สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศกรุงสตอกโฮล์ม (SIPRI) แห่งสวีเดน เผยรายงานเมื่อ 7 ธ.ค. ว่า บริษัทเอกชนของสหรัฐฯ กับจีนต่างครองตลาดค้าอาวุธโลกแห่งปี 2562 ขณะที่ตะวันออกกลางก็ติดกลุ่ม 25 อันดับโรงงานผลิตอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลกเป็นครั้งแรกด้วย โดยยอดรวมอุตสาหกรรมผลิตและขายอาวุธของสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 61% ตามมาด้วยจีน 15.7% แต่เมื่อมองของจีนแล้วพบว่า ยอดขายอาวุธเมื่อปีกลายนั้นเพิ่มขึ้นเกือบ 5% สะท้อนถึงแผนการปฏิรูปให้ทันสมัยของกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA) ของจีนซึ่งดำเนินมาตั้งแต่ปี 2558ทั้งนี้ บริษัทเอกชนของสหรัฐฯ 6 แห่งกับบริษัทของจีน 3 แห่ง ติด 10 อันดับแรก รวมบริษัท บีเออี ซิสเต็มส์ ของอังกฤษติดอันดับ 7 และนับเป็นครั้งแรกที่บริษัท อีดีจีอี ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) จากตะวันออกกลางที่ติด 25 อันดับแรก โดยอยู่อันดับที่ 22 เช่นเดียวกับสองบริษัทของรัสเซียที่ติดอันดับ 15 และอันดับที่ 25 เพราะการปรับปรุงกองทัพรัสเซียให้มีความทันสมัย ต่างจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังเติบโตช้า ที่ถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรหลังผนวกรวมแคว้นไครเมียของยูเครนเมื่อปี 2557 และราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง อย่างไรก็ตาม ยอดขายอาวุธรวมทั้งสิ้นในกลุ่มท็อป 25 เพิ่มขึ้น 8.5% อยู่ที่ 361,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 10 ล้านล้านบาท) หรือ 50 เท่าของงบประมาณประจำปีการปฏิบัติงานของกองกำลังทหารรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
