กรณีเครื่องบินโดยสารรุ่น โบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 เที่ยวบินเจที 610 สายการบินต้นทุนต่ำไลอ้อน แอร์ของอินโดนีเซีย พร้อมคนบนเครื่อง 189 คน ตกลงทะเลชวา ทางตะวันออกเฉียงเหนือกรุงจาการ์ตา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ต.ค. หลังขาดการติดต่อหอควบคุมการบินขณะบินขึ้นจากสนามบินนานาชาติกรุงจาการ์ตาเพื่อไปที่สนามบินเด-ปาติ อามีร์ บนเกาะบังกา เบลิตุง นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราได้ 13 นาทีนั้นสำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ว่า เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) และระบบค้นหาวัตถุใต้น้ำด้วยคลื่นเสียง (โซนาร์) เร่งค้นหาซากเครื่องบินและกล่องบันทึกการบิน (กล่องดำ) ในทะเลชวา หลังมีการค้นพบชิ้นส่วนเครื่องบิน ข้าวของเครื่องใช้ส่วนบุคคลและอื่นๆรวมทั้งเก็บกู้ชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ได้บางส่วนแล้วรวมทั้งชิ้นส่วนร่างเด็กทารก 1 คนส่วนที่ซีอีโอของไลอ้อน แอร์ บอกว่า เครื่องบินลำประสบเหตุมีปัญหาทางเทคนิคในการบินจากเกาะบาหลีเข้าจาการ์ตาเมื่อ 1 วันก่อนเกิดเหตุ แต่ซ่อมแซมตามกระบวนการก่อนนำขึ้นบินแล้วมาประสบเหตุตก แต่ไม่ระบุรายละเอียดนั้น เว็บไซต์ข้อมูลการบิน “FlightRadar24.com” ระบุว่า เครื่องโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 8 ลำนี้ บินแบบผิดปกติจากปัญหาทางเทคนิคระหว่างบินจากเกาะบาหลี-เข้าจาการ์ตาเมื่อวันที่ 28 ต.ค. พบมีความไม่เสถียรทั้งระดับความสูงและความเร็วของเครื่องบินช่วงหลายนาทีแรกของการบินรวมทั้งมีการลดระดับลง 875 ฟุต ในรอบ 27 วินาทีขณะเครื่องกำลังบินไต่ระดับขึ้นตามปกติ ก่อนจะกลับมามีความเสถียรหรือคงที่และบินต่อไปจนถึงจุดหมายโดยยังมีผู้โดยสาร 2 คน บนเที่ยวบินดังกล่าว โพสต์ข้อความบ่นลงอินสตาแกรมเกี่ยวกับระบบปรับอากาศและไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร และเครื่องยนต์ยังดังเสียงแปลกช่วงเทก-ออฟ ขึ้นบินและดังต่อเนื่องตลอดเที่ยวบิน แต่ไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับที่ซีอีโอของไลอ้อน แอร์ กล่าวถึงหรือไม่ ขณะที่ชาวประมง 2 คน เผยว่า เห็นเที่ยวบินเจที 610 เอียงเล็กน้อย แต่ขณะตกไม่มีเสียงเครื่องยนต์และอยู่ในท่าเกือบจะแนวนอนโดยส่วนหัวเครื่องบินดิ่งลงไม่มากก่อนตกทะเลเจ้าหน้าที่อินโดฯที่สอบสวนสาเหตุเที่ยวบินเจที 610 ตก ยืนยันปัญหาขัดข้องทางเทคนิคดังกล่าวแล้ว แต่ยังต้องสอบสวนเพิ่มเติมรวมทั้งสอบถามช่างเทคนิคผู้ตรวจสอบซ่อมเครื่องบินลำนี้ก่อนอนุญาตให้ขึ้นบิน.