อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เป็นหนึ่งในแหล่งเลี้ยงปลาสลิดกลุ่มใหญ่อันดับต้นๆของประเทศ ปลาสลิดที่ชาวบ้านเลี้ยงส่วนใหญ่จะมีพ่อค้ามาซื้อถึงปากบ่อ กำไรคนเลี้ยงควรจะได้มาก จึงหายไปกับการตีราคาหน้าฟาร์ม นางวาสนา ชื่นภิรมย์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ใหญ่เจ้ยปลาสลิด บ้านยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร จึงคิดเปลี่ยนวิธีจากขายเป็นปลาสดหน้าปากบ่อมาแปรรูปเป็นปลาสลิดแดดเดียว “ทั้งๆที่ปลาสลิดเรามีคุณภาพ ไม่มีกลิ่นสาบ แต่ถูกกดราคาหน้าฟาร์ม ปี 2554 จึงเริ่มทำปลาแดดเดียว ช่วงแรกทดลองทำแค่ 50 กก. ใส่มอเตอร์ไซค์พ่วงขายในหมู่บ้าน และงานประจำจังหวัด ลูกค้าเริ่มรู้จักมากขึ้น เมื่อเห็นว่าทำรายได้ดีกว่าขายเป็นปลาสด จึงเรียกประชุมลูกบ้านรวมกันตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน แปรรูปทำปลาแดดเดียว และปลาสลิดสดดองเกลือ ออกขายกันเองตามงานต่างๆ เราชอบกินปลาคุณภาพแบบไหน เราทำปลาแดดเดียวแบบนั้นให้ลูกค้า” แต่ด้วยเป็นมือใหม่ เริ่มหัดทำ วาสนา เล่าว่า จึงมีปัญหาหลายอย่างตามมาค่อนข้างมาก ทั้งเรื่องการคิดคำนวณส่วนที่สูญเสียไม่เป็น เช่น หัวกับไส้ปลา แปรรูปแล้วเน่าเสียหายขาดทุน รวมทั้งปัญหาในช่วงหน้าฝน เอาปลาไปผึ่งแดดได้ไม่นาน ต้องเก็บเข้าร่มหนีฝนวันละหลายรอบ จนกระทั่งวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาครและกรมประมงมาช่วยเหลือสร้างโรงอบแสงอาทิตย์ จึงทำให้กลุ่มสามารถแปรรูปปลาสลิดแดดเดียวได้ตลอดทั้งปี หลังปลาสลิดของวิสาหกิจชุมชนฯ เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพ ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานสาธารณสุขมาเก็บตัวอย่างดิน-น้ำ-ปลาสลิดไปตรวจหาสารตกค้าง และให้การรับรองถึงความปลอดภัย ส่งผลให้พ่อค้าปลาสลิดนึ่งส่งขายตลาดสิงคโปร์ มาเลเซีย มาติดต่อขอซื้อเดือนละ 12 ตัน เกิน กำลังผลิตที่จะทำได้ แต่ทางกลุ่มกลัวเสียชื่อประกอบกับความต้องการในประเทศยังมีอีกมาก ขายแล้วมีเงินหมุนเวียนกลับมาได้เร็วกว่า ทางกลุ่มจึงหยุดส่งออก หันมาเน้นขายในประเทศ โดยมีตลาดหลักอยู่ในนนทบุรี สมุทรปราการ พระราม 2 แม่กลอง ขอนแก่น นครราชสีมา นครปฐม กรุงเทพฯ และชลบุรี.
