(ภาพ) อนุทิน ชาญวีรกูล

เสริมภูมิสู้ "โควิด-19" 

14 โรคติดต่ออันตราย

ทันทีที่ราชกิจจานุเบกษาประกาศให้ โรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ลำดับที่ 14 เมื่อวันที่ 29 ก.พ.2563

หลายคนคงมีคำถามถึง โรคติดต่ออันตรายอีก 13 โรคที่เคยถูกประกาศมาแล้ว หากย้อนไปในอดีตเมื่อปี 2559 ไทยเคยมีการประกาศโรคติดต่ออันตรายจำนวน 12 โรค ได้แก่ 1.กาฬโรค แบ่ง 3 ประเภท คือ 1.กาฬโรคต่อมน้ำเหลือง มีอาการไข้สูง หนาวสั่น เจ็บคอ ปวดศีรษะ 2.กาฬโรคชนิดโลหิตเป็นพิษ มีอาการของโลหิตเป็นพิษ ไข้สูง และ 3.กาฬโรคมีเสมหะปนเลือด เมื่อถ่ายภาพเอกซเรย์ปอดจะพบลักษณะปอดอักเสบ 2.ไข้ทรพิษ มีอาการไข้สูง ปวดตัว ศีรษะ อ่อนเพลีย เมื่อหายแล้วอาจเกิดแผลเป็นรอยบุ๋ม เกิดความพิการและถึงขั้นตาบอด 3.ไข้เลือดออกไครเมียนคองโก อาการจะเริ่มอย่างเฉียบพลัน มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บตา ใบหน้าแดง กลัวแสง มีอารมณ์แปรปรวน จากนั้นอาจง่วง ซึมเศร้า หัวใจเต้นเร็ว ต่อมน้ำเหลืองโต พบเลือดออกจากส่วนต่างๆ มีเลือดกำเดาและอาจพบอาการของตับอักเสบ 4.ไข้เวสต์ไนล์ มีอาการไข้ ปวดศีรษะ หนาวสั่น มีเหงื่อออก อ่อนเพลีย ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ซึม ในรายที่รุนแรงจะมีอาการทางสมองเยื่อหุ้มสมองอักเสบชักและหมดสติ

...

5.ไข้เหลือง มีอาการไข้สูงเฉียบพลัน 5- 7 วัน ปวดศีรษะ ปวดหลัง คลื่นไส้ อาเจียน เลือดออกในปาก ถ่ายเป็นเลือดและถึงขั้นเสียชีวิต 6.โรคไข้ลาสซา มีไข้ ปวดศีรษะ เจ็บคอ ไอ อาเจียน ท้องร่วง เจ็บหน้าอก และปวดบริเวณช่องท้อง บางรายมีอาการรุนแรงจะมีเลือดออกถึงขั้นช็อกและอาจมีอาการหูหนวกจากพยาธิ 7.โรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์ มีอาการคล้ายเป็นหวัด มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ สมองอักเสบ หรือมีอาการไข้ร่วมกับอาการทางระบบประสาท เช่น วิงเวียนศีรษะ เดินโซเซ ชัก มีการเคลื่อน ไหวของลูกตาผิดปกติและถึงขั้นเสียชีวิต 8.โรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก มีอาการไข้สูงเฉียบพลัน อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะมาก ตามมาด้วยอาการเจ็บคอ อาเจียน ท้องเสีย และมีผื่นนูนแดงตามตัว ซึ่งมักเกิดร่วมกับภาวะตับถูกทำลายและถึงขั้นเสียชีวิต

9.โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา มีอาการไข้ อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ และเจ็บคอ บางรายจะมีเลือดออกทั้งในอวัยวะภายในและภายนอก ในรายที่รุนแรงพบว่าตับและไตวายและอาจเสียชีวิต 10. โรคติดเชื้อไวรัสเฮนดรา มีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ เจ็บคอวิงเวียน ในระยะแรกมักจะพบอาการปอดอักเสบ ในรายที่รุนแรงจะมีอาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลวและอาจถึงขั้นเสียชีวิต 11.โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือโรคซาร์ส มีอาการไข้สูง ปวดตามตัว ศีรษะ บางรายมีอาการของระบบทางเดินหายใจ ถ่ายเหลว ปอดอักเสบและถึงขั้นเสียชีวิต 12.โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส มีอาการไข้ ไอ หอบ ในรายที่มีอาการรุนแรงมักมีอาการแสดงของโรคปอดอักเสบ อวัยวะล้มเหลว โดยเฉพาะไตวาย และอาจถึงขั้นเสียชีวิต

และในปี 2561ได้ประกาศโรคติดต่ออันตรายเพิ่มอีก 1 โรคเป็นโรคที่ 13 คือ วัณโรค ดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงมาก เป็นวัณโรคที่มีการดื้อยา 4 ขนานร่วมกัน ได้แก่ ไอโซไนอะซิด ไรแฟมพิซิน กลุ่มยาฟลูออโรควิโนโลน และกลุ่มยาทางเลือกที่สองที่เป็นยาชนิดฉีด มีอาการไอเรื้อรังหรือไอเป็นเลือด เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มีไข้ เจ็บหน้าอก หอบเหนื่อย สามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ การหายใจล้มเหลวถึงขั้นเสียชีวิต

จนล่าสุดมีการประกาศโรคติดต่ออันตราย ลำดับที่ 14 คือ โรคติดเชื้อโควิด-19 มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค บางรายจะเกิดการติดเชื้อที่ปอดรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า การมีประกาศให้ โรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ลำดับที่ 14 ไม่ใช่ว่าไทยคุมโรคไม่ได้ แต่มีเพื่อช่วยให้บุคลากรสาธารณสุขทุกคนเพิ่มความสามารถในการควบคุมการระบาดของโรค และเน้นการควบคุมป้องกันโรคมากกว่า จะมุ่งเอาผิดตามกฎหมาย เพราะจริงๆ สิ่งที่พยายามแนะนำ คือ หากไม่จำเป็นก็อย่าเดินทางไปประเทศเสี่ยง ถ้าไปก็ขอให้ระมัด ระวัง แนะนำให้กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ และใส่หน้ากากอนามัย ถ้าทำได้ก็เป็นผลดีกับตัวเอง และ ส่วนรวม ที่ผ่านมาบุคลากรทางการแพทย์ทำหน้าที่ได้อย่างดี ตอนนี้จึงเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องร่วมมือกัน

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ขยายภาพว่า โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย ดังนั้น หากพบผู้ป่วยหรือสงสัยต้องแจ้งกรมควบคุมโรคภายใน 3 ชั่วโมง หากไม่ แจ้งจะมีโทษทั้งปรับและโทษจำคุก เช่นกรณีเจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 40 (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 5แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีผู้ใดขัดขวางหรือไม่อํานวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 45 วรรคสามต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท และผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือบุคคลตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทีมข่าวสาธารณสุข มองว่าประเทศไทยเคยเผชิญกับ โรคติดต่ออันตรายมาแล้วถึง 13 โรค ดังนั้นจึงถือว่ามีบทเรียนเปรียบเสมือนเป็นองค์ความรู้ที่จะสามารถนำมาใช้ในการสู้กับโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 อย่างโรคโควิด-19 ได้

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราอยากขอฝากในการป้องกันและต่อสู้กับโรค คือ การได้รับความร่วมมือและปฏิบัติตามกฎหมาย โดยยึดสูตรในการป้องกันตัวเองและสังคมโดยรวม

ด้วยการ “เลี่ยงไปในพื้นที่เสี่ยง กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือ ใส่หน้ากาก”.

ทีมข่าวสาธารณสุข