หนังสือนิทานสุภาษิตที่เด็กชั้น ป.เตรียมรุ่นผม หัดอ่าน มีเรื่อง “หมาในรางหญ้า” มีภาพเขียนประกอบ เนื้อหาสั้นๆ แต่ก็สอนให้พอเข้าใจโตขึ้นหน่อย เจอกลอนบทหนึ่ง “สุนัขหนึ่งนอนขวางในรางหญ้า ทั้งที่รู้อยู่ว่าใช่อาหาร แต่ก็ห่วงหวงห้ามด้วยความพาล ตามสันดานของสัตว์ทรามบัดซบ...” ก็จำขึ้นใจภาพหมาในรางหญ้า น่าเกลียดน่าชังยังไง แค่ไหน ก็แค่นั้น ไม่มีอะไรลึกซึ้งไปกว่านี้ตอนแก่เหลาเหย่เต็มทีนี่เอง มาเจอนิทานหมาในรางหญ้า อีกเวอร์ชัน ลองอ่านกันดูเศรษฐีชาวนาสองผัวเมีย มีที่นาเป็นพันไร่ จึงต้องจ้างคนงานมากมาย แบ่งฝ่ายแบ่งหน้าที่กันทำ หลายปีต่อมา ยิ่งเพิ่มกำไรจากการขายข้าว ร่ำรวยมากขึ้นสองผัวเมียเศรษฐีซื้อหมามาตัวหนึ่ง เลี้ยงดูอย่างดี ไปไหนไปด้วย เจ้าของกินอะไรมันก็ได้กินด้วยลูกจ้างทั้งหลายที่ได้ค่าจ้างพอกินพออยู่ เห็นหมากินดีกว่าคน ก็อิจฉาหมาในใจปีต่อมา เกิดปัญหาด้านรายได้ เงินที่ขายข้าวไม่พอจ่ายค่าแรงคนงาน...เศรษฐีสงสัย ลูกจ้างฝ่ายที่ขายข้าวยักยอก จึงเรียกมาถามคำตอบที่ได้ ราคาข้าว ไม่ว่าจะขายในระบบประกัน หรือจำนำ ก็ไม่ตกต่ำ แต่เพราะปริมาณข้าวลดลงจากที่เคยมีทุกปีๆปัญหาเรื่องจำนวนข้าวเป็นความรับผิดชอบฝ่ายนวดข้าว เศรษฐีเรียกมาถาม ก็ได้คำตอบ “พวกเกี่ยวข้าว เกี่ยวมาได้แค่ไหน ก็นวดไปแค่นั้น”ไล่เบี้ยต่อไปถึงฝ่ายดำนา ถามแล้ว คำตอบก็ทำนองเดียวกัน คำตอบนี้ทำให้เศรษฐีเริ่มเห็นปัญหา ยังมีที่นาว่างเปล่ามากมายที่ไม่ใช้ดำนาคำถามจึงไปอยู่ที่ฝ่ายไถนา ซึ่งพวกเขาก็ตอบว่า เพราะวัวทุกๆ ตัวผอมมาก ไม่มีเรี่ยวแรงจะไถนาได้มากเหมือนเก่า จึงไถนาไม่หมดถามฝ่ายเลี้ยงวัว...ก็ยืนยันตัดหญ้ามาให้เต็มจำนวนทุกวัน แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไม วัวจึงไม่ค่อยกินหญ้าคำตอบที่ทุกฝ่ายโยนกลองกันไปมา ยังหาสาเหตุไม่ได้ เศรษฐีจึงต้องลงแรงไปดูวัวกินหญ้าเอง แล้วก็พบความจริงว่าขณะวัวจะเข้าไปกินหญ้าในรางหญ้า เจ้าหมาตัวโปรดของเศรษฐี ก็สำแดงศักดาไล่เห่าไล่กัด คนเลี้ยงวัวทุกคนรู้ดี หมาตัวนั้นเป็นตัวโปรดของเศรษฐี จึงไม่กล้าแตะไม่กล้าตีมันไม่กล้ากระทั่งจะไปฟ้องนายรู้แจ้งปัญหาข้าวน้อยเศรษฐีก็แก้ปัญหาที่สาเหตุ ไล่เจ้าหมาตัวการออกจากบ้านนับแต่นั้นมา เศรษฐีก็มีข้าวขายได้ นอกจากพอจ่ายค่าแรงลูกจ้าง แล้วยังเหลือกินเหลือเก็บไว้ แต่ไม่ยอมไปซื้อหมาตัวใหม่ มาเล่นบทหมาตัวโปรดอีกนิทานเรื่องหมาในรางหญ้า เวอร์ชันที่ผมอ่านตอนแก่นี้ให้ความรู้สึกลึกๆ จี้ใจมากยิ่งเมื่อนึกไปถึงการเมือง บางพรรคใหญ่ ที่ใช้แต้มต่อสารพัด อำนาจกฎหมาย อำนาจเงิน สื่อทั้งที่อยู่ในมือ สื่อที่ใช้เงินซื้อ และสื่อที่รักตัวกลัวภัย ก็ช่วยกันโหมประโคมน่าแปลก ที่ผลโพล ไม่ว่ากี่โพล ที่ออกมา คะแนนก็ทำท่าจะลดน้อยลงต้นเหตุของเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องลึกลับซับซ้อน ไม่ว่าคนใกล้ตัว คนไกลตัว ก็ดูจะรู้ๆกันทั้งนั้นเพราะเจ้าหมาในรางหญ้าตัวนั้น...ลิเกการเมืองรอบนี้ ก็คงจะจบลงตอน เมื่อไม่กล้าไล่หมา ไม่ว่าพระเอกหรือพระรอง ที่กำลังเปิดตัวออกมา ก็ต้องกอดคอกันบรรลัยไปด้วยกันทั้งโรง.กิเลน ประลองเชิง