“มีเราสามคนอยู่ในชีวิตสมรสนี้ มันก็เลยแออัดไปหน่อย” วังบั๊กกิ้งแฮมแทบแตก ตอนที่ “เจ้าหญิงไดอาน่า” แฉหมดเปลือกกับบีบีซี เมื่อปี 1995 บอกให้โลกรู้ความจริงถึงชีวิตสมรสไร้ความสุข จนกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายนำไปสู่การตัดสินใจหย่าขาดจาก “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” มกุฎราชกุมารอังกฤษ ตามคำแนะนำของควีนเอลิซาเบธที่สองขณะนั้นทั้งคู่ตัดสินใจแยกกันอยู่แล้ว แต่ยังไม่หย่าขาดจากกันอย่างเป็นทางการ โดยช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์เขย่าราชบัลลังก์อังกฤษ พิธีกรทูลถาม “เจ้าหญิงไดอาน่า” ทรงคิดว่า “คามิลล่า ปาร์คเกอร์ โบลส์” คือปัจจัยที่ทำให้ชีวิตคู่ของพระองค์กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ต้องล้มเหลวหรือไม่ เจ้าหญิงตอบด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบว่า “มีเราสามคนอยู่ในชีวิตสมรสนี้ มันก็เลยแออัดไปหน่อย”ขณะเดียวกัน “เจ้าหญิงไดอาน่า” แสดงความกังขาถึงความเหมาะสมของ “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” ในฐานะว่าที่กษัตริย์ในอนาคตของอังกฤษ ทรงยอมรับว่านึกภาพตัวเองไม่ออกเช่นกันว่าจะได้เป็นพระราชินี พร้อมกันนี้ยังเปิดใจหมดเปลือกถึงเรื่องลับส่วนพระองค์ ซึ่งขัดต่อธรรมเนียมปฏิบัติของราชวงศ์วินด์เซอร์ ทรงเล่าถึงโรคซึมเศร้า โรคบูลีเมีย และการคิดสั้นทำร้ายตัวเอง แถมยอมรับว่าเคยมีสัมพันธ์ลับๆกับอดีตครูสอนขี่ม้าของพระโอรส “พันตรีเจมส์ ฮิวอิตต์”เอาจริงๆแล้วมันไม่ได้มีแค่เราสามคนอยู่ในชีวิตสมรสนี้!! แต่ทั้ง “เจ้าหญิงไดอาน่า” และ “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” ต่างซุกกิ๊กมากหน้าหลายตา ในขณะที่มกุฎราชกุมารอังกฤษทรงพัวพันนัวเนีย กับรักแรกฝังใจอย่าง “คามิลล่า ปาร์คเกอร์ โบลส์” และมีข่าวคบซ้อนนักแสดงหญิงมะกัน “บาร์บรา สไตรแซนด์” ในด้านของ “เจ้าหญิงแห่งเวลส์” ก็โผเข้าหาไออุ่นชายอื่นคนแล้วคนเล่า เพื่อชดเชยที่ถูกพระสวามีทิ้งขว้างไม่ไยดีเจ้าหญิงเริ่มใจแตกตอนที่เผลอปันใจให้กับบอดี้การ์ดส่วนตัว “แบร์รี่ แมนนาคี” เป็นหนุ่มหล่อล่ำสัน สุขุมเยือกเย็น ทำหน้าที่อารักขาความปลอดภัยให้เจ้าหญิงตลอด 24 ชั่วโมง ในยามที่เจ้าหญิงทรงทุกข์ทรมานใจที่พระสวามีนอกใจ ก็ได้บอดี้การ์ดคู่กายช่วยซับน้ำตาให้คลายโศกเศร้า อย่างไรก็ดี เมื่อความสนิทสนมเกินนายกับบ่าวแพร่สะพัดไปทั่ว ส่งผลให้บอดี้การ์ดหนุ่มถูกเด้งกลับเข้ากรมกอง จากนั้นไม่นานก็ประสบอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์คว่ำอย่างน่าสงสัย เมื่อปี 1987 “เจ้าหญิงไดอาน่า” ยกให้เขาคนนี้เป็นรักที่ยิ่งใหญ่ อยู่ด้วยแล้วมีความสุขที่สุด เหมือนย้อนวัยไปเป็นเด็กสาวอีกครั้ง ว่ากันว่าคนนี้นางรักมากถึงขนาดเคยคิดจะเก็บผ้าผ่อนหนีออกจากวังไปสร้างชีวิตใหม่ด้วยกันเมื่อชู้รักคนแรกเสียชีวิตกะทันหัน เจ้าหญิงผู้โหยหาความรักความอบอุ่นจากชายหนุ่มรอบข้าง ก็ได้ราชองครักษ์จากหน่วยทหารรักษาพระองค์ “เดวิด วอเตอร์เฮาส์” เป็นเพื่อนแก้เหงายามพระสวามีย่องออกจากวัง แม้จะไม่มีหลักฐานชัดถึงความสัมพันธ์ชู้สาวของทั้งคู่ แต่ข้าราชบริพารใกล้ชิดรู้ดีว่า “เลดี้ได” โปรดราชองครักษ์ผู้นี้มาก เพราะอารมณ์ดีอยู่ใกล้แล้วสบายใจ แถมยังจงรักภักดีไม่เคยปริปากบ่นยามเหวี่ยงวีนในทำเนียบชู้รักของ “เจ้าหญิงไดอาน่า” ยังมีชื่อ “พันตรีเจมส์ ฮิวอิตต์” อดีตครูสอนขี่ม้าของพระโอรส โดยความสัมพันธ์ของทั้งคู่กินเวลายาวนานตั้งแต่ปี 1986-1991 สปาร์กรักครั้งแรกหลังจาก “เลดี้ได” ขอให้ติวเข้มสอนวิชาขี่ม้า ขี่ไปขี่มาก็ชวนกันไปเล่นปูไต่ต่อที่วังเคนซิงตันอีกหนึ่งชายชู้ที่วนเวียนเข้าออกในชีวิต “เจ้าหญิงไดอาน่า” คือ “เจมส์ กิลบีย์” เพื่อนสมัยเด็กที่มีอาชีพเป็นเซลส์ขายรถยนต์ เขาไม่หล่อแต่คารมดี และรักสนุก ทำให้เจ้าหญิงหัวเราะได้ตลอดเวลา ทุกครั้งที่ “เลดี้ได” ทะเลาะกับพระสวามี ก็จะวิ่งไปซบเพื่อนเก่าคนนี้ แม้ทั้งคู่จะยืนกรานว่าเป็นแค่เพื่อน แต่ฟังจากเทปลับถูกดักฟังทางโทรศัพท์ที่ทั้งคู่ป้อนคำหวานใส่กัน บอกได้คำเดียวว่า มากกว่าเพื่อน!! เพราะฝ่ายชายเรียกฝ่ายหญิงว่า “ที่รัก” ถึง 53 ครั้ง และยังเรียกเจ้าหญิงว่า “Squidgy” เป็นชื่อเล่นที่รู้กันเฉพาะสองคน เทปลับนี้สร้างความอัปยศให้ราชวงศ์วินด์เซอร์มาก โดยหนึ่งในผรุสวาทเผ็ดร้อนกระฉ่อนเมืองคือ “เราช่วยงานสารพัด ยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างให้กับครอบครัว...นั่น แต่พวกมันไม่เคยเห็นความดีของเราสักนิด!!” น่าเจ็บใจแทนสะใภ้เจ้าทั้งโลกจริงๆ.มิสแซฟไฟร์