เมื่อ 11-12 ก.ค. ชาวฮ่องกงแห่ออกไปลงคะแนนเลือกตั้งขั้นต้นอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งจัดขึ้นโดยขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อสรรหาตัวผู้สมัครที่ดีที่สุดของตนไปชิงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกง (เลกโก) ที่จะมีการเลือกตั้งในเดือน ก.ย.นี้ โดยฝ่ายประชาธิปไตยตั้งเป้าครองเสียงข้างมากในเลกโกซึ่งปกติฝ่ายที่ฝักใฝ่จีนครองเสียงข้างมาก โดยผู้จัดอ้างว่าแค่วันแรกเมื่อ 11 ก.ค. มีผู้ออกไปลงคะแนนล้นหลามเกือบ 230,000 คน มากกว่าที่ประเมินไว้ที่ 170,000 คนอย่างมากฝูงชนหลั่งไหลไปลงคะแนนท่ามกลางอากาศร้อนจัด แม้นายเอริก จ้าง รมว.กิจการรัฐธรรมนูญฮ่องกงเตือนเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจละเมิดกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของจีนในฮ่องกง ซึ่งห้ามการแทรกแซงและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล แต่ฝ่ายผู้จัดไม่สนใจ ระบุว่าเพียงต้องการให้รัฐบาลรับผิดชอบและรับฟังเสียงประชาชน ด้วยการครองเสียงข้างมากในเลกโกขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งประกอบด้วยพรรคการเมืองหลายพรรค ใช้วิธีระดมทุนจากมหาชนเพื่อใช้จัดการเลือกตั้งครั้งนี้ และประกาศว่าถ้าได้ครองเสียงข้างมากในเลกโกจะใช้สิทธิยับยั้งหรือวีโต้ร่างกฎหมายงบประมาณของรัฐบาลฮ่องกง โดยภายใต้กฎหมายพื้นฐาน (Basic Law) ในข้อตกลงก่อนอังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนจีนในปี 2540 ผู้นำสูงสุดของฮ่องกง ซึ่งปัจจุบันคือนางแคร์รี แลม ต้องลาออกถ้ากฎหมายสำคัญเช่นกฎหมายงบประมาณถูกวีโต้ในเลกโกถึง 2 ครั้งการเลือกตั้งครั้งนี้มีขึ้น 2 สัปดาห์หลังจีนเริ่มบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ในฮ่องกงเมื่อ 30 มิ.ย. ระบุให้การแบ่งแยกดินแดน การล้มล้างอำนาจรัฐบาลกลาง การก่อการร้าย และการสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ มีความผิดทางอาญา มีโทษจำคุก 3 ปี ถึงตลอดชีวิต จีนยังเข้าไปตั้งสำนักงานความมั่นคงในฮ่องกงเป็นครั้งแรกเพื่อบังคับใช้ ก.ม.นี้ ซึ่งให้อำนาจตำรวจกว้างขวางในการตรวจค้นโดยไม่ต้องมีหมายศาล สามารถสั่งผู้ให้บริการอินเตอร์และแพลตฟอร์มต่างๆ ลบข้อมูลที่เห็นว่าละเมิดกฎหมายนี้ได้ แต่ถูกฝ่ายประชาธิปไตยในฮ่องกงและนานาชาติต่อต้านอย่างหนัก ชี้ว่าบ่อนทำลายสิทธิเสรีภาพและหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ในฮ่องกงเมื่อ 10 ก.ค. ตำรวจฮ่องกงยังบุกตรวจค้นสำนักงานของ “สถาบันวิจัยความคิดเห็นสาธารณะ” (พีโออาร์ไอ) ผู้ร่วมจัดการเลือกตั้งขั้นต้นครั้งนี้ โดยอ้างว่าสงสัยระบบคอมพิวเตอร์ของพีโออาร์ไอถูกแฮ็กทำให้ข้อมูลรั่วไหลและกำลังสอบสวนเรื่องนี้.