“พระธาตุภูเพ็กล้ำค่า ถิ่นผ้าย้อมคราม วัดถ้ำขามร่มรื่น ภาคพื้นกสิกรรม วัฒนธรรมเผ่าภูไท ธรรมะสดใสหลวงปู่ฝั้น” นี่คือคำขวัญของ อ.พรรณานิคม จ.สกลนครเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา นายสุวิชาญ ไชยโกมล นอภ.พรรณานิคม ร่วมกับผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาว อ.พรรณานิคม 10 ตำบล จัดงาน “ครบรอบ 117 ปี ของดีเมืองพรรณา ครั้งที่ 1”เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน สืบสานและอนุรักษ์วิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ตลอดจนการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของ อ.พรรณานิคม ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายภายในงานมีกิจกรรมต่างๆมากมาย ประกอบด้วยนิทรรศการเฮือนโบราณแสดงวิถีชีวิตคนรุ่นเก่า นิทรรศการศิลปะ สินค้า OTOP ของดีตำบล ร้านธงฟ้าลดค่าครองชีพประชาชน การประกวดธิดาผ้าครามพรรณานิคม การแสดงดนตรีของเยาวชน การเดินแบบผ้าครามและการประกวดขบวนแห่วิถีชีวิตจาก 10 ตำบลโดยมีสาวงามแต่งกายด้วยชุดชนเผ่าภูไทกว่า 1,000 ชีวิต ฟ้อนรำอย่างสวยงาม และมีขบวนแห่เทิดพระเกียรติอย่างงดงามสำหรับความเป็นมาของ อ.พรรณานิคม ตามบันทึกระบุว่าเมื่อครั้งในอดีต เจ้าลี (โฮงกลาง), เจ้าอินทร์ และเจ้านวล สามพี่น้องลูกชายเจ้าเมืองวังอ่างคำ ได้อพยพข้ามโขงมาทางบ้านหนองเชียงสือ แขวงเมืองสกลนครครั้นมาถึงบ้านเปือย ต.วังยาง ในปัจจุบัน ได้หยุดพำนักอยู่ชั่วคราวก็ต้องอพยพต่อ เพราะสถานที่นั้นเป็นที่ลุ่มมากกว่าที่ดอน ชาวบ้านวังยางได้เรียกสถานที่นั้นว่า “ท่าพรรณา” เพราะอยู่ใกล้ลำห้วยอูน ทางข้ามไปบ้านหนองหวายเมื่ออพยพมาถึงบ้านพังพร้าว เห็นว่าเป็นสถานที่อันเหมาะสม จึงตั้งหลักแหล่งพำนัก ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งได้ไปตั้งหลักแหล่งอยู่ที่บ้านม่วงไข่ปี พ.ศ.2387 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ยกฐานะ “บ้านพังพร้าว” ขึ้นเป็นเมืองพรรณานิคมต่อมาในปี พ.ศ. 2445 ทางราชการได้เปลี่ยนระบอบการปกครองใหม่ เมืองพรรณานิคม จึงได้เปลี่ยนเป็น “อ.พรรณานิคม” จ.สกลนคร โดยพระเสนาณรงค์ (สุวรรณ์) ได้รับแต่งตั้งเป็นนายอำเภอคนแรกนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่าน อ.พรรณานิคม ไม่ควรพลาดที่จะหยุดเที่ยว ที่นี่นอกจากมีสินค้าโอทอปเป็นของเลื่องชื่อแล้ว ผู้คนยังน่ารักอีกด้วย...วัฒนะ แก้วก่า