้วงในเมียนมาเมื่อวันที่ 22 มี.ค. มีการชุมนุมตั้งแต่ช่วงเช้าในย่านใจกลางเมืองย่างกุ้ง โดยผู้ขับขี่รถยนต์บีบแตรรถกันสนั่นเมืองในวาระครบรอบ 1 เดือน ของการเดินขบวนประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่รัฐประหาร ส่วนที่เมืองมินตั๊ดในรัฐชิน ผู้ประท้วงใช้วิธีปักป้ายโปสเตอร์ที่มีข้อความ เผด็จการทหารต้องพ่ายแพ้จำนวนมากไว้บริเวณด้านหน้าตลาด เพื่อแสดงการต่อต้านและหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 250 คน ในการประท้วงต่อต้านกองทัพเมียนมา จากข้อมูลของกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือนักโทษการเมือง ทำให้สหภาพยุโรปเตรียมจะใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มต่อประชาชน 11 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรัฐประหารเมื่อเดือนที่แล้ว นายไฮโก มาส รมว.การต่างประเทศของเยอรมันกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับที่ทนไม่ได้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงต้องใช้มาตรการคว่ำบาตร” โดยชื่อของบุคคล 11 คนที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหารและการปราบปรามผู้ประท้วงจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ หลังการประชุมกับสมาชิกสหภาพยุโรป นอกจากนี้สำนักข่าวรอยเตอร์ยังเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสหภาพยุโรปยังวางแผนที่จะกำหนดการคว่ำบาตรต่อบริษัท ต่างๆที่สร้างรายได้หรือให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กองทัพเมียนมา ทั้งนี้นายมาสยังย้ำว่า ไม่มีเจตนาลงโทษชาวเมียนมา แต่เป็นกองทัพและบุคคลที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดแจ้งต่างหากด้านเพื่อนบ้านในเอเชียซึ่งพยายามหลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์กิจการภายในกันมานานหลายปีได้เริ่มออกมาแสดงปฏิกิริยา โดยเฉพาะสิงคโปร์ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้งกับเมียนมา ได้เรียกปฏิบัติการของกองทัพเมียนมาว่าเป็น “ความอัปยศของชาติ” นายวิเวียน บาลากริชนัน รมว.ต่างประเทศของสิงคโปร์ เดินทางไปเยือนบรูไนในวันที่ 22 มี.ค.ก่อนไปมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งกำลังหาทางจัดการประชุมเร่งด่วนกับสมาชิกอาเซียนซึ่งเมียนมาเป็นสมาชิก ขณะที่ นาย เฮง สวี เกียต รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวว่าสิงคโปร์หวาดผวาจากการปราบปรามอย่างรุนแรงต่อพลเรือนและเรียกร้องให้กลับสู่วิถีทางแห่งประชาธิปไตยนอกจากนี้ สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นายอ่อง ตู ผู้สื่อข่าวของบีบีซีในเมียนมาซึ่งถูกจับขณะรายงานข่าวนอกศาลในกรุงเนปิดอว์ เมื่อ 3 วันก่อน ได้รับการปล่อยตัวแล้ว หลังจากถูกควบคุมตัวพร้อมกับธัน ไท อ่อง นักข่าวของมิซซิมาซึ่งเป็นสำนักข่าวในประเทศ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่มีเบาะแสว่าถูกปล่อยตัวแล้วหรือไม่.