จากที่ตั้งอยู่มุมฝั่งตะวันออกของหุบเขากาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุราวๆ 20 กม. เป็นเมืองโบราณหนึ่งในเจ็ดแห่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้กันว่าเต็มไปด้วยศิลปะด้านขนบธรรมเนียม ประเพณี สถาปัตยกรรม งานแกะสลักไม้ เครื่องโถโอชามงานดินปั้นใช้ในชีวิตประจำวัน วัฒนธรรม รวมไปถึงวัดวาอารามที่แกะสลักด้วยหินอย่างวิจิตรของช่วงศตวรรษที่ 8 และเป็นยุคทองในสมัยกษัตริย์มัลละในศตวรรษที่ 17เมื่อสื่อไทย 5 ชีวิต ซึ่งได้รับเชิญจากการท่องเที่ยวเนปาล ได้เข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศที่ไม่วุ่นวาย เห็นวิถีชีวิตของชาวเนปาล ขายของที่ระลึก สินค้าพื้นเมือง จุดศูนย์กลางสำคัญอยู่ที่จัตุรัสภักตปุระดูร์บาร์ และยังมีอีกหลายแห่งละลานตาที่น่าสนใจ ทั้งเทวาลัย 5 ชั้น จุดปักหลักของจัตุรัสฯที่สร้างขึ้นเพื่อถวายให้พระนางลักษมี อีกแห่งก็เป็นพระราชวังหน้าต่าง 55 บาน ที่อยู่ตรงกำแพงวังเดินทอดน่องตามไกด์ท้องถิ่นที่ชื่อ “กรุณา” เพลิดเพลินไปกับงานแกะสลักที่แสนละเอียด เข้าไปดูข้างในเขตแดนของพระราชวัง ถึงวังตาเลจู แต่ปากประตูมีเจ้าหน้าที่เฝ้า และไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่ใช่ชาวฮินดูเข้าไปข้างใน แม้ไกด์พยายามอ้อนขอ พวกเราสื่อไทยเลยเดินลอดอีกประตูที่ต้องค้อมหัวเข้าไป เจอบ่อน้ำของกษัตริย์ที่ทรงใช้ประกอบพิธีสรงน้ำศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนและนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงหลั่งไหล ทั้งมาเป็นกลุ่ม มาเป็นคู่ ชื่นชมความงดงามที่แม้บางส่วนอยู่ระหว่างการซ่อมแซมบูรณะกับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อเดือน เม.ย.ปี 2558 แต่ปัจจุบัน รัฐบาลเนปาลเร่งดำเนินการเพื่อเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวตามแผนโปรโมตท่องเที่ยวเนปาล 2020 เพื่อเป้าหมายนักท่องเที่ยว 2 ล้านคนแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวล่าสุดได้เริ่มเปิดให้ภักตปุระเป็นสถานที่ที่สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ในเวลากลางคืน เพราะเป็นสถานที่ที่มีหลายสิ่งหลายอย่างอันเป็นเอกลักษณ์ของเนปาล ที่น่าตื่นตาตื่นใจในยามย่ำค่ำ เปิดประสบการณ์กับสิ่งแปลกใหม่ในยามราตรีรอให้คนต่างถิ่นต่างที่ถึงต่างแดนที่มีจิตศรัทธาไปเยือนสักครั้ง...ฤทัยรัช จันทร์เพ็ญ