แฉด่านแม่สอดจับกุมชาวเมียนมาใช้วีซ่าปลอมเข้าไทย 67 ราย แค่ช่วงระยะเวลาไม่ถึงเดือน โดยทำกันเป็นขบวนการมีนายหน้ารับทำสนนราคาคนละ 6 พันบาท ล่าสุดจับกุมผัวเมียกลับจากเที่ยวไทย ตำรวจ ตม.พบวีซ่าผัวปลอม แต่ของเมียเป็นของจริง ผัวสุดงงทั้งที่ทำมาพร้อมกัน สถานทูตไทยในเมียนมารายงานด่วนมาถึงกระทรวงการต่างประเทศไทย พร้อมแจ้งกระทรวงการต่างประเทศพม่ารับทราบ คาดมีพม่าใช้วีซ่าปลอมในไทยกว่า 2 หมื่นคนภายหลังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเก่าจับ 2 หนุ่มเมียนมา ข้อหาใช้ตรา ประทับวีซ่าปลอม ขณะมาขอต่ออายุวีซ่าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมื่อวันที่ 16 ก.ค. เจ้าหน้าที่สอบปากคำถึงที่มาของวีซ่าปลอม ทั้งสองอ้างว่าไปขอจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง เสียค่าใช้จ่ายคนละหกพันบาทโดยไม่ทราบว่าเป็นวีซ่าปลอม เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพระนครศรีอยุธยาจึงนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายนั้นเมื่อวันที่ 18 ก.ค. พ.ต.อ.แมน รัตนประทีป ผกก.ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวไทยรัฐ เกี่ยวกับการจับกุมชาวเมียนมาใช้วีซ่าปลอมว่า ที่ผ่านมามีการจับชาวเมียนมาใช้วีซ่าปลอมจำนวนมากในหลายพื้นที่โดยเฉพาะด่านตม.ตาก ที่อำเภอแม่สอด โดยตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.จนถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่จับกุมชาวเมียนมาที่ใช้วีซ่าปลอมได้ 67 ราย ทุกรายให้การว่ามีนายหน้าชาวเมียนมาเป็นผู้ดำเนินการยื่นขอให้ หลังจากทางการไทยมีการจับกุมได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเมียวดีและเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลเมียนมา โดยทางเราให้ข้อมูลที่จับกุมได้ทั้งหมดเพื่อให้ ตม.เมียวดีติดตามขยายผลเพื่อจับกุมตัวการพ.ต.อ.แมนกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนพบว่าการปลอมวีซ่าทำกันเป็นขบวนการ มีนายหน้ากระจายอยู่ตามเมืองต่างๆ เช่น เมืองผาอัน มะละแหม่ง เมียวดีและย่างกุ้ง จะไปติดต่อทำวีซ่าให้กับชาวเมียนมาที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวไทยผ่านด่านชายแดนไทยที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆ โดยผู้ต้องการเดินทางไม่ต้องไปยื่นขอเอง นายหน้าจะเป็นฝ่ายดำเนินการให้เองโดยเสียค่าใช้จ่ายประมาณคนละ 6 พันบาทไทย จึงเป็นช่องโหว่ให้มีการปลอมวีซ่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก มีรายชื่อนายหน้าทุกคนทุกเมือง แต่เราไม่มีอำนาจเข้าไปจับกุมในเมียนมา ต้องประสานกับทางเมียนมาให้ดำเนินการ ล่าสุดทราบว่าทางเมียนมาได้จับนายหน้าได้และขยายผลเพื่อจะทราบว่าขบวนการปลอมมีระดับไหน มีคนไทยร่วมหรือไม่ ที่ผ่านมาหลังจับกุมได้ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่งรายละเอียดการตรวจวีซ่าปลอมและตำหนิรูปแบบจุดสังเกตจากสถานทูตมาเปรียบเทียบ จากนั้นเราประสานส่งข้อมูลที่ได้ไปยังด่าน ตม.ทุกแห่งในประเทศไทยให้กวดขันตรวจตราผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ตำรวจ ด่าน ตม.แม่สอดได้จับกุมนายซาน ตาด อายุ 28 ปี ชาวเมืองเมาะลำใย ขณะยื่นเอกสารขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยจับกุมได้พร้อมกับนางมะ ปาน ยา ภรรยา จากการตรวจสอบพบว่านายซาน ตาด ใช้ตราประทับวีซ่าปลอม เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี ส่วนนางมะ ปาน ยา เจ้าหน้าที่พบว่าเอกสารวีซ่าถูกต้อง จึงปล่อยตัวให้เดินทางข้ามเขตแดนกลับไปจากการสอบสวนนายซาน ตาด เจ้าตัวให้การว่าประมาณเดือน มี.ค. 2561 ตนกับภรรยาต้องการมาท่องเที่ยวในประเทศไทยจึงได้ว่าจ้างนายหน้าให้พาไปทำพาสปอร์ตที่ศูนย์หนังสือเดินทางประจำเมืองเมาะลำใยและนายหน้ายังรับอาสาไปทำวีซ่าเข้าประเทศไทยให้ โดยเก็บเงินดำเนินการคนละ 240,000 จ๊าด หรือประมาณหกพันบาท หลังจากนั้นประมาณหนึ่งเดือน นายหน้าได้นำพาสปอร์ตมาคืนที่บ้าน เมื่อเปิดดูเห็นว่ามีตราประทับของสถานทูตไทยจึงไม่ได้เอะใจว่าเป็นของปลอม กระทั่งมีเวลาว่างจึงชวนภรรยาเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ไปท่องเที่ยวในหลายจังหวัดและเยี่ยมญาติ กระทั่งวันที่ 9 ก.ค. ครบกำหนดวีซ่าจึงเดินทางกลับและถูกจับกุมนายซาน ตาด ให้การอีกว่า ถ้าเอกสารของตนเป็นของปลอม แต่ของนางมะ ปาน ยา ภรรยา ซึ่งทำพร้อมกัน ทั้งพาสปอร์ตและวีซ่า ทำไมจึงเป็นของจริงทั้งที่ทำจากนายหน้าคนเดียวกัน คงต้องให้ภรรยาไปสอบถามที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครย่างกุ้งผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครย่างกุ้ง ได้รับทราบว่ามีการใช้ตราประทับปลอมเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ได้รายงานด่วนให้กระทรวงต่างประเทศทราบ พร้อมทั้งแจ้งให้กระทรวงต่างประเทศเมียนมาทราบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงการตรวจลงตราในพาสปอร์ตจากใช้สติกเกอร์มาเป็นตราประทับตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.2561 มาจนถึงวันที่ 26 มิ.ย. ที่จับได้ว่ามีการปลอมแปลงวีซ่า ระยะเวลา 3 เดือนเศษ ทั้งนี้ มีการประมาณการว่ามีชาวเมียนมาที่ใช้วีซ่าปลอมทะลักเข้าไทยมาไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นแล้วก่อนเรื่องจะแดงขึ้น