เพลิงไหม้ร้านขายอะไหล่รถยนต์ภายในตลาดไทวอด 4 คูหา เจ้าของร้านพร้อมคนในครอบครัวรวม 6 ชีวิต หนีตายออกมาได้ปลอดภัย เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดน้ำดับไฟนานกว่า 3 ชม. ตำรวจคาดสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาทเพลิงไหม้ร้านขายอะไหล่รถยนต์รับอรุณรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 10 ก.พ. ร.ต.ท.วรภัคร แก้วดวงเทียม รอง สว. (สอบสวน) สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ภายในตลาดไท ชื่อร้าน “บางไผ่อะไหล่” เลขที่ 32/149-152 หมู่ 9 ต.คลองหนึ่ง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองท่าโขลง, เทศบาลเมืองคลองหลวง, เทศบาลคลองสี่ และเทศบาลใกล้เคียงกว่า 20 คัน เข้าดับเพลิงที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เปิดเป็นร้านขายอะไหล่รถยนต์ 4 คูหา พบว่าต้นเพลิงลุกไหม้จากบริเวณชั้นล่างของร้าน ก่อนจะลุกลามไปยังส่วนต่างๆอย่างรวดเร็ว จนวอดทั้ง 4 คูหา เนื่องจากภายในตัวอาคารมีการเก็บสินค้าไว้จำนวนมาก นอกจากอะไหล่รถยนต์แล้ว ยังมีน้ำมันเครื่อง และถังออกซิเจนรวมอยู่ด้วย กลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ในวงจำกัด ส่วนผู้ที่พักอาศัยอยู่ภายในตัวอาคาร ทราบว่าทั้งหมดหนีออกมาได้อย่างปลอดภัยนายกวี เวชยันต์วิวัฒน์ อายุ 54 ปี เจ้าของร้าน ให้การว่า อาคารที่เกิดเหตุเปิดขายอะไหล่รถยนต์และน้ำมันเครื่องทั้ง 4 คูหา ส่วนตนกับครอบครัวรวม 6 คน พักอาศัยอยู่บริเวณชั้น 2 ของร้าน ก่อนเกิดเหตุขณะนอนพักผ่อนอยู่ภายในร้าน สังเกตมีกลิ่นเหม็นคล้ายการเผาไหม้ลอยขึ้นมาจากชั้นล่างของร้าน เมื่อลุกออกไปดูพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ที่ชั้นล่างอย่างรวดเร็ว จึงรีบปลุกคนในบ้านให้ตื่นแล้วช่วยกันดับไฟ แต่เนื่องจากภายในร้านมีน้ำมันเครื่อง ถังออกซิเจน เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไม่สามารถดับไฟได้ ประกอบกับไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ด้วยความตกใจพากันหนีออกมาจากร้านเพื่อความปลอดภัย พร้อมกับแจ้งให้ตำรวจทราบเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร จะได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ ขณะเดียวกันตำรวจได้นำเชือกมากั้นไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปในตัวอาคาร เกรงว่าโครงสร้างอาคารจะถล่มลงมาได้ ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท
