สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า แจค หม่า มหาเศรษฐีชาวจีนผู้ก่อตั้งอาลีบาบา หายตัวลึกลับ หลังจากไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณะมานานกว่า 2 เดือน โดยได้ทวีตครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 10 ต.ค. รวมถึงไม่ปรากฏตัวตามกำหนดในการถ่ายทำรายการ “แอฟริกา บิสิเนส ฮีโรส์” รอบชิงชนะเลิศเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นรายการที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการชาวแอฟริกันรุ่นใหม่ได้แข่งขันแสดงความสามารถเพื่อชิงเงินรางวัล 1.5 ล้านดอลลาร์ สื่อดังของอังกฤษอย่าง เทเลกราฟ ยังรายงานว่าหม่าถูกวางตัวเป็นหนึ่งในผู้ตัดสิน แต่กลับถูกแทนที่โดยผู้บริหารรายอื่นของอาลีบาบา นอกจากนี้ภาพของหม่ายังถูกนำออกจากเว็บไซต์ ขณะที่ นสพ.ไฟแนเชียล ไทมส์ รายงานว่าโฆษกของอาลีบาบายืนยันว่าสาเหตุที่หม่าไม่สามารถร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินได้เนื่องจากตารางเวลาที่ไม่ตรงกันทั้งนี้ แอนท์ กรุ๊ป อาณาจักรธุรกิจของหม่ากำลังถูกตรวจสอบโดยรัฐบาลจีนหลังจากที่หม่ากล่าวสุนทรพจน์ในเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2563 วิพากษ์ วิจารณ์ว่าระบบระเบียบต่างๆของรัฐบาลจีนเป็นการยับยั้งนวัตกรรมและเปรียบกฎธนาคารทั่วโลกว่าเป็นเหมือนสโมสรของคนชรา โดยหม่ากล่าวว่า ระบบการเงินในปัจจุบันเป็นมรดกของยุคอุตสาหกรรม เราต้องสร้างสิ่งใหม่สำหรับคนรุ่นต่อไปและคนรุ่นใหม่ เราต้องปฏิรูประบบปัจจุบันไม่นานหลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ของหม่า การเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ของบริษัทแอนท์ กรุ๊ป (ที่มีมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์ 37,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งได้รับไฟเขียวจากหน่วยเฝ้าระวังหลักทรัพย์ของจีนก็ถูกระงับโดยตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ โดยอ้างว่า แอนท์ กรุ๊ปได้รายงานปัญหาสำคัญต่างๆเช่นการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมของการกำกับดูแลเทคโนโลยีทางการเงิน แต่มาร์ค โมเบียส นักลงทุนระดับตำนานของสหรัฐฯ ได้ให้ความเห็นกับช่อง ซีเอ็นบีซี ว่าการเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีนเป็นการ “จำกัด” สถาบันการเงินไม่ให้มีขนาดใหญ่เกินไป ระบุว่ารัฐบาลจีนเพิ่งตื่นขึ้นมาพร้อมกับข้อเท็จจริงที่ว่าไม่สามารถยอมให้บริษัทเอกชนเหล่านี้มีอำนาจเหนือภาคส่วนใดภาคส่วนหนึ่งและโดยเฉพาะภาคการเงิน โดยทางการจีนเปิดการสอบสวนต่อต้านการผูกขาดในอาลีบาบาเมื่อปลายเดือน ธ.ค.และแจ้งให้ แอนท์ กรุ๊ปปรับโครงสร้างการดำเนินงานที่ผ่านมาหม่าบริจาคหน้ากากอนามัยหลายล้านชิ้นให้กับยุโรป สหรัฐฯ และองค์การอนามัยโลกเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 และยังมีส่วนร่วมในงานการกุศลโดยมูลนิธิแจ็คหม่าที่มุ่งไปที่การศึกษา การเป็นผู้ประกอบการ และสิ่งแวดล้อม ตามรายงานของนิตยสารฟอร์ปส มูลนิธิได้แจกจ่ายหรือให้คำมั่นมากกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.