เมื่อวันที่ 10 มี.ค. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยหลังตรวจจุดจับ-ปรับผู้ขับขี่จอดรถรถจักรยานยนต์บนทางเท้า 4 จุดในพื้นที่เขตธนบุรี บางคอแหลม ยานนาวา ว่า กทม.กวดขันจับปรับผู้ฝ่าฝืนขับขี่หรือจอดรถบนทางเท้าอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เดือน ก.ค.2561 สามารถจับปรับผู้กระทำความผิดเป็นเงินกว่า 29.3 ล้านบาท ขณะที่การให้รางวัลนำจับสำหรับผู้แจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิด โดยการถ่ายภาพ แจ้งข้อมูล รายละเอียดการกระทำความผิด ส่งมาตามช่องทางต่างๆ เช่น ทางแอปพลิเคชันไลน์ของสำนักเทศกิจ ชื่อ “รางวัลนำจับ” ปัจจุบันมีการดำเนินคดีตามที่มีการแจ้งข้อมูลจำวน 31,907 คดี เปรียบเทียบปรับแล้ว 1,336 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการ 30,571 คดี มีผู้แจ้งเบาะแสมารับเงินส่วนแบ่งเป็นรางวัลนำจับแล้ว 1,072 คดี รวมเป็นเงิน 495,700 บาท ยังไม่มารับส่วนแบ่ง 181 คดี และไม่ประสงค์รับเงินรางวัลนำจับ 83 คดีรองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ที่ผ่านมาการรายงานผลการตั้งจุดกวดขันของเขตธนบุรีในปีที่ผ่านมามีการจับปรับได้น้อย เพียง 137,000 บาท เมื่อเทียบกับเขตวัฒนา วังทองหลาง จตุจักร บางกะปิ ห้วยขวาง สามารถจับกุมได้เขตละ 3 ล้านกว่าบาท หลังจากนี้ เขตจะต้องปรับแผนการทำงานและเข้มงวดมากขึ้น ยืนยันว่า กทม.ไม่ได้หวังผลที่จำนวนเงินค่าปรับ แต่ต้องการให้ประชาชนเกิดความเกรงกลัวต่อกฎหมาย ไม่กล้าทำผิด เพราะโทษปรับสูง และ กทม.ปรับจริง เพื่อให้ทางเดินเท้าเป็นทางเดินเท้าจริงๆ ไม่ใช่ทางสำหรับขับหรือจอดรถนายสกลธีกล่าวอีกว่า กทม.พยายามสนับสนุนอุปกรณ์ทำงานแก่เจ้าหน้าที่ เช่น มีการนำกล้องแอ็กชันคาเมราที่นิยมติดที่หมวกกันน็อกสำหรับบันทึกภาพวิดีโอ หรือภาพนิ่ง โดยตนและคณะทำงานได้นำเงินส่วนตัวจัดซื้อให้เขตที่จับกุมผู้กระทำผิดได้มากที่สุด 5 อันดับที่กล่าวในข้างต้น เขตละ 2 ตัว เพื่อเป็นรางวัล และทดลองใช้งาน ซึ่งกล้องจะติดที่หมวกของเจ้าหน้าที่เทศกิจระหว่างปฏิบัติหน้าที่ คล้ายๆกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ทั้งนี้ จะเสนอผู้บริหาร กทม.จัดหาให้แต่ละสำนักงานเขตไว้ใช้ ขณะปฏิบัติหน้าที่.