นายกสภาวิศวกรนำผู้เชี่ยวชาญตรวจท่อและจุดเกิดเหตุท่อก๊าซระเบิด คาดท่อฉีกขาด แรงดันก๊าซทำให้เศษดินลอยแตะสายไฟฟ้าแรงสูง เกิดประกายไฟเมื่อเจอกับก๊าซที่รั่วออกมา ทำให้เกิดระเบิด ยังไม่สามารถระบุทำไมท่อถึงฉีกขาด กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เผยยอดผู้เสียชีวิตคงที่ 3 ศพ บาดเจ็บ 66 ราย กลับบ้านได้แล้ว 37 ราย ยันรับผิดชอบเต็มที่ เยียวยาผู้เสียชีวิตรายละ 5 ล้านบาท บาดเจ็บสาหัส 5 แสนบาท ด้านคดี ผบช.ภ.1 ตั้งคณะทำงานเร่งทำคดี หากพบว่าเกิดจากความประมาทแจ้งความดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องจากเหตุสยองท่อส่งก๊าซธรรมชาติของ ปตท. ฝังอยู่ริมถนนเทพราช-ลาดกระบัง หมู่ 9 ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ด้านข้าง สภ.เปร็ง เกิดระเบิดสนั่นเพลิงลุกโชนพวยพุ่งสูงนับสิบเมตรลุกโชนรุนแรงทำให้เกิดเพลิงไหม้บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นวงกว้าง เหตุเกิดเที่ยงวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บ 52 คน บ้านเรือนเสียหาย 34 หลัง รถยนต์และรถ จยย.เสียหายนับร้อยคัน คาดสาเหตุอาจเกิดจากรถแบ็กโฮเข้าไปขุดดินบริเวณแนวท่อ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนั้นความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ต.ค. ที่สนามฟุตซอลโรงเรียนวัดเปร็งราษฎร์บำรุง ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ อยู่ฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุท่อส่งก๊าซระเบิด ตั้งเป็นศูนย์อำนวยการประสานงานช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุท่อก๊าซระเบิด พ.ต.อ.ประเสริฐ บัวขาว ผกก.สภ.เปร็ง จัดพนักงานสอบสวนตั้งโต๊ะรับแจ้งความผู้ประสบเหตุ ขณะที่ทาง ปตท.ได้จัดข้าวกล่องมาแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย และเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติหน้าที่ตลอดทั้ง 3 มื้อ นอกจากนี้ ยังมีการจัดเตรียมที่พักชั่วคราวให้กับผู้ประสบเหตุตั้งแต่เย็นวันเกิดเหตุ แต่ไม่มีผู้แสดงความจำนงเข้าพักเนื่องจากผู้ประสบภัยไปอาศัยอยู่บ้านญาติต่อมา นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงพลังงาน และนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ นายอรรถพลกล่าวว่า ปตท.ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งญาติผู้เสียชีวิต ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 66 ราย กลับบ้านได้แล้ว 37 ราย ปตท. พร้อมรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดนายอรรถพลกล่าวต่อว่า ปตท.จะมอบเงินเยียวยาเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต รายละ 5,000,000 บาท ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสรายละ 500,000 บาท ผู้ที่ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลรายละ 200,000 บาท และผู้ได้รับบาดเจ็บที่ไม่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลรายละ 50,000 บาท สำหรับการชดเชยบ้านเรือนและทรัพย์สินที่เกิดความเสียหาย อยู่ระหว่างประเมินมูลค่าและจะบรรเทาผลกระทบให้ดีที่สุดโดยเร็ว นอกจากนั้น ปตท. ได้ร่วมกับจังหวัดสมุทรปราการ จัดเตรียมที่พักชั่วคราวที่วัดเปร็งราษฎร์บำรุง จัดหาอาหาร น้ำดื่ม และเครื่องใช้ที่จำเป็นให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกครัวเรือน และจัดหาที่พักรองรับในช่วงระหว่างการซ่อมแซมบ้านเรือนประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวย้ำว่า การประกอบกิจการขนส่งก๊าซฯ ผ่านระบบท่อที่ผ่านมา ปตท.ปฏิบัติตามมาตรฐานสากล ASME B31.8 อย่างเคร่งครัด มีการบำรุงรักษาและตรวจสภาพท่อส่งก๊าซฯ เป็นประจำและต่อเนื่องให้มีความแข็งแรงและปลอดภัย ผลการตรวจสอบท่อส่งก๊าซฯ คู่ขนาน (เส้นที่ 2) บนบกที่เกิดเหตุด้วยกระสวยตรวจสอบท่อ (Intelligent PIG) ล่าสุดไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด ขอให้ ประชาชนมั่นใจว่า ปตท.ดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างรัดกุม จะเร่งดำเนินการหาสาเหตุที่แท้จริงร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานภายนอกโดยเร็วขณะเดียวกันศาสตราจารย์ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร นำผู้เชี่ยวชาญสำรวจจุดที่เกิดเหตุก๊าซรั่วบริเวณท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และพื้นที่รอบๆ จากนั้นได้เปิดเผยว่า ได้เห็นสภาพความฉีกขาดของท่อส่งก๊าซเป็นท่อขนาด 36 นิ้ว ความหนา 1.5 เซนติเมตร ความลึก 4 เมตร เพราะจะต้องลอดใต้ถนนอ่อนนุชเทพราช เหตุการณ์ที่ระเบิดคือ ท่อฉีกขาด แรงดันทำให้ดินทะลักขึ้นมา และดินอาจจะมีเศษลอยขึ้นไปแตะกับสายไฟฟ้าแรงสูง ทำให้เกิดประกายไฟ และเมื่อก๊าซลอยไปเจอกับประกายไฟทำให้เกิดระเบิดขึ้น นั่นคือข้อสันนิษฐานเบื้องต้น ยังไม่สามารถระบุที่แน่ชัดได้ว่าทำไมท่อถึงฉีกขาด ต่อมา พล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ได้เดินทางมาที่ศูนย์อำนวยการฯ ในโรงเรียนวัดเปร็งราษฎร์บำรุง นำถุงยังชีพพระราชทานเยี่ยมให้กำลังใจแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยมีนายวันชัย คงเกษม ผวจ.สมุทรปราการ กล่าวรายงานสถานการณ์ หลังจากนั้นได้เดินทางไปดูบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ที่ รพ.รวมชัยประชารักษ์ และ รพ.บางบ่อพ.ต.อ.ประเสริฐ บัวขาว ผกก.สภ.เปร็ง กล่าวว่า ตั้งโรงพักเคลื่อนที่นำตำรวจออกมาตั้งโต๊ะรอรับการแจ้งความจากประชาชนในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอกสารหาย การได้รับบาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย รวมทั้งผู้เสียชีวิต เพื่อรวบรวมให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป ส่วนเรื่องคดี ทาง ผบช.ภ.1 ตั้งคณะทำงาน โดยมีพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงมาดำเนินการในพื้นที่ ดำเนินการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และสอบพยานบุคคล เบื้องต้นมีการสอบในส่วนของพยานบุคคล ซึ่งทำงานอยู่ในเวลาใกล้เคียงที่เกิดเหตุ หากผลออกมาว่าเกิดจากความประมาทก็ต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป ในส่วนของโรงพักได้รับผลกระทบเพียงตัวอาคาร และรถยนต์เสียหาย 5 คัน รถจักรยานยนต์ 6 คัน ขณะนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งให้นำรถคันอื่นเข้ามาทดแทนแล้วผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า มีผู้ได้รับผลกระทบเข้าแจ้งความทรัพย์สินเสียหาย ประกอบด้วยอาคารบ้านเรือน จำนวน 39 หลังคาเรือน รถยนต์ 76 คัน รถจักรยานยนต์ 71 คัน อื่นๆ (เครื่องจักรเช่น ปั๊มน้ำ เครื่องสูบน้ำ) จำนวน 25 ชิ้น ร้านค้า10แห่งนางบุศรินทร์ แสงใหญ่ ผอ.โรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดี กล่าวถึงความเสียหายของโรงเรียนว่า กระจกของห้องชั้น 1 แตกทั้งหมด สายไฟฟ้าในอาคารเรียนเสียหายทั้งระบบ เบื้องต้นได้สั่งให้หยุดเรียนเป็นเวลา 5 วันจนถึงวันที่ 30 ต.ค. หลังจากนั้นจะประเมินสถานการณ์ว่าจะให้หยุดต่อหรือไม่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ พ.ต.อ.หญิงศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษก ตร. และทีมแพทย์จาก รพ.ตำรวจ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจส สภ.เปร็ง ที่ได้รับผลกระทบอาคารและบ้านพักตำรวจไม่ได้รับความเสียหาย แต่สิ่งสาธารณูปโภค ได้แก่ รถยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ 6 คัน ได้รับความเสียหาย คาดว่าเย็นนี้จะสามารถนำมาปฏิบัติงานเพื่อรับใช้ประชาชนต่อไปได้ ขณะเดียวกันทาง รพ.ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสุขภาพประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย ให้โรงเรียนวัดเปร็งราษฎร์บำรุง เป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือประชาชน รวมถึงมีโครงการโรงพักเคลื่อนที่ สภ.เปร็ง มาดูแลอำนวยความสะดวกและรับแจ้งเหตุตลอด 24 ชม. ศปก.แห่งนี้ จะตั้งอยู่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย