หลังจากยักตื้นติดกึกมาเกือบหนึ่งปี โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ตห้าแสนล้านบาท แจกกันจุกๆ ให้ประชาชน 50 ล้านคน เพื่อเพิ่มกำลังซื้อในช่วงเศรษฐกิจเดี้ยงยาว ก็เข้าเกียร์เดินหน้าได้ซะที

วันนี้ (10 ก.ค.) ทีมหมอตำแยทำคลอด โครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลจะประชุมสรุปเงื่อนไขทั้งหมดให้เสร็จสมบูรณ์

วันจันทร์หน้า (15 ก.ค.) คณะ กก.ชุดใหญ่ ซึ่งมีนายกฯเศรษฐา ทวีสิน เป็นประธาน จะพิจารณารายละเอียดโครงการให้สะเด็ดน้ำทุกประเด็น!!

วันอังคารถัดไป (30 ก.ค.) ที่ประชุม ครม.จะลงมติเห็นชอบให้เริ่มคิกออฟโครงการดิจิทัลวอลเล็ต อย่างเป็นทางการ

ก่อนส่งให้กฤษฎีกาพิจารณาให้ชัวร์อีก 2 สัปดาห์

ภายในเดือนสิงหาคม รัฐบาลจะเปิดให้ประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เริ่มลงทะเบียนและยืนยันตัวบุคคลเพื่อรอรับเงินดิจิทัลหนึ่งหมื่นบาทในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี

ต้นเดือนธันวาคม เงินดิจิทัลหนึ่งหมื่นบาทจะโอนเข้าบัญชีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ 50 ล้านคนพร้อมกัน

ให้เอาไปใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ให้ระเบิดเถิดเทิง

“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่ามาถึงจุดนี้...โครงการดิจิทัลวอลเล็ตซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย จะไม่เลิก จะไม่เลื่อน จะไม่ล่ม และจะไม่ล้มแน่นอน!!

เพราะถ้าโครงการนี้ล่มศรัทธาประชาชนต่อพรรคเพื่อไทยจะล้มละลายหายสูญอย่างสิ้นเชิง

แม้พรรคก้าวไกลจะต่อต้านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตสุดลิ่มทิ่มประตู

รัฐบาลเศรษฐาก็ต้องลุยถั่วไปให้ถึงเส้นชัย

เพราะมีประชาชนหลายสิบล้านคน ตั้งตารอรับเงินแจกฟรีหนึ่งหมื่นบาทจากรัฐบาล

ส่วน “แหล่งที่มาของเงินห้าแสนล้านบาท” ที่รัฐบาลเก็บเบี้ยใต้ถุนร้านมาแจกฟรีประชาชน 50 ล้านคน

รัฐบาลจัดงบปี 2567 ไว้แล้ว 1.75 แสนล้านบาท

...

บวกงบปี 2568 อีก 1.52 แสนล้านบาท รวมเป็น 3.27 แสนล้านบาท

ยังต้องไปล้วงเงิน ธ.ก.ส.อีก 1.72 แสนล้านบาทมาเติมส่วนขาดให้เต็ม

ถ้าหากแผนดึงเงิน ธ.ก.ส.มาโปะส่วนที่ขาดติดไฟแดง??

ก็เหลือทางออกสุดท้าย...คือต้องระเบิดเพดานกู้เงิน

มาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องลุยแหลกลูกเดียว!

“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า เงื่อนไขการใช้เงินดิจิทัลหนึ่งหมื่นบาทให้ซื้อสินค้าที่มีแหล่งผลิตในประเทศไทย

หนึ่งครอบครัวสามารถใช้สิทธิ์รวมกันได้ไม่ผิดกติกา

ครอบครัวมีสมาชิก 5 คน สามารถลงขันซื้อสินค้าราคาห้าหมื่นบาทได้อย่างสบายๆ

“แม่ลูกจันทร์” คาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่เกิน 45 ล้านคน

จากเป้าหมายที่กำหนดไว้ 50 ล้านคน

เนื่องจากเป็น “ผู้ขาดคุณสมบัติ” เพราะมีรายได้เกิน 70,000 บาทต่อเดือน หรือเกิน 840,000 บาทต่อปี หรือมีเงินฝากรวมกันทุกบัญชีเกิน 500,000 บาทต่อราย ประมาณ 2 ล้านคน

บวกกับผู้ไม่ประสงค์ลงทะเบียน รับเงินแจกฟรีอีก 3 ล้านคน

ดังนั้น วงเงินที่เตรียมแจกฟรี 5 แสนล้านบาท จะใช้จริงๆเพียง 4 แสนล้านบาท ถึง 4.5 แสนล้านบาทเท่านั้นเอง

เท่านั้นเองที่ไหน...4.5 แสนล้านบาทเชียวนะโยม.

“แม่ลูกจันทร์”

คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม