ดูท่าความไม่ลงรอยกันระหว่าง คนในขบวนการสหกรณ์กับกรมส่งเสริมสหกรณ์ ภายใต้การกำกับดูแลของ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ จะขยายวงไปทุกทีไม่ว่าเป็นเรื่องทุจริต 3,000 ล้านบาท ในสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ (สอ.สรฟ.) แม้กรมสอบสวนคดีพิเศษจะจับกุมผู้ต้องหาได้บางส่วนแล้วก็ตาม แต่ยังหาจุดจบไม่ลงตัว จะแก้ปัญหาสหกรณ์อื่นๆถูกเบี้ยวหนี้ได้ยังไง เพราะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลยังไม่มีทีท่าที่ชัดเจน จะจัดการปัญหานี้ต่อไปอย่างไรก่อนที่จะพากันล้มเป็นโดมิโนล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คนขบวนการสหกรณ์ไทยกว่า 300 คน นำโดย สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ยกขบวนกันไปยื่นข้อเรียกร้องของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครติตยูเนี่ยน คัดค้านร่างกฎกระทรวง 5 ฉบับ ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติในหลักการและอยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักคณะกรรมการกฤษฎีกาถือเป็นเรื่องไม่บ่อยนัก ที่จะได้เห็นคนขบวนการสหกรณ์ออกมาชุมนุมประท้วงเช่นนี้...แต่ยังถือเป็นขั้นออเดิร์ฟ เรียกน้ำย่อยเท่านั้นยังไม่ใช่เมนคอร์ส อาหารจานหลัก เพราะถ้าการยื่นข้อเรียกร้องครั้งนี้ไม่ได้ผล การตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงของกฤษฎีกา ยังไม่นำความคิดเห็นของคนขบวนการสหกรณ์ไปพิจารณาอีก...เมื่อนั้นเมนคอร์ส ได้ถูกเสิร์ฟกลางถนนแน่เพราะการประท้วงที่เกิดขึ้น สาเหตุมาจากการรับฟังความคิดเห็นของกรมส่งเสริมสหกรณ์นี่แหละ...ถึงจะเปิดให้มีการรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปัจจุบันก็ตามทีแต่ทำแบบขอไปที คือ รับฟัง...แต่ไม่นำความคิดเห็นของคนสหกรณ์ ไปใส่ไว้ในร่างกฎกระทรวง มีแต่นำความคิดเห็นของภาครัฐ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่คุ้นชินอยู่กับระบบธนาคาร ไม่เข้าใจในบริบทและปัญหาของระบบสหกรณ์ที่แท้จริงกฎกระทรวงที่จะออกมา 5 ฉบับ แทนที่จะเป็นการส่งเสริมทำให้สหกรณ์เข้มแข็ง...แต่กลับกลายเป็นการบอนไซสหกรณ์ และผลักไสสมาชิกสหกรณ์ให้มีหนี้นอกระบบมากยิ่งขึ้นทำไมคนสหกรณ์ถึงคิดเช่นนั้น...ติดตามได้ในตอนหน้า.สะ-เล-เต