เมาแล้วขับเมืองกรุง 2 รายมีทั้งตายเจ็บ รายแรก อาจารย์สาวมหาวิทยาลัยย่านรังสิตเมาขับเบนซ์ขยี้วิศวกรหนุ่มคุมงานติดตั้งวางระบบไฟฟ้าใต้ดินเสียชีวิตสยอง ขณะปฏิบัติงานบนสะพานข้ามคลองบางซื่อ อาจารย์สาวยอมรับผิดอ้างมองไม่เห็น แต่เมื่อนำไปเป่าเมาพบสูงถึง 133 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนคดีที่ 2 นักวิเคราะห์นโยบายและแผน สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมาขับฟอร์จูนเนอร์ซิ่งชนดะตั้งแต่หน้ามหาวิทยาลัยเกษตรฯไปถึงตลาดยิ่งเจริญ รถเสียหลักชนกระบะที่จอดริมถนนหมดฤทธิ์ มีคนขี่ จยย.ถูกชนบาดเจ็บ 1 ราย ส่วนคนขับเมาหมดสติ ตำรวจจ่อดำเนินคดีอุบัติเหตุเมาแล้วขับเมืองกรุง 2 ราย รายแรกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 5 มี.ค. พ.ต.ต.กานต์พงศ์ มีสายมงคล สว.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุรถชนมีผู้เสียชีวิต บนถนนรัชดาภิเษก ฝั่งขาเข้า ช่วงคอสะพานข้ามคลองบางซื่อ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจุดเกิดเหตุบนคอสะพานข้ามคลองบางซื่อ ช่องขวาสุด อยู่ระหว่างวางระบบสายไฟฟ้าใต้ดินบนถนนรัชดาภิเษก พบรถเบนซ์ รุ่น อี 250 สีขาว ทะเบียน 8 กฬ 6287 กรุงเทพมหานคร สภาพกันชนหน้าและกระจกหน้าแตกเสียหาย ถัดไปประมาณ 10 เมตร พบร่างชายนอนเสียชีวิตทราบชื่อนายบุญญฤทธิ์ พุ่มประเสริฐ อายุ 26 ปี เป็นวิศวกรคุมงานวางระบบสายไฟฟ้าใต้ดินของบริษัท เจเอ็นซี เอ็นจิเนียร์ แจ็คกิ้ง จำกัด สภาพศพสวมเสื้อยืดโปโลสีน้ำเงิน ทับด้วยเสื้อสะท้อนแสงสีเขียว กางเกงยีนส์ มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะกะโหลกเปิดจากการสอบสวนทราบว่า จุดเกิดเหตุอยู่ระหว่างติดตั้งวางระบบไฟฟ้าใต้ดิน เริ่มดำเนินการตั้งแต่เวลา 24.00-03.30 น. ก่อนจะเปิดพื้นผิวการจราจรให้รถสัญจรตามปกติ โครงการนี้เพิ่งดำเนินการได้ 1 สัปดาห์ ขณะเกิดเหตุนายบุญญฤทธิ์เดินปรับตั้งกรวยกั้นถนนเป็นสัญลักษณ์ให้รถที่สัญจรไปมาระวังว่าเป็นพื้นที่ก่อสร้าง ระหว่างนั้นรถเบนซ์คันก่อเหตุได้ขับพุ่งชนอย่างแรงทำให้ร่างกระเด็นไปไกลนับ 10 เมตร เสียชีวิตทันทีส่วนคนขับรถเบนซ์ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.วีด้า สัตยารมณ์ อายุ 35 ปี อาจารย์คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย หลังเกิดเหตุได้กล่าวขอโทษกับพนักงานเพื่อนร่วมงานของผู้ตาย สาเหตุอ้างว่ามองไม่เห็นว่ามีคนเดินอยู่บนถนน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมืด ทั้งนี้ น.ส.วีด้ายอมรับผิด และขอรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อมาเจ้าหน้าที่นำตัวไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ที่ สน.สุทธิสาร ผลปรากฏว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ 133 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับขี่รถขณะมึนเมาสุราอุบัติเหตุเมาแล้วขับอีกราย เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 6 มี.ค. ร.ต.อ.ชิดชัย ทับสุริย์ รอง สว.จราจร สน.บางเขน รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สน.บางเขน มีรถยนต์ขับในลักษณะหวาดเสียวคล้ายคนขับเมาสุรา บนถนนงามวงศ์วาน ช่วงประตู 2 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม. ไปตรวจสอบพบรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน ฌฮ4794 กรุงเทพมหานคร วิ่งด้วยความเร็วส่ายไปมาบนถนนงามวงศ์วาน เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธิน ขาออก เมื่อถึงช่วงหน้ากรมป่าไม้ รถฟอร์จูนเนอร์คันดังกล่าวได้พุ่งชนรถ จยย.ที่วิ่งอยู่ทำให้คนขี่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่รถฟอร์จูนเนอร์จะเสียหลักพุ่งเสยปีนฟุตปาทกลางถนน แต่ยังกลับมาวิ่งต่อไปตามถนน ลอดอุโมงค์วงเวียนบางเขน พุ่งชนแบริเออร์พลาสติกบริเวณช่วงทางขึ้นอุโมงค์แตกกระเด็น กระทั่งถึงช่วงก่อนตลาดยิ่งเจริญ (สะพานใหม่) ได้เฉี่ยวชนรถ จยย.และพุ่งเสยชนรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน บน 9318 หนองคาย ที่จอดอยู่ริมถนนใต้สถานีรถไฟฟ้า ไปไหนต่อไม่ได้จากการตรวจสอบรถฟอร์จูนเนอร์คันที่ก่อเหตุพุ่งชนดะพบบริเวณหน้ารถพังยับ ที่ล้อหน้าและล้อหลังฝั่งด้านซ้าย ยางแตกบดถนนจนเหลือแต่แม็กล้อเพราะวิ่งมากว่า 10 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวคนขับทราบชื่อนายบุญสรรค์ ประเสริฐกุลชัย อายุ 37 ปี นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับชำนาญการสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อยู่ในสภาพเมาสุรา และมีอาการหมดสติ นำตัวส่ง รพ.ภูมิพลฯ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้มีรถกระบะ และรถ จยย.เสียหาย 2 คัน คนขี่รถ จยย.ได้รับบาดเจ็บ 1 คน นำส่ง รพ.เปาโล เกษตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้เสียหายลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ต้องรอให้อาการเมาสุราดีขึ้นก่อนเรียกตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
