ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทยด้วยประเพณีอันดีงามที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ คือการเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อได้พบปะญาติพี่น้อง ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ

“รดน้ำดำหัว” เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่แสดงถึงความเคารพผู้อาวุโสก็ได้รับพรอันประเสริฐเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

นี่เป็นความงามที่คนไทยปฏิบัติต่อกัน

ก็ขอให้ทุกชีวิตทุกคนจงมีความสุขสมหวัง ปราศจากภยันตราย คิดดีก็จะได้เจริญรุ่งเรืองทั้งตนเองและครอบครัว

สุขกายสบายใจ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บนับเป็นบุญอันประเสริฐ สำหรับชีวิตคนเราแล้วไม่ต้องร่ำรวยเงินทองมากมาย

ตะเกียกตะกายมากไปก็เป็นทุกข์ ไม่ยั่งยืน

แวดวงการเมืองช่วงนี้คงจะสงบเพราะทุกคนต่างมีกิจกรรมชีวิตที่ต่างกันไป สังคมโดยรวมจึงไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

ให้น่าวิตกกังวล...

ก็มีคำถามค้างปีที่ว่ารัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี จะไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่

ตอบแบบตรงๆไม่อ้อมค้อม

ยังอยู่ได้อีกยาว!

เพราะพรรคร่วมรัฐบาลยังต้องการทำงานร่วมกันต่อไป ยังไม่มีพรรคไหนพร้อมที่จะเลือกตั้ง โดยเฉพาะ “เพื่อไทย” พรรคแกนนำที่ไม่พร้อมด้วยประการทั้งปวง

เนื่องจากยังไม่สามารถสร้างผลงานเป็นชิ้นเป็นอันให้ปรากฏ นโยบายหลายอย่างที่ประกาศเอาไว้แทบจะผลักดันไม่ได้สักอย่าง

อีกทั้ง “เศรษฐกิจ” ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดยังไม่มีแววที่ฟื้นขึ้นมาได้

แม้แต่นโยบาย “ดิจิทัลวอลเล็ต” แจกหัวละหมื่นที่ว่าจะมีเฟส 3-4 ก็ยังคลอดออกมาไม่ได้ แม้ไม่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ

แต่มีผลต่อจิตใจของชาวบ้านที่รอคอยอยู่ด้วยความหวัง

ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงเป็นคำตอบที่ว่าทำไม “ภูมิใจไทย” จึงกล้าที่จะตอแยมาตลอด เพราะอ่านทะลุแล้วว่า

...

“เพื่อไทย” ไม่กล้าทำอะไร?

“ยุบสภา” ก็ไม่กล้า

ขับออกจากรัฐบาลก็ไม่กล้า

ปรับ ครม.ดึงกระทรวงสำคัญก็ไม่กล้า

การที่ “ไชยชนก ชิดชอบ” ลูกชาย “เนวิน ชิดชอบ” ยังหาญกล้าท้าทายกลางสภาให้เห็นมาแล้ว ด้วยการประกาศค้านกฎหมาย “กาสิโน”

“ทักษิณ ชินวัตร” ผู้มากบารมีตัวพ่อก็ยังต้องเงียบ

แม้ในใจจะแค้นเคืองแค่ไหนก็ตาม

ด้วยเหตุและปัจจัยดังที่ว่ามานี้ จึงทำให้ “ภูมิใจไทย” ที่ประกาศเลือดน้ำเงินเข้ม และเปลี่ยนโลโก้พรรคเป็นสีน้ำเงินทั้งหมด ไม่มีสีอื่นเจือจาง

เท่ากับประกาศนี่คือของแท้หัวขบวนอนุรักษนิยม

เป็นพรรคที่มี “พี่เลี้ยง” ไม่ธรรมดา

จากการออกมาต่อต้านกฎหมาย “กาสิโน” นั้นสามารถแสดงจุดยืนเคียงข้างกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน

ไม่มีอ้อมค้อม แสดงตัวอย่างไม่หวั่นไหว

ก็คงเป็นเรื่องของ “เพื่อไทย” ที่จะหาทางให้กฎหมายฉบับนี้คลอดออกมาให้ได้ แต่ฟังเสียง “ทักษิณ” และแกนนำพรรคหลายคนที่บอกว่าไม่ผ่านก็รอรัฐบาลหน้าได้

เรื่องนี้คงจบแบบด้วนๆแบบนี้แหละ!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม