ในเวทีเสวนาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน 7 พรรค ได้พูดถึงข้อเสียของรัฐธรรมนูญ 2560 ในหลายแง่มุม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า รัฐธรรมนูญเป็นส่วนหนึ่งที่เหนี่ยวรั้งประเทศไทย ทำให้ระบบรัฐสภาพัง ส.ส.ทรยศต่อประชาชน ด้วยการแจกกล้วยหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปัจจุบันทำให้ระบบการตรวจสอบและถ่วงดุลหายไป การแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นทางรอดเดียวที่เหลืออยู่ในสังคมไทย เหล่านี้เป็นเพียงเหตุผลส่วนหนึ่งที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังมีเหตุผลสำคัญๆอีกมากที่พูดกันมานาน เช่น การสืบทอดอำนาจ ด้วย ส.ว.โฆษกพรรคพลังประชารัฐยืนยันว่า ขณะนี้บ้านเมืองมีความสงบสุขแล้ว และเป็นประชาธิปไตย เพราะมีการเลือกตั้งแล้ว จึงไม่ควรออกไปชุมนุมตามท้องถนน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เคยอ้างว่าตนได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีจากเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่จาก 250 ส.ว. จากการแต่งตั้งของหัวหน้า คสช.รัฐธรรมนูญมาตรา 272 เขียนไว้ชัดเจนว่า ใน 5 ปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรก การให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี “ให้กระทำในที่ประชุมร่วมของรัฐสภา” นั่นก็คือ ส.ส.และ ส.ว.ร่วมกันเลือกนายกฯ ด้วยคะแนนเกินกึ่งหนึ่งคือ 376 ขึ้นไป ถ้าจะเลือกอีกภายใน 5 ปี ก็ต้องโดยสองสภาฝ่ายรัฐบาลไม่ยอมรับว่า การที่ 250 ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งหัวหน้า คสช. ร่วมกับ 500 ส.ส. เลือกหัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรี คือการสืบทอดอำนาจคณะรัฐประหาร และยืนยันว่านายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง เพราะผ่านการเลือก ของ ส.ส. แม้จะมี ส.ส.ยกมือให้แค่ 126 คน ก็เกินกึ่งหนึ่ง เป็นนายกฯได้ส่วนประเด็นที่ว่า การถ่วงดุลโดยองค์กรอิสระขาดหายไป มักจะถูกมองข้าม เพราะถือว่าเมื่อเลือกตั้งแล้ว ก็ต้องเป็นประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ มาจากการเลือกของคณะกรรมการสรรหา แต่ในขั้นสุดท้าย ต้องได้รับความเห็นชอบจาก ส.ว. ซึ่งมาจากการแต่งตั้งของ คสช.เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลจะแทรกแซงการแต่งตั้งองค์กรอิสระ (ถ้าต้องการ) โดยผ่านทาง ส.ว. ดังที่เคยทำกันมาแล้ว แม้แต่ในยุคที่รัฐบาลและ ส.ว. ต่างมาจากเลือกตั้ง หากองค์กรอิสระถูกแทรกแซง น่าเป็นห่วงว่าความเป็นอิสระอาจขาดหายไป น่าห่วงว่าระบบตรวจสอบถ่วงดุล หนึ่งในเสาหลักประชาธิปไตยจะพังพินาศ.