เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ครม.มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้1.นายเธียรชัย ณ นคร เป็นประธาน มีกรรมการประกอบด้วย 2.นายนวนรรน ธีระอัมพรพันธุ์ 3.พันตำรวจโท เธียรรัตน์ วิเชียรสรรค์ 4.นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ 5.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทศพล ทรรศนกุลพันธ์ 6.นางสาวฐิติรัตน์ ทิพย์สัมฤทธิ์กุล 7.ศาสตราจารย์ศุภลักษณ์ พินิจภูวดล 8.ศาสตราจารย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา 9.นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล 10.นางเมธินี เทพมณีดร.นคร เสรีรักษ์ ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ Privacy Thailand ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องข้อมูลข่าวสารได้ตีแผ่เรื่องนี้ทีละประเด็นว่าเป็นที่แน่นอนแล้วว่าพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ซึ่งเดิมจะมีผลบังคับใช้ครบทุกมาตราในวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 ได้ถูกเลื่อนการบังคับใช้ออกไปอีกหนึ่งปี โดยล่าสุดคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอในการประชุมเมื่อ 19 พฤษภาคม 2563 โดยให้เหตุผลว่าผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นหน่วยงานและกิจการต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวนมากทั่วประเทศยังไม่พร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมายกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยนับว่ามีการพัฒนาที่ยาวนานมาก ถ้าจะนับตั้งแต่การริเริ่มออกกฎหมายภายใต้นโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาลเมื่อปี 2539 จนมีการตั้งกรรมการขึ้นมาร่างกฎหมายครั้งแรกในช่วงปี 2540 เราใช้เวลาถึง 23 ปี จึงได้มี พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลออกมาใช้กันในวันนี้ตลอดเวลายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา มีการจัดทำร่างกฎหมายถึง 5 ฉบับ ผ่านรัฐบาลหลายคณะ ร่างกฎหมายเข้าสภาครั้งแรกโดยรัฐบาลชุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส่งไปยังรัฐสภาเมื่อเดือนตุลาคม 2552 รัฐบาลในสมัย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ยืนยันร่างนี้อีกครั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2556 สุดท้าย รัฐบาลทหาร ได้ส่งร่างฉบับนี้ไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติอีกครั้งเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2557ต่อมากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้เสนอร่างกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอีกฉบับ ในชุดกฎหมายขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2558 ร่างฉบับนี้มีการปรับแก้หลายครั้ง จนในที่สุดรัฐบาลได้ส่งให้ สนช.พิจารณา และ สนช. ได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562กฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นมา โดยบังคับทันทีสำหรับเรื่องกรรมการและสำนักงานในหมวด 1 และหมวด 4แต่หมวด 2, 3, 5, 6 และ 7 และมาตรา 95 และ 96 ซึ่งสำคัญมากเพราะเป็นบทบัญญัติว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองสิทธิพลเมือง ให้ใช้บังคับเมื่อครบหนึ่งปีนับแต่วันประกาศ ดังนั้น กฎหมายฉบับนี้จะใช้บังคับเต็มฉบับครบทุกมาตรานับแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไปแต่ล่าสุดบทบัญญัติเหล่านี้ได้ถูกเลื่อนการบังคับใช้ออกไปอีกหนึ่งปีตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกาที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอนับจากวันที่กฎหมายเริ่มมีผลบังคับใช้ ดูเหมือนจะมีเพียงความเคลื่อนไหวของการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีการกำหนดหลักเกณฑ์การสรรหาและกำหนดคุณสมบัติผู้สมัคร และเพิ่งมีการแต่งตั้งประธานและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกันเมื่อ 19 พฤษภาคม 2563ประเทศไทยใช้เวลาในการออกกฎหมายนี้ถึง 23 ปี จึงมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นครั้งแรก คนไทยรอต่อมาอีก 1 ปีเต็มด้วยความหวังสิทธิพลเมืองจะได้รับการดูแลครบถ้วนตามกฎหมาย แต่วันนี้คนไทยจะต้องรอต่อไปอีกหนึ่งปี กฎหมายนี้จึงจะได้เริ่มทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิพลเมืองอย่างแท้จริง.“ซี.12”