กว่าจะเป็น “นักร้อง” ขยับขึ้นจากความเป็นหน้าใหม่มีเพลงเข้าถึงใจคนฟังไม่ใช่เรื่องง่ายในยุคที่นักร้องเสียงดีเดินเข้าออกวงการเป็นว่าเล่น รวมทั้งเส้นทางของสาว “พริ้ม–จันทร์ทิพย์ แสงรังษี” นักร้องสาวเสียงดีลุคเท่ ศิลปินจากค่าย Grand Musik ในเครือจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ที่ล่าสุดปล่อยเพลง “ไม่ต้องบอกฉัน” เพลงเศร้าเจ็บปวด“พริ้ม” เล่าให้ฟังว่า “เพลงไม่ต้องบอกฉัน เป็นเพลงอกหักเนื้อหาเพลงเกี่ยวกับคนที่ถูกบอกเลิก เพลงนี้พูดถึงโมเมนต์นั้นที่ไม่อยากให้เค้าไป จากซิงเกิลที่แล้วเพลง “ภาระ” เหมือนว่าเราจะไม่สนใจฉันแข็งแรงแล้ว เพลงนี้ก็เหมือนช่วงที่อยู่ในภาวะอ่อนแอก่อนเราจะลุกขึ้นสู้ในเพลงภาระ แฟนๆก็ชอบค่ะ ขอบคุณหลายๆฟีดแบ็ก พริ้มชอบถ่ายทอดเนื้อหาเพลงที่เศร้ามากๆ รู้สึกดีใจเวลาคนชมว่าเราเสียงดี เข้าไปดูคอมเมนต์ตลอด ถ้ามีคำติพร้อมรับฟังแก้ไขเหมือนเป็นครูที่ให้กำลังใจไม่หยุดพัฒนา”มาแนวเพลงเศร้าตลอด?“ใช่ค่ะ (ยิ้ม) ชอบร้องเพลงเศร้ามันค่อยๆคิดถ่ายทอดเรื่องราวได้”เริ่มเข้ามาในเส้นทางดนตรีได้ยังไง?“เริ่มร้องเพลงตั้งแต่ 8 ขวบเลยค่ะ ชอบร้องเพลงมากและบอกพ่อว่าอยากเป็นนักร้องพ่อก็พาไปเรียน พอชอบแล้วก็เรียนไปเรื่อยๆมีประกวดบ้าง จนอายุ 13 ปี ประกวดได้รางวัล แล้วได้มาเรียนในแกรมมี่ พอ ม.ปลาย ก็ได้เซ็นสัญญาเด็กฝึกหัด พอหมดสัญญาได้มาเซ็นเต็มตัว มีซิงเกิลแรกอายุ 19 ปี ก็ใช้เวลานาน วันที่เป็นศิลปิน ฝึกหัดก็ชื่นใจนะ ตอนนั้นเป็นแบนด์ ทำกับเพื่อนๆออกซิงเกิลแรกในนามวง แต่ด้วยความที่พริ้มเด็ก พี่ๆหลายคนโตกว่าเรามากและมีเส้นทางของเค้าเวลาไม่ตรงกันเลยแยกย้ายกันแต่ก็ไม่ได้ขาดการติดต่อกัน”เรียกว่าในเส้นทางดนตรีก็ลุ้นตลอด?“ใช่ค่ะ ลุ้นเหนื่อยมากตั้งแต่ตอนเด็กๆทำให้เรารู้ว่าต้องอดทนในระดับนึง เราก็ต้องปรับหลายๆอย่างเหมือนกัน ตอนแรกพริ้มมาเดี่ยวแล้วได้มาทำวง เราก็เครียดเพราะเราต้องยืนข้างหน้าดูแลทุกคน พอเราปรับได้แล้วก็ต้องกลับมาเดี่ยวอีกในแบบที่โตขึ้นแต่ตอนนี้ปรับตัวได้แล้ว ถ้าไม่มีสิ่งต่างๆเข้ามาพริ้มอาจจะไม่พัฒนามากขึ้น”ชีวิตมีดนตรีเป็นหลัก?“ใช่ค่ะ พริ้มเลือกตั้งแต่เด็ก ม.ต้น ก็เรียนวิทยาลัยนาฏศิลป์เอกวอยซ์ พอมาเข้ามหาวิทยาลัยก็มาเลือกเรียนการแสดง จนเริ่มโตก็มาทำเบื้องหลังมากขึ้นทั้งเรื่องเพลงและการตัดต่อ”เคยท้อระหว่างเส้นทางมั้ย?“มีค่ะ บางทีเป็นคนท้อง่ายแต่ไม่ถึงกับขั้นว่าไม่เอาแล้ว ถ้าเรื่องร้องเพลงเคยมีช่วงแย่แล้วเราก็ต้องมาถามตัวเองว่ายังรักสิ่งนี้อยู่มั้ย แล้วก็ได้คำตอบว่ารัก ตอนนั้นช่วงซิงเกิลแรกมีการปรับหลายๆอย่าง เจอภาวะหลายๆอย่างทำให้มีจังหวะที่ถามตัวเองว่ามันใช่รึเปล่า ต้องกลับไปคิด 2-3 เดือน มีนอยด์นะว่าเราร้องเพลงยังไม่ดีรึเปล่าแต่มันก็ผ่านมาได้”เหนื่อยมั้ยกับวงการเพลงที่มีนักร้องมากมายและคนเสียงดีๆเยอะ แข่งขันเยอะ?“พริ้มว่าไม่ว่าเส้นทางไหน มันก็เหนื่อยหมด แค่เราอยู่ตรงนี้ที่คนเลือกหยิบจับอาชีพนี้เยอะ การเป็นนักร้องเข้าง่ายออกง่าย คนทำเพลงแค่อยู่ที่บ้านก็ทำได้แล้ว มันเป็นเรื่องของยุคสมัยที่ต้องปรับเปลี่ยน เราก็ต้องปรับตัว ถ้าเราเลือกแล้วมันคือตัดสินใจแล้ว”กว่าจะเดินทางได้ทำเพลงมันยาก แต่สำหรับคนฟังเรายังดูเป็นหน้าใหม่?“ศิลปินหลายๆคนมีเส้นทางแบบนี้เยอะ พี่ๆหลายๆ ท่านอยู่วงการมานานกว่าจะดัง เราเองก็ต้องเดินไปเส้นทางของเรา เราเป็นหน้าใหม่สำหรับทุกๆคน ก็อยากมีวันนึงวันนั้นที่ได้ร้องเพลงให้ทุกคนฟัง เดี๋ยวนี้มีทั้งคนเข้าใหม่ออกใหม่ เราที่เดินทางมานานยังรู้สึกเลยว่าทำไมมันยากจังทั้งที่เราตั้งใจมานาน แต่มันก็คือชีวิต ก็ต้องสู้ต่อไป รอโอกาสของเรา”อะไรทำให้หลงเสน่ห์ในดนตรี?“พริ้มเป็นคนให้ความสำคัญกับความรู้สึกต่างๆในชีวิต มองว่าทุกคนทุกอย่างมีความรู้สึกเลยรู้สึกว่าเพลงเป็นสิ่งลื่นไหลไปกับอารมณ์ต่างๆ พริ้มว่าในชีวิตเรามันเป็นเสียงเพลงหมด ไม่ว่าเราจะยิ้มสุขเศร้าเรามีเพลงหมด บางครั้งทำให้เรื่องแย่กลายเป็นดีได้ เป็นเรื่องมหัศจรรย์มาก”ฝันเป็นตัวจริงในวงการ?“อยากเป็นค่ะ โตขึ้นจุดมุ่งหมายก็มากขึ้น จุดเดิมคือเราอยากเป็นนักร้อง อยากถ่ายทอดเพลงความรู้สึกต่างๆ”ตัวจริงเป็นสาวแบบไหน เท่เหมือนลุคมั้ย?“ก็ห้าวๆนะ ตอนเด็กไม่ค่อยเป็นผู้หญิงเท่าไหร่ เป็นคนหวานไม่ค่อยเป็น”.