“วิบากกรรม” ที่ตามติดเป็นเงาตามตัวล่าสุดศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาจำคุก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสุริยะใส กตะศิลา 6 แกนนําม็อบพันธมิตรฯ เป็นเวลา 8 เดือน ไม่รอลงอาญาในคดีนำม็อบบุกยึดทำเนียบรัฐบาล ขับไล่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ เมื่อปี 2551เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวส่งเข้าเรือนจำ สิ้นอิสรภาพทันทีนี่คือผลแห่งการกระทำ เกมช่วงชิงเกมอำนาจทางการเมืองที่ตามมาในเวลาไม่ช้าก็เร็ว บทพิสูจน์ประเทศไทยไม่มีคำว่า “ม็อบมีเส้น” หรือ “ม็อบไม่มีเส้น”ชัดเจน “ม็อบ” ไม่มีสิทธิอยู่เหนือกฎหมายใครคิดจะปลุกสงครามประชาชน ใช้เกมมวลชนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองไม่มีใครจะรอดตัวไปแบบฟรีๆตัดฉากกลับมาที่การเมืองร้อนๆกำลังระทึกอกระทึกใจ ตามท้องเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องชงให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ จาก “เซอร์ไพรส์ใหญ่” ส่ง “แคนดิเดตนายกฯ” ในบัญชีพรรค เข้าข่ายผิดกฎหมายปมอ้างสถาบันเพื่อผลในการเลือกตั้งกระทำการเรื่อง “มิบังควรอย่างยิ่ง”ตามรูปการณ์ไม่ใช่แค่ยุบพรรค แต่ต้องลุ้นถึงขั้น “ใบดำ” ตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิตโทษประหารทางการเมือง โฟกัสไปที่ 14 กรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ทายาทนามสกุลดังๆ ลูกหลานตระกูล “ชินวัตร-ติยะไพรัช-ณ ระนอง” อีกส่วนก็มืองานสำคัญของ “นายใหญ่” สายตรง “น้องปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้นกล้าของระบอบ “ทักษิณ” ส่อแท้งตั้งแต่ยังไม่ได้แจ้งเกิดที่แน่ๆกระแสข้ามช็อต สถานการณ์ฝุ่นฟุ้งกระจายจากการวิเคราะห์ของนักวิชาการ นักวิชาเกิน ผู้สันทัดการเมือง เดาทิศทางล่วงหน้า อาฟเตอร์ช็อกจากการยุบพรรคไทยรักษาชาติแต่โอกาสที่จะเป็นไปได้มากสุด มีน้ำหนักมากสุด น่าจะเป็นมุมของนายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ทีมกฎหมายสาย “ซือแป๋” นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่ประเมินแนวโน้มสถานการณ์พรรคสาขารองของ “นายใหญ่” ล่มก่อนเลือกตั้งพรรคเครือข่ายทั้งหลายก็รองรับคะแนนเสียงจากพรรคไทยรักษาชาติไป ไม่มีแรงกระเพื่อมอะไรเว้นแต่ถ้ายุบ 3 พรรคอาจเกิดแรงกระเพื่อม เพราะคะแนนไม่มีที่ไปตามเหตุที่พรรคไทยรักษาชาติ เชื่อมโยงอะไรกับใครบ้าง การส่งผู้สมัครมีความเชื่อมโยงกันหมดกับพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติ ต้องการเอาคะแนนเสียงมาเชื่อมโยงกัน มีการเกลี่ยผู้สมัครในการลงแต่ละเขต ซึ่งมันก็เป็นไปได้ แล้วแต่ว่าจะขยายผลไปถึงไหนจะมีหลักฐานมากแค่ไหนมาตรา 92 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ระบุไว้เลยว่า “มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า”สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นนี่แหละที่มันล้อกับอาการหายใจไม่ทั่วท้องของลูกข่ายยี่ห้อ “ทักษิณ”ส่อโดนกิน 3 ต่อเข้าฮอร์ส แพ้ตั้งแต่ต้นกระดานเรื่องของเรื่อง ถ้าพรรคไทยรักษาชาติโดนยุบ คะแนนก็จะเทไปที่พรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติ เครือข่ายของ “ทักษิณ” หรือถ้าพรรคสาขาเครือข่าย “ทักษิณ” พังพาบหมด ก็ยังมีแนวร่วมนอกบริษัทจำกัดอย่างพรรคประชาชาติของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา พรรคเสรีรวมไทยของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวสกองเชียร์ “ทักษิณ” แบบ “เข้าเส้น” ไม่เทแต้มให้ฝั่งตรงข้ามแน่แต่จุดสำคัญมันอยู่ที่คะแนนคนกลางๆส่วนใหญ่ “พลังเงียบ” ยังไม่ตัดสินใจโดยเฉพาะอารมณ์ของพวกไม่เอา “ทักษิณ” แต่เซ็งเผด็จการทหาร เพราะอาการเบื่อ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้า คสช. ที่ลากยาวมา 5 ปีตามรูปการณ์มองตื้นๆ แต้มน่าจะไหลไปที่ยี่ห้อ “อนาคตใหม่” ในจังหวะที่ “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กำลังปั่นภาพ “ทางเลือกใหม่” ได้วูบวาบแต่ก็อีกนั่นแหละ ยี่ห้ออนาคตใหม่ที่แฝงอยู่กับทีมงานกลุ่ม “นิติราษฎร์” ยังอยู่ในเงื่อนไขต้องเผชิญแรงเสียดทานปมสถาบัน สังเกตได้ในปรากฏการณ์แบบที่ “เสี่ยธนาธร” กำลังฮอตกับกระแส “ฟ้ารักพ่อ” ขวัญใจโหวตเตอร์รุ่นใหม่ ก็เจอย้อนเกล็ดโยงกับปม “ฟ้าเดียวกัน” แบบทันควันพันธนาการ “ธนาธร” กับอดีตโต้โผใหญ่นิตยสารเนื้อหาหมิ่นเหม่ท่ามกลางเงื่อนไขสถานการณ์อ่อนไหว เชื้อชนวน “ระเบิด” ลากจากปรากฏการณ์ “แคนดิเดตนายกฯ” พรรคไทยรักษาชาติ ที่สะท้อนเกมล้มเดิมพันอำนาจประเทศไทย“นายใหญ่” เล่นใหญ่ ยกระดับเกมรบแบบ “ไร้ขอบเขต”คนเดียวที่จะเอา “ทักษิณ” อยู่ ก็มีแค่คนชื่อ “ประยุทธ์” เท่านั้น.ทีมข่าวการเมืองอ่านข่าวล่าสุด เจาะลึกข้อมูลเลือกตั้ง 2562