ปัญหาผู้ป่วยติดไวรัสโควิด-19 และฝุ่น pm 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่รัฐบาล ลำพังแค่แก้ปัญหาดูแลประชาชนยากอยู่แล้ว ยังต้องคอยชี้แจงเก็บกวาดปัญหา “เฟกนิวส์” เป็นงานยากของรัฐบาลทีเดียวช่วงที่ประเทศเจอปัญหาสารพัด โดยเฉพาะความกังวลเรื่องความปลอดภัยการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และฝุ่น pm 2.5 กลับมีอีกหนึ่งปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น ขาดแคลน “หน้ากากอนามัย”หาซื้อยากตามท้องตลาดทำให้คนบางกลุ่มอาศัยจังหวะกักตุนหน้ากากอนามัยและขายในราคาแพงสูงกว่าความเป็นจริงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้กระทรวงพาณิชย์แก้ปัญหา กำหนดเป็นสินค้าควบคุม การกักตุนหน้ากากอนามัยจำหน่ายแพงเกินจริง ถูกจับปรับ มีโทษถึงจำคุก โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ให้ตำรวจทุกโรงพักออกตรวจสอบและจับกุมร้านค้าที่จำหน่าย “หน้ากากอนามัย” เกินราคา และสุ่มตรวจร้านค้าที่นำหน้ากากอนามัยที่ไม่มีคุณภาพขายให้ผู้อื่นพ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ ออกตรวจสอบร้านค้าที่จำหน่ายหน้ากากอนามัยในพื้นที่ 17 ร้าน พบว่ามี 1 ร้านที่ขายเกินราคา จับกุมตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ.2542ประชาสัมพันธ์ร้านค้าในพื้นที่จำหน่ายในราคาต้นทุน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหน้ากากขาดแคลน ทำให้ผู้ที่ยังไม่มีหน้ากากไว้ใส่ป้องกันเชื้อโรคร้านค้าที่จำหน่ายเกินราคาส่วนใหญ่รับสารภาพว่า ตั้งใจกระทำผิดจริง เพราะต้นทุนรับมาขายในราคาที่สูงอยู่แล้ว จำเป็นต้องขายแพง หรือบางรายกักตุนสินค้าไว้จริงเป็นเรื่องที่ต้องสืบสวนเอาให้ถึงต้นตอ “พ่อค้าคนกลาง” หรือร้านค้า ที่คิดกักตุนหน้ากากอนามัยนำมาขายในราคาที่แพงเกินจริงยิ่งเห็นในตลาดขาดแคลน ยิ่งกักตุนไว้ขายเก็งกำไร สมควรได้รับการลงโทษสถานการณ์แบบนี้คนไทยต้องเห็นใจกัน เอื้อเฟื้อช่วยเหลือกัน ช่วยกันประคับประคองเพื่อช่วยกันทำให้ประเทศชาติก้าวผ่านวิกฤติเชื้อไวรัสโควิด-19 และฝุ่นพิษ pm 2.5ไม่ใช่ต่างคนต่างคิดแต่ฉกฉวยโอกาสจ้องหาผลประโยชน์จากความเดือดร้อนของผู้คนในสังคมไทยร้านค้าที่อาศัย “โรคระบาด” ที่ผู้คนกังวลกักตุนและจำหน่ายค้ากำไรที่เกินราคาจริงไปมากขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ยังขาดแคลน จำเป็นต้องหาซื้อ “หน้ากากอนามัย” ไว้ป้องกันเชื้อโรคแต่สู้ราคาที่ขายแพงเกินจริงไม่ไหว.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th