หวั่นโรคใบร่วงชนิดใหม่อาจกลับมาระบาดหนักเพราะอากาศที่มีความชื้นสูง กยท.เตือนเกษตรกรชาวสวนยางการ์ดอย่าตก หมั่นดูแลสวนยาง ย้ำควรใส่ปุ๋ยบำรุงต้นและไม่ควรกรีดหน้ายางหักโหม โดยเฉพาะในสวนยางที่สภาพต้นไม่สมบูรณ์แข็งแรงนายกฤษดา สังข์สิงห์ ผอ.สถาบันวิจัยยาง การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวเตือนพี่น้อง เกษตรกรชาวสวนยางว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยมีฝนตกชุกอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมขังและสวนยางพาราของเกษตรกรอาจได้รับความเสียหาย จึงต้องหมั่นเข้าไปดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งการดูแลสวนยางในช่วงฤดูฝนนั้น กยท. แนะนำให้ใส่ปุ๋ยบำรุง เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำทั้งในช่วงต้นฤดูฝนและปลายฤดูฝน เพื่อสร้างความสมบูรณ์ของต้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตน้ำยางพาราของต้นยาง ช่วงฤดูฝนมีปริมาณฝนตกมากทำให้สวนยางมีความชื้นสูงเหมาะแก่การเข้าทำลายของเชื้อราต่างๆ ที่ก่อให้เกิด โรคกับต้นยาง “หลังการกรีดยาง เกษตรกรควรใช้ ยาทารักษาหน้ายางเป็นประจำเพื่อป้องกันโรคจากเชื้อรา ในกรณีที่เกิด น้ำท่วมขัง ควรจัดการระบายน้ำ ออกจากสวนยางให้เร็วที่สุด โดยการขุดร่องน้ำกึ่งกลางระหว่างแถวต้นยาง เพื่อให้น้ำระบายไปอยู่ในร่องน้ำที่ขุดไว้ แต่ไม่ควร ใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ในการขุดร่องน้ำ เพราะอาจกระทบกระเทือนต่อระบบรากของต้นยางได้ หากเกิดน้ำท่วมขังในสวนยาง ไม่ควรเข้าไปกรีดยาง จนกว่าสภาพดินจะแห้งเป็นปกติ เพราะรากของต้นยางบางส่วนจะได้รับการกระทบกระเทือน ไม่สามารถดูดธาตุอาหารไปเลี้ยงต้นยางได้” ผอ.สวย.กยท. กล่าวย้ำว่า สิ่งที่กังวลมากที่สุด คือโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราที่เคยระบาดหนักในหลายพื้นที่ในภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับสภาพภูมิอากาศที่ร้อนสลับชื้นในช่วงนี้ จะช่วย หนุนให้เชื้อราที่สะสมอยู่ในพื้นดินแปลงสวนยางพารากลับมาแพร่ระบาดได้ กยท. จึงอยากให้เกษตรกรชาวสวนยาง การ์ดอย่าตก หมั่นตรวจสอบสวนยางพาราของตนเอง ใส่ปุ๋ยบำรุงรักษาต้นยางพารา และกำจัดวัชพืชรวมถึงเศษซากใบต่างๆ ในแปลงที่อาจมีเชื้อราสะสมและก่อให้เกิดการระบาดขึ้นอีก หากพบความผิด ปกติในสวนยางพาราให้เกษตรกรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ กยท. ในพื้นที่เพื่อเข้าตรวจสอบสวนยางพาราและหาแนวทาง ป้องกันกำจัดได้ทันท่วงที.