เมื่อเดือนมิถุนายน 2512 คณะนาฏศิลป์ จากนักศึกษา 14 มหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ได้มาเปิดแสดงที่โรงละคอนแห่งชาติ ประเทศไทย ในหลายๆเรื่องที่แสดง มี “รามเกียรติ์” อยู่เรื่องหนึ่ง(คอลัมน์ อายุมงคลคุย สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ 15 มิ.ย.2512 ตีพิมพ์ในหนังสืออายุมงคลรำลึก พ.ศ.2561)คุณชายอายุ ขอถือวิสาสะ เรียกการแสดงนั้นว่า “โขนชวา” คืนที่ท่านไปดู เขาแสดงตอนทศกัณฐ์ลักนางสีดาพระรามเขาเรียกว่า “ราม” เหมือนกับของเรา พระลักษมณ์ เรียกว่าลักษมัณ คือตาม “ลักษมณ์” ของอินเดีย อันเป็นนามที่ถูกต้อง ตามตัวสะกดเดิมของวาลมิกิ (ฤาษีผู้แต่ง)สีดาเขาเรียก “ศีตา” ทศกัณฐ์เรียกว่า “ราวะณะ” หรือ “ราพณ์” หนุมานเรียกว่า “หโนมาณ”เรื่องของโขนที่เขาแสดง ทีแรกก็เหมือนของเรา คือกวางทองหรือมารีจแปลงมาปรากฏตัว พระรามออกตามกวาง แกล้งร้องไห้พระลักษมณ์ตามไปช่วยพระราม แล้วทศกัณฐ์ก็ออกมาลักสีดานกสดายุมาช่วย แต่ถูกทศกัณฐ์ฆ่าตายนกสดายุนั้น ชื่อในสูติบัตร เขียนเป็นอักษรโรมันว่า “DJAJU” ถ้าเป็นตัวสะกดแบบสันสกฤตก็อ่านว่า “ทชาชุ” แต่ถ้าอ่านอย่างภาษาวิลันดา ก็อ่านว่า “จายุ”พระรามออกตามนางสีดา พบกับหนุมานแล้วก็ตามไปแผลงศรฆ่าทศกัณฐ์ตาย (โดยไม่มีการขยี้กล่องดวงใจเหมือนของเรา)คุณชายอายุมงคล บอกว่ารามเกียรติ์ฉบับนี้สั้นดี แต่คงเป็นเพราะนักศึกษาตั้งใจตัดทอนให้สั้น เพราะในเรื่องตอนอื่นเขาก็มี เรื่อง “สุครีวะ” รบกับ “สุพาลี” เหมือนกันในท่าทีการแสดง พระรามและพระลักษมณ์ ซึ่งใช้ผู้หญิงแสดงนั้น งามแท้ๆจริงๆ งามอย่างโขนด้วย มิใช่งามอย่างละคอนใน โดยเฉพาะตัวพระรามสง่างามสมบทมาก ส่วนพระลักษมณ์ ก็งามแบบเดินตามดี่หนุมาน ดูการแต่งตัวคล้ายกับซานตาคลอสไปบวชนุ่งขาวห่มขาว แต่ออกท่าลิงคล้ายๆของเรา ดูมีความเป็นลิงจริงๆทศกัณฐ์แต่งหน้าแต่งตา และรำด้วยท่าทางที่ทำให้นึกถึงหัวหน้าโจรในเรื่องจันทโครพ ดูเป็นตัวผู้ร้าย เหมือนตัวผู้ร้ายหนังไทย หลุกหลิก ไม่สง่าไม่มีอะไรที่เราเรียก “ท่ายักษ์” เลยเป็นคนละแบบกันทีเดียว ผมนึกไม่ออกจริงๆ เวลา “ทศกัณฐ์” นั่งเมือง จะออกท่าอย่างไรทั้งๆที่มีอะไรต่อมิอะไรผิดกับของไทยมาก แต่ก็ยังอดเห็นเป็นโขนไม่ได้การแสดงของนักศึกษาอินโดนีเซียคืนนั้น นอกจากโขน ยังมีระบำพื้นเมือง แถมการร้องเพลงฝรั่งของอีหนูคนหนึ่ง ผู้เสนอคงคิดว่าทันสมัยน่าสนใจแต่น่าสลดใจในสายตา “คุณชายอายุมงคล” ท่านบ่น ทีหลังเล่นของอินโดนีเซียล้วนดีกว่าผมอ่านแล้ว พอจับความได้ คุณชาย ท่านรักการแสดงที่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมเดิมๆ โขนชวา แม้ “ท่ายักษ์” ทศกัณฐ์ ไม่สง่า แต่ก็ยังน่ารักกว่า การแสดงรวดเร็วเร้าใจทันสมัยแบบฝรั่งคุณชายอายุมงคล เขียนเรื่องนี้ไว้ 50 ปีที่แล้ว...ถ้าท่านอยู่ถึงวันนี้ อาจจะเบื่อลีลาโขน ที่เน้นแต่การเล่นท่า ท่ายักษ์ ท่าพระ ท่าลิง... ที่เด็กๆเขาว่าอืดอาดเชื่องช้าหันไปสนใจตามวัยรุ่น ที่เห่อนักร้องเกาหลี ตื่นเต้นกับข่าวนักร้องเกาหลี เปิดบาร์ ค้ายา ค้าผู้หญิง...ก็ได้ผมกำลังนึกถึงโขนการเมือง บางพรรคกำลังยื้อบท “ท่ายักษ์” จนถูกนินทาว่า “ยักท่า”เพื่อนร่วมรัฐบาลก็บ่น กองเชียร์ก็เบื่อ ผมเองพยายามทำใจให้รัก แล้วก็ยังส่ายหน้า...นี่ขนาดถูกพรรคอนาคตใหม่แซงหน้า พรรคนี้ก็ยังไม่ยอมพัฒนา ไม่ยอมเปลี่ยนลีลาท่าเล่นเอาเสียเลย.กิเลน ประลองเชิง