อนาคตต้องแต่งงานแน่ แต่ยังไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่หลังจากเลิกกั๊กสถานะหัวใจ ไฟเขียวเรียก “แฟน” เต็มปาก ดีกรีความสวีตหวานก็พุ่งขึ้นเรื่อยๆ สำหรับพระเอกหนุ่มอารมณ์ดี เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี และยังกล้าพูดได้ว่า ณ นาทีนี้ไม่มีใครรู้ใจสาว ใหม่ ดาวิกา เท่ากับ ลุงเต๋อ คนนี้อีกแล้ว ทั้งนี้หนุ่ม เต๋อ มาร่วมบวงสรวงเปิดกล้องละคร “Help me คุณผีช่วยด้วย” ช่อง 3 ที่บริษัท ทีวีซีนเจ้าตัวเผยว่า “เรื่องแปลกนะผมจะพูดสิ่งที่เค้าคิด สมมติเค้ากำลังคิดอยู่แล้วผมก็พูดคำนั้นออกมาเลย บางทีเค้าจะหงุดหงิดเพราะเหมือนเราไปแย่งเค้าพูด เหมือนเรารู้สึกว่าเค้าอยากจะพูดแบบนี้ ผมก็จะรีบพูดก่อนที่เค้าจะพูด (หัวเราะ)”ทำไมถึงอ่านใจได้ขนาดนั้น?“จริงๆไม่ได้ยาก เช่นเค้าหยิบของชิ้นนึงแล้วหน้าตาบ่งบอกว่าชอบมาก ผมจะพูดออกมาอันนี้สวยอ่ะ อยากได้ พูดในสิ่งที่เค้าจะพูดออกมา หรือว่าเค้าเหนื่อยมากจนอยากนั่งพัก เราก็จะพูด โอ๊ย เหนื่อยมากอยากนั่งพักมากเลย คือผมพูดแทนเค้า เค้าก็จะโวยว่าผมไปแย่ง เค้าพูดทำไม ซึ่งผมว่าสนุกดี”มีโมเมนต์หวานๆออกมาเรื่อย?“ไม่ครับ เรื่อยๆปกติ ที่บอกว่าหวาน แต่นั่นคือสิ่งที่ผมทำแล้วมันไม่ได้รู้สึกว่าเป็นความหวานอะไร ผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติที่เราทำ แต่คนจะชอบพูดว่าเราหวาน สวีตจังเลย สำหรับเราไม่รู้สึกมันหวานขนาดนั้น” เวลาโพสต์รูปหรือแคปชันหวานจนมดไต่เลยนะ?“ไม่นะครับ เพราะว่ามดไต่มันน่าจะกัดหูผมตอนคุยโทรศัพท์แล้วล่ะครับ (ยิ้ม) ล้อเล่น จริงๆแล้วก็คุยปกติแหละ แต่ผมไม่รู้ว่าคนอื่นจะมองว่าหวานหรือเปล่านะ แต่เรารู้สึกว่าเป็นธรรมชาติของตัวเรา ส่วนเค้าก็เป็นตัวของตัวเอง”ช่วงที่ผ่านมามีเวลาไปเที่ยวด้วยกันมากน้อยแค่ไหน?“ไม่ค่อยมีครับ มีบ้างไปโน่นไปนี่แต่ก็จะนานๆที ทุกวันนี้เราทำงาน 7 วันเท่ากันเลย (หัวเราะ) มีแรงก็ทำงานไป เพราะช่วงโควิดก็ว่างเยอะ พอว่างสิ่งที่เกิดขึ้นคืออยากทำงาน พอได้ทำงานถึงแม้จะเหนื่อยแต่เป็นสิ่งที่เราอยากได้ไม่ใช่เหรอ” ก่อนหน้านี้ใหม่ป่วยเป็นยังไงบ้าง?“ใช่ครับ เค้ามีอาการบ้านหมุน ซึ่งก็ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด มันเกิดขึ้นกับใครก็ได้”ช่วงที่ ใหม่มีอาการบ้านหมุนเราดูแลเค้ายังไงบ้าง?“ก็พยายาม ดูแลครับ พยายามช่วย จะว่าโชคดีก็โชคดีเพราะช่วงนั้นอยู่ในช่วงโควิด เค้ามีโอกาสได้พักไม่ต้องไปทำงาน มีไปหาหมอ ผมก็ช่วยดูแลพาไปหาหมอ ตอนนี้ก็สุขภาพดีขึ้น หายแล้ว แต่ผมไม่อยากให้คนไปโฟกัสมัน ผมรู้สึกว่าถ้ามันหายแล้วเราก็ทำชีวิตให้ปกติ ไม่งั้นเราจะเสียเวลาไปกับการกังวล ผมพยายามบอกเค้าอย่าไปคิดเยอะ”แสดงว่าใหม่วิตกกับอาการป่วย?“เค้าเครียดมากเลย เพราะเค้าไม่เคยเป็นแบบนี้”ความรักครั้งนี้เติมเต็มขนาดไหน?“ครับ ก็เป็นตัวของตัวเอง จะใช้คำว่าเติมเต็มก็ได้ เป็นความสุขมากกว่า การมีเค้าอยู่และเค้าพร้อมซัพพอร์ตเราทุกเรื่อง เราพร้อมซัพพอร์ตเค้าทุกๆเรื่องเหมือนกัน เป็นกำลังใจและเป็นความสุขให้กับตัวเราและตัวเค้า” มีคอมเมนต์ดราม่าว่า เหมือนพี่น้อง ไม่เหมาะกันเลย เจอแบบนี้บั่นทอนเรามั้ย?“ผมไม่ใส่ใจเลยครับ การที่เราจะเลือกคบใคร อยู่กับใคร เป็นเพื่อนกับใคร มันเป็นเรื่องของเรากับคนคนนั้น คนข้างนอกไม่มีทางรู้จักเราได้ดีเท่ากับตัวเรา ดังนั้นถ้าเรามัวแต่เอาสิ่งนี้มาบั่นทอนจิตใจมันเสียเวลามากกว่า ไม่ได้รู้สึกเป็นดราม่าด้วยซ้ำ คนที่พร้อมสนับสนุนเราเยอะมาก สิ่งเหล่านี้ก็เป็นกำลังใจให้เรา คนที่เค้าติหรือคอมเมนต์ ถ้าเป็นประโยชน์เราจะฟัง แต่อะไรที่ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นก็ข้ามไปเลย”ด้วยวัยของเต๋อตอนนี้เริ่มคิดเรื่องของการแต่งงานหรือยัง?“ไม่ได้คิดขนาดนั้น ทำทุกๆวันให้ดีที่สุด อนาคตมันต้องมีสิ่งที่จะการันตีว่าอนาคตจะดีมั้ย ซึ่งเราก็ต้องทำโน่นนี่นั่นให้มันดีก่อน ดังนั้นผมคิดในแต่ละวันว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด ซึ่งสุดท้ายแล้วยังไงผมก็ต้องแต่งงาน ผมอยากมีชีวิตครอบครัว มีลูก มีความสุขกับชีวิตครอบครัวในอนาคตนะ ซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นเมื่อไหร่ ณ เวลานี้ผมไม่ได้คิดว่าสิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้”.