ผู้ปกครองเด็กพร้อมทนายความยื่นหนังสือขอให้ตำรวจอายัดคลิปทั้งหมด หลังครูจุ๋มทำร้ายเด็กอนุบาลในห้องเรียน พ่อแม่เห็นคลิปเดือดรับไม่ได้กับพฤติกรรมโหดโร่เข้าแจ้งความ ส่วนผู้บริหารโรงเรียนออกหนังสือชี้แจงขอแสดงความเสียใจและรับผิดชอบ มีคำสั่งไล่ครูจุ๋มออกแล้ว ส่วนเลขาธิการ กช.เผยครูที่อยู่ในห้องอีก 2-3 คนต้องรับผิดชอบด้วย ขณะที่ผู้ปกครองอีกกลุ่มแจ้งความจับ “ครูบลู” ใช้ด้ามพลาสติกที่ตักขยะตีเด็ก ป.2 ยกห้อง อ้างเด็กคุยเสียงดังจากกรณีกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ถนน 345 ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลายรายเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ศุภกร แสงจันทร์ รอง สว. (สอบสวน) สภ. ชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.อรอุมา หรือครูจุ๋ม ปลอดโปร่ง ครูประจำชั้นอนุบาล 1 หลังจากดูภาพกล้องวงจรปิดภายในห้องเรียน ครูจุ๋มทำร้ายเด็กนักเรียนอนุบาลหลายคนด้วยการตบตีอย่างรุนแรง เด็กบางคนถูกเหวี่ยงจนกระเด็นล้มลงกับพื้น ทั้งที่ครูและพี่เลี้ยงอยู่ในห้องเรียนหลายคน แต่ไม่มีใครเข้าห้ามปราม กลับมองเป็นเรื่องปกติ ทำให้เด็กนักเรียนหลายคนกลัวครูจุ๋ม และไม่อยากที่จะไปเรียนหนังสือความคืบหน้าช่วงบ่ายวันที่ 26 ก.ย. ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยนายชาญวิทย์ น้อยสุขยิ่ง อายุ 37 ปี นายกฤตตานน ปัญญาวรชาติ อายุ 36 ปี และนายณรงค์ปกรณ์ อินไชยย์ทอง อายุ 41 ปี ผู้ปกครองเด็กนักเรียน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สถิตพร บุญยรัตพันธุ์ ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ เพื่อยื่นหนังสือและมอบหลักฐานขอให้ดำเนินคดีกับ น.ส.อรอุมา หรือครูจุ๋ม ปลอดโปร่ง อายุ 30 ปี ครูประจำ ชั้นอนุบาล 1 ที่ลงมือทำร้ายเด็กนักเรียนนายรณณรงค์เปิดเผยว่า วันนี้พาผู้ปกครองยื่นหนังสือเพื่อขอให้ตำรวจอายัดคลิปทั้งหมดที่บันทึกเหตุการณ์ และให้ดำเนินคดีตามมาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท เพราะข้อหานี้เป็นการทำร้ายจิตใจของเด็กด้าน พ.ต.อ.สถิตพร บุญยรัตพันธุ์ ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนสอบปากคำ ผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายไปแล้ว 5 ปาก และยังมีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความในวันนี้อีก 2 ราย รวมเป็น 7 ราย ตำรวจส่งตัวเด็กที่ถูกทำร้าย ทั้ง 7 คนไปตรวจร่างกายที่ รพ.ปากเกร็ด 2 ขณะนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ส่วนเด็กที่ถูกทำร้าย พนักงานสอบสวนนัดกับทางสหวิชาชีพ เพื่อเร่งสอบปากคำให้แล้วเสร็จ โดยเร็วที่สุด ส่วนครูพี่เลี้ยงคนอื่นๆ อีก 3-4 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ยังอยู่ในการสอบสวนขยายผลว่าจะมีส่วนรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อหากับครูจุ๋ม เนื่องจากต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จ หากตรวจสอบพบว่ามีการทำผิดจริงจะเรียก มาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไปด้านนายณรงค์ปกรณ์ อินไชยย์ทอง อายุ 41 ปี 1 ในผู้ปกครองที่ลูกถูกทำร้าย เปิดเผยว่า เพิ่งทราบว่าลูกชายถูกทำร้ายเหมือนกัน เมื่อเห็นคลิป ลูกชายถูกทุบหลัง จับหัวโขกโต๊ะ แล้วบิดหูลากเข้าไปทำร้ายต่อในห้องน้ำ ก่อนปล่อยเด็กออกมาเข้าห้องเรียน ส่วนอีกคลิปครูจุ๋มจับมือลูกชายมีแป้งอยู่ในมือ แล้วละเลงหน้าผลักหัวทิ่ม ได้ยินเสียงลูกชายขอร้องว่าพอแล้ว แต่ครูจุ๋มยังทำอีก เป็นอะไรที่เจ็บปวดใจมากขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ออกหนังสือชี้แจงไปยังศึกษาธิการ จ.นนทบุรี เรื่องการลงโทษนักเรียนที่ไม่เหมาะสม จากเหตุการณ์พฤติกรรมการลงโทษนักเรียนที่เกิดขึ้นในวันที่ 23 ก.ย.63 ว่า ทางโรงเรียนขอแสดงความเสียใจต่อนักเรียนและผู้ปกครอง และขอแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เร่งติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีผู้ปกครองหลายรายร้องเรียนว่า เด็กถูกครูพี่เลี้ยงทำโทษเกินกว่าเหตุ กระทั่งทางโรงเรียนตรวจสอบพบว่า น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง ครูประจำระดับชั้น อนุบาล 1 ทำโทษเด็กเกินกว่าเหตุจริง ผู้บริหารเรียกให้มาชี้แจง และยอมรับว่ากระทำการและใช้วาจา ไม่เหมาะสมต่อนักเรียน ทำให้นักเรียนได้รับความเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจ ทางโรงเรียนมีคำสั่งให้ พ้นสภาพของการเป็นบุคลากรของโรงเรียนทันที และจะลงโทษทางวินัยต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นอันดับ ต่อไป โดยไม่ได้เพิกเฉยหรือเข้าข้างผู้กระทำผิด อีกทั้งจะเยียวยาแก้ไขป้องกันให้เป็นสถานศึกษาที่ปลอดภัยต่อไปด้านนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่า สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) นนทบุรี ทราบว่า ผู้บริหารโรงเรียนมีคำสั่งไล่ออกครูพี่เลี้ยงคนดังกล่าวไปแล้ว ขณะเดียวกันให้ ศธจ.นนทบุรี ไปตรวจสอบว่าครูพี่เลี้ยงที่บอกว่าได้รับคำสั่ง ให้มาปฏิบัติหน้าที่รายนี้ เป็นครูจริงและมีใบประกอบวิชาชีพครูหรือไม่ ถ้าไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู แม้จะทำหน้าที่เป็นเพียงครูพี่เลี้ยง แต่หากมาทำหน้าที่ ตามบทบาทหน้าที่ครู แล้วมาทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จะแจ้งไปยังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เพื่อ กล่าวโทษต่อไปเลขาธิการ กช. กล่าวอีกว่า สั่งการให้ ศธ.จ.นนทบุรี ไปช่วยตรวจสอบด้วยว่ามีผู้ใหญ่อีก 2-3 คน ที่อยู่ในคลิปถูกระบุว่าเป็นคุณครูนั้นเป็นครูจริงหรือไม่ หากเป็นครูจริงแต่เห็นเหตุการณ์แล้วนิ่งเฉยไม่ทำอะไร เท่ากับว่ายอมรับกับสิ่งที่ครูพี่เลี้ยงกระทำ ส่วนนี้ปล่อยไว้ไม่ได้เช่นกัน และในระยะหลังมานี้ โรงเรียนสารสาสน์วิเทศในหลายๆสาขา ถือว่ามีเรื่องร้องเรียนเข้ามายัง สช. เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ จะมีทั้งการเก็บค่าเล่าเรียนที่แพงมาก บางสาขารับเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวไปแล้ว แต่ค่าเทอมไม่ได้ลดลง ตนมอบหมายให้กลุ่มงานโรงเรียนสามัญศึกษาของ สช.ประสานไปยังผู้รับผิดชอบโรงเรียนสารสาสน์วิเทศเข้ามาพูดคุย และรับทราบปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับกลุ่มโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ“การที่มีครู 2-3 คน อยู่ในคลิปในห้องเรียนด้วยระหว่างที่ครูพี่เลี้ยงทำร้ายเด็ก แต่มาอ้างว่ามองไม่เห็นนั้น คงเป็นไปไม่ได้ ถือว่ามีความผิดจะไม่ต้อง รับผิดชอบอะไรเลยคงไม่ได้ โรงเรียนจะต้องมีการดำเนินการเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เท่าที่ผมมองระดับผู้บริหารคงไม่รู้เรื่องจริงๆ เพราะหากรู้เรื่องด้วยคงไม่ปล่อยให้นำเอาคลิปมาเปิดดูพร้อมกับผู้ปกครองนักเรียน ผมถือว่าเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนที่สำคัญให้กับโรงเรียนอื่นๆด้วย และต่อไปอาจจะต้องมีการติดวงจรปิดในทุกห้องเรียน เมื่อมีปัญหาขึ้นมาจะได้ ฟ้องกันด้วยภาพ” นายอรรถพลกล่าวต่อมาเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน น.ส.จิรภา แสงสุวรรณ์ อายุ 41 ปี แม่ของนักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ไปรับลูกที่โรงเรียน ลูกบอกว่าถูกนายสุทธิพร หรือครูบลู วงษ์ขวัญเมือง อายุ 23 ปี ครูสอนดนตรี ใช้ด้ามพลาสติกที่ตักขยะ ตีมือเด็กนักเรียนทั้งห้อง 39 คน จนด้าม พลาสติกแตก อ้างเด็กนักเรียนคุยกันเสียงดัง ส่วนลูกสาวไม่รู้เรื่องไปเข้าห้องน้ำกลับมายังถูกตีไปด้วย หลังเกิดเหตุวันที่ 19 ส.ค. ตนพร้อมด้วยผู้ปกครอง 7 คน เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ณัฐพล ดวงสุริยา รอง สว. (สอบสวน) สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี ให้ดำเนินคดีกับนายสุทธิพร วงษ์ขวัญเมือง นับเป็นอีกคดีที่เกิดขึ้นกับโรงเรียนแห่งนี้
