รัฐบาลย้ำโควิดรอบใหม่ไม่ใช่ซูเปอร์สเปรดเดอร์ ขณะนี้ควบคุมสถานการณ์ได้ ประชาชนอย่าตื่น ตระหนก หรือวิตกกังวล ขอให้ใช้ชีวิตกันตามปกติ เชียงราย-เชียงใหม่ ยังเที่ยวได้แต่ให้สวมหน้ากากอนามัยให้ถูกต้อง รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงไปในสถานที่แออัด ยันผู้ติดเชื้อ ที่เชียงราย มาจากแหล่งเดียวคือสถานบันเทิง 1G1 คนไทยที่ตกค้างอยู่ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก หอบหิ้วสัมภาระ หนีโควิด-19 จากเมียนมากลับไทยผ่านด่านพรมแดนที่แม่สาย 26 คน อีก 42 คน กำลังรอกลับ เผยไม่พบ ผู้ติดเชื้อเพิ่มทั้งที่เชียงรายและเชียงใหม่คนไทยจำนวนมากยังมีความหวั่นกลัวกับสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงนี้ อันเป็นผลมาจากกลุ่มสาวท่าขี้เหล็กที่ติดจากเมียนมานำเชื้อมาแพร่ ทั้งนี้ ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิดในประเทศไทยวันที่ 9 ธ.ค.ว่า พบผู้ป่วยใหม่ 25 คนเป็นผู้มาจากต่างประเทศอยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ โดยมาจากเมียนมา 7 คน สวิตเซอร์แลนด์ 6 คน เกาหลีใต้ 3 คน คูเวต ตุรกี สหรัฐอเมริกา ประเทศละ 2 คน รัสเซีย สวีเดน สิงคโปร์ ประเทศละ 1 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,151 คน เสียชีวิตคงที่ 60 คน ส่วนที่มีการส่งต่อคลิปเสียงที่อ้างว่าประเทศกัมพูชามีผู้ป่วยนับหมื่นคนนั้นเป็นข่าวปลอม ความจริงคือขณะนี้พบผู้ติดเชื้อ 33 คน และไม่พบผู้ติดเชื้อพักอาศัยอยู่ในจังหวัดชายแดน ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรม ควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ข้อมูลเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. พบมีผู้ป่วย 46 คน แบ่งเป็นกลุ่มที่เดินเข้าประเทศในช่องทางธรรมชาติ 17 คน กลุ่มที่เข้ามาตามช่องทางที่รัฐกำหนด พบป่วย 27 คน จากจำนวนผู้ที่ขอเข้าประเทศ 196 คน กลุ่มที่ติดเชื้อในประเทศ จากผู้ที่กลับจากเมียนมา 2 คน ขณะนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้รับการติดตามตัวมาดูแลและกักตัวแล้ว ทุกพื้นที่สามารถควบคุมโรคได้ จังหวัดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยจากท่าขี้เหล็ก ไม่มีป่วยเพิ่ม เช่น เชียงใหม่ ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. เชียงราย พบผู้ป่วยเพิ่มแต่อยู่ในสถานที่กักตัว เป็นต้นนพ.โอภาสกล่าวด้วยว่า ดังนั้น จังหวัดเหล่านี้รวมทั้งจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศ สามารถไปท่องเที่ยวได้ โดยขอให้ทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยให้ถูกต้อง โดยคลุมทั้งปากจมูก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ส่วนการกลายพันธุ์ของเชื้อเป็นเรื่องปกติ ปัจจุบันที่มีการระบาดทั่วโลกกว่า 80% เป็นสายพันธุ์ G ส่วนไทยที่พบในสถานที่กักกันเกือบทั้งหมดเป็นสายพันธุ์ G ซึ่งแพร่ได้เร็ว แต่ความรุนแรงของโรคน้อยลง อัตราป่วยเสียชีวิตอยู่ที่ 2% ขณะนี้มีการเผยแพร่ข่าวผ่านโซเชียลมีเดีย ร้อยละ 80 เป็นข่าวปลอม ประชาชนอย่าหลงเชื่อและตรวจสอบข่าวได้กับกรมควบคุมโรค ที่สายด่วน 1422ส่วน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงเรื่องบุคลากรการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในสถานที่กักตัวทางเลือก (ASQ) และ รพ.คู่สัญญา ติดเชื้อรวม 5 ราย ว่าผู้ป่วยทั้ง 5 คน พบว่า ผู้ป่วยหญิง อายุ 25 ปีที่ตรวจพบเป็นรายที่ 4 ของกลุ่มนี้น่าจะป่วยก่อนคนอื่น คือ เริ่มมีอาการวันที่ 29 พ.ย. และคิดว่าตนเองเป็นไข้หวัด เมื่อดูจากประวัติความเสี่ยง พบว่าผู้ป่วยรายนี้น่าจะมีโอกาสได้รับเชื้อก่อนคนอื่น โดยในช่วงวันที่ 24-27 พ.ย. ไปทำงานดูแลครอบครัวผู้กักตัวที่ตอนนั้นยังไม่พบติดเชื้อ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ ภายหลังพบว่าครอบครัวนี้ติดเชื้อทั้งหมดและผู้ป่วยที่อายุ 25 ปี ยังได้ไปรับประทานอาหารร่วมกับผู้ป่วยคนอื่นๆที่พักอยู่ด้วยกัน ทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้น เรื่องนี้ถือเป็นข้อผิดพลาดระดับบุคคลที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ สำหรับผู้ปฏิบัติงานทั่วไป เหมือนแพทย์ พยาบาลที่ถูกเข็มตำระหว่างปฏิบัติงานนพ.โสภณกล่าวอีกว่า รพ.เอกชนต้นสังกัด ได้เก็บตัวอย่างผู้สัมผัสทั้งหมด 280 คน เป็นผู้เสี่ยงสูง 51 คน ไม่พบเชื้อทั้งหมด ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 229 คน ไม่พบเชื้อเช่นกันและ รพ.ต้นสังกัดของผู้ป่วยยังได้ตรวจบุคลากรอื่นๆอีก 465 คน รวมทั้ง รพ. 745 คน ไม่พบเชื้อทั้งหมด ส่วนกรณีมีการส่งต่อข้อความทางโซเชียลมีเดียว่า มีการติดเชื้อโควิด-19 ในผับย่านเซ็นทรัลเวิลด์ ขอยืนยันว่าจากรายงานพบผู้ติดเชื้อใน กทม.มีเพียง 8 ราย คือ 3 รายที่มีความเชื่อมโยงกับจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาและบุคลากรการแพทย์ 5 รายนี้เท่านั้น นอกนั้นยังไม่พบในรายอื่นๆแต่อย่างใด ที่ด่านพรมแดนสะพานที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย คนไทยที่ไปทำงานในโรงแรม สถานบันเทิง บ่อนพนันออนไลน์ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ที่ต้องการกลับเข้าไทยแบบถูกกฎหมายรวม 26 คน มีทั้งหญิงชายและเด็กเล็ก 2 คน ได้ประสานผ่านเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางข้ามด่านพรมแดนสะพานแห่งที่ 2 มาฝั่งไทย เจ้าหน้าที่ได้คัดกรอง ตรวจโรคเบื้องต้นและตรวจสัมภาระคนทั้งหมดพบโทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม อย่างละ 7-8 ชิ้นในกระเป๋าของนายปอน ชาวสงขลา ที่เดินทางมาในกลุ่มนี้ เจ้าตัวแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า เพื่อนที่ไปทำงานด้วยกันกลับมาก่อนโดยทิ้งของเหล่านี้ไว้ ตนกลับมาทีหลังจึงขนข้าวของของเพื่อนมาด้วย ทั้งนี้ เหตุที่คนไทยตกค้างในเมืองท่าขี้เหล็ก เพราะเจ้าหน้าที่สั่งล็อกดาวน์ ปิดกิจการทุกอย่าง ทำให้ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้ กลัวจะอดตายในพม่า จะไปไหนก็ไม่ได้ กลัวถูกเจ้าหน้าที่จับเพราะมีโทษถึงติดคุก จึงขอกลับไทย จากนั้นเจ้าหน้าที่นำกลุ่มคนทั้งหมดไปกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัดให้นอกจากนี้ พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก.ตม.จ.เชียงราย นายออน อุ่นทวีทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สาย น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงรายและประธานหอการค้า อ.แม่สาย นำเจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ไปมอบให้กับ พ.อ.ต่อสิ่นอู ผบ.ยศ. ท่าขี้เหล็ก นายอูมิ้นไหน่ ผวจ.ท่าขี้เหล็ก ที่กลางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา อ.แม่สาย เพื่อแจกจ่ายให้กับ ประชาชนและเจ้าหน้าที่ได้ใช้ป้องกันโควิด-19 ซึ่งฝ่ายไทยได้ขอให้ฝ่ายเมียนมาเร่งรัดนำคนไทยอีก 42 คน ที่ตกค้างในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ได้กลับประเทศโดยเร็วขณะเดียวกันกลุ่มคนขับรถสินค้าในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ที่นำสินค้าไทยไปส่งที่เมืองท่าขี้เหล็กทุกวัน เปิดเผยว่าช่วงนี้มีรายได้ดี ได้ค่าจ้างขับรถเที่ยวละ 200 บาท เพราะต้องขับรถหมุนเวียนนำสินค้าเข้าเมียนมาวันละหลายสิบเที่ยว เนื่องจากช่วงนี้คนที่อยู่ในเมียนมามีการกักตุนอาหาร ซื้อสินค้าอุปโภคมากขึ้น ประชาชนยังออกมาประกอบอาชีพและหาซื้อสินค้าในเวลากลางวันได้ตามปกติ แต่ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคน ที่เชียงใหม่ มีประชาชนจำนวนมากทยอยเข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ อ.แม่ริม ตลอดทั้งวัน รวมทั้งกลุ่มวัยรุ่นนักศึกษาที่ไปเที่ยวงานเทศกาลดนตรี ที่สิงห์ปาร์ค จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ส่วนใหญ่ต้องการมาตรวจให้แน่ใจเพราะอยู่ในสถานที่ตามไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อและหากมีผู้มาเข้ารับการตรวจมากขึ้นอีกโรงพยาบาลจะมีการขยายเวลาตรวจจากเดิมเวลา 08.00-18.00 น. เป็นเวลา 08.00-24.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษก ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากคนไทยเดินทางกลับจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งอย่างถูกต้องและไม่ถูกต้อง จนทำให้มีผู้ติดเชื้อเกิดขึ้น ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง กรณีที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ซูเปอร์สเปรดเดอร์ ที่สำคัญขอให้คนไทยภายในประเทศใช้ชีวิตกันอย่างปกติ ไม่ต้องกังวลเกินเหตุที่รัฐสภา พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. กล่าวถึงมาตรการของกองทัพบกในการสกัดกั้น ผู้ลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อสกัดเชื้อโควิด-19 ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม สั่งการทุกหน่วยที่รับผิดชอบด้านชายแดน ทั้งทหาร ตำรวจ กองกำลังต่างๆยกระดับมาตรการดำเนินงาน โดยเฉพาะกองทัพภาค 3 ได้เพิ่มเติมกองกำลังชุดปฏิบัติการอีกจำนวนหนึ่ง และเพิ่มเครื่องมือสนับสนุน ทั้งลวดหนามหีบเพลงในช่องทางธรรมชาติที่คนมักลักลอบข้ามไปมา เพิ่มการลาดตระเวน การเดินเท้า รถยนต์ การลาดตระเวนด้วยโดรน เฝ้าระวังพื้นที่แนวชายแดน เนื่องจากชายแดนภาคเหนือมีพื้นที่ยาว ต้องทุ่มเทตลอด 24 ชั่วโมง แต่สิ่งสำคัญคือ ประชาชนในพื้นที่ต้องช่วยป้องกันด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมทั้งที่ จ.เชียงราย เชียงใหม่ ประชาชนสามารถไปท่องเที่ยวได้ตามปกติไม่ต้องกังวล แต่ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงไปในสถานที่ผู้คนแออัด ส่วนผู้ติดเชื้อที่พบที่ จ.เชียงราย ยืนยันว่ามาจากแหล่งเดียวกันคือที่สถานบันเทิง 1G1 ท่าขี้เหล็ก ยังไม่มีผู้ติดเชื้อจากที่อื่น ขณะนี้เป็นเพียงการแพร่เชื้อไม่ใช่การระบาดและผ่านมา 10 วันแล้ว ถึงวันที่ 14 ธ.ค.ถ้าไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มถือว่าปลอดภัยแล้ว เพราะได้มีมาตรการคุมเข้มสกัดการลักลอบไม่มีโอกาสที่ผู้ติดเชื้อจะเล็ดลอดเข้ามาอีกด้าน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เมื่อเวลา 11.00 น. น.ส.ธีรดา ยาวิชัย หรือ ตะวัน เทคมีเอาท์ อายุ 26 ปี มาพบ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ศักดิ์ ปิยรัตนสถิตย์ รอง สว. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. ขอแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่แสดงความเห็นในโซเชียลมีเดียที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หลังมีรายการทีวีช่องหนึ่งนำหญิงสาวอดีตสาวสายเอนเตอร์เทนในบาร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ไปออกรายการทีวีเรื่องการไปทำงานที่ท่าขี้เหล็กและมีผู้ชมรายการคิดว่าหญิงคนดังกล่าวคือตน ได้โพสต์ข้อความด่าทออย่างเสียๆหายๆ ทั้งในรายการและในเฟซบุ๊กส่วนตัว ได้พยายามอธิบายไปว่าไม่ใช่ ตนก็ยังมีคนเข้ามาด่าทอ ทำให้เกิดความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและหน้าที่การงาน จึงมาแจ้งความเอาผิดคนที่มาด่า ยืนยันไม่ได้ทำงานสายเอนเตอร์เทนสำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในต่างแดน ยอดติดเชื้อทั่วโลกพุ่งเป็น 68.5 ล้านคน เสียชีวิตรวมกว่า 1.56 ล้านคน องค์กรการกุศลออกซ์แฟมและกลุ่มสิทธิมนุษยชนแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเมินสถานการณ์วัคซีนว่า กลุ่มชาติร่ำรวยที่คิดเป็นสัดส่วน 14 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก ได้ซื้อวัคซีนโควิด-19 ที่มีอยู่ในปัจจุบันไปแล้วถึง 53 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณที่มีอยู่ในขณะนี้ จากการคำนวณเชื่อว่า 70 ประเทศรายได้ต่ำจะได้รับวัคซีนในปีหน้า ที่เพียงพอสำหรับฉีดให้ประชากร 1 ใน 10 คน หรือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเท่านั้น วันเดียวกัน บริษัทเวชภัณฑ์ซิโนแวก ของจีน เปิดเผยว่า จากข้อมูลการทดสอบวัคซีนเบื้องต้นในอินโดนีเซีย พบว่าวัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพสูงถึง 97% เก็บรักษาได้ในอุณหภูมิช่องฟรีซตู้เย็น 2-8 องศาเซลเซียส แต่ทั้งนี้อยู่ระหว่างรอข้อมูลเพิ่มเติมจากการทดสอบในบราซิล ขณะที่รัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ร่วมโครงการทดสอบวัคซีนให้บริษัทซิโนฟาร์ม ประเทศจีน ก็พบว่าวัคซีนซิโนฟาร์มมีประสิทธิภาพ 86% ส่วนวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกาพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด อังกฤษ เผยแพร่รายงานฉบับเต็มว่า วัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ยืนยันว่าไม่มีอาสาสมัครรายใดต้องล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล ภายในกรอบเวลา 21 วันหลังได้รับวัคซีนสำนักข่าวต่างประเทศรายงานด้วยว่า แม้ราคาวัคซีนจีนยังไม่ชัดเจน แต่ที่เมืองเจียซิงของจีนเคยมีการขายวัคซีนซิโนแวกในราคา 200 หยวน หรือประมาณ 920 บาทต่อโดส ขณะวัคซีนซิโนแวกรุ่นที่จีนอนุญาตให้อินโดนีเซียไปผลิตเอง จะอยู่ที่ 13.60 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 435 บาทต่อโดส และแม้วัคซีนจีนจะแพงกว่าของแอสตราเซเนกา/ออกซ์ฟอร์ด ซึ่งอยู่ที่ 4 ดอลลาร์ หรือประมาณ 128 บาทต่อโดส แต่ก็ถูกกว่าของบริษัทโมเดอร์นา ประเทศสหรัฐฯ อยู่ที่ 33 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,056 บาทต่อโดส ส่วนวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ สหรัฐฯ ร่วมกับไบออนเทค เยอรมนี อยู่ที่ประมาณ 20 ดอลลาร์ หรือประมาณ 640 บาทต่อโดส วันเดียวกัน ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 เผยแพร่ข้อมูลว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์ ครบ 77 จังหวัด 123 โรงพยาบาลแล้ว คือ รพ.สังกัดกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รพ.สังกัดกรุงเทพมหานคร รพ.สังกัดกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลสังกัดเครือข่ายโรงเรียนแพทย์ ตามโครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทานเพื่อรับมือสถานการณ์โรคโควิด-19 อาทิ เครื่องช่วยหายใจ 200 เครื่อง เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจและสัญญาณชีพ 28 ชุด เครื่องเอกซเรย์ดิจิทัล 1 เครื่อง เครื่องกำจัดเชื้อโรคและฟอกอากาศบริสุทธิ์ 20 เครื่อง เครื่องช่วยกดหน้าอกเพื่อฟื้นคืนชีพ 5 เครื่อง รถพยาบาลกู้ชีพฉุกเฉิน 8 คัน และรถตรวจชีวอนามัย 13 คัน เป็นต้น