สรุปอภิปรายงบประมาณ 2568 วันสุดท้าย ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ มติพรรคฝ่ายค้านไม่ขอโหวตเห็นชอบหลักการ ชี้ มุ่งแต่ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ตอบโจทย์ประเทศ ด้านรัฐมนตรีทยอยชี้แจงตอบข้อซักถามตลอดวัน
วันที่ 21 มิถุนายน 2567 วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ และเป็นวันสุดท้ายของการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 3,752,700 ล้านบาท ในวาระแรก โดยการอภิปรายตลอดวันตั้งแต่เช้าจรดเย็นมีประเด็นน่าสนใจหลายประเด็น ดังนี้
การประชุมเริ่มตั้งแต่ 09.00 น. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้กล่าวเปิดการประชุมในวันที่ 3 จากนั้นเข้าสู่การอภิปรายของ นายเจษฎา ดนตรีเสนาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ปทุมธานี พรรคก้าวไกล อภิปรายเป็นคนแรกของวันในเรื่องการจัดการน้ำ ปี 2568 โดยพบว่าการจัดทำงบประมาณ 2568 พบว่าน่าห่วงกังวลหลายเรื่อง พร้อมเสนอแนะ 3 ข้อ
...
ต่อมาเวลา 09.19 น. นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายถึงงบกลางที่เพิ่มขึ้น 200,000 ล้านบาท ไปเพิ่มเพื่อรองรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตถึง 152,000 ล้านบาท พร้อมขอตั้งฉายารัฐบาลนักวิ่งราวทรัพย์ เอาประชาชนและประเทศเป็นผู้ค้ำประกัน แล้วเอาเงินที่กู้มาแจกประชาชน สุดท้ายจะบอกว่าเป็นผลงานรัฐบาล อีกทั้งปีนี้ยังมีการตั้งกรอบประมาณขาดดุลสูงสุดในรอบ 36 ปี ซึ่งเป็นนัยที่ส่งผลต่อวินัยการเงินการคลังของประเทศในระยะยาว
เวลา 09.39 น. นายมังกร ยนต์ตระกูล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปราย โดยเป็นห่วงรัฐบาลในการจัดสรรงบประมาณปี 2568 โดยเฉพาะการหารายได้ และการใช้จ่ายเงินงบประมาณตามแผนที่เกินตัว โดยไม่รู้ว่าจะมีการหารายได้เพิ่มได้หรือไม่ รวมถึงการตั้งเป้าให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย ก็ไม่รู้จะทำได้หรือไม่ เช่นกัน
จากนั้น นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายต่อในเวลา 09.50 น. ชี้ถึงปัญหาที่ดินทับซ้อนพื้นที่ป่า 16.7 ล้านไร่ โดย 3 ใน 4 ของที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ ซึ่งปัญหาที่ดินทับซ้อนพื้นที่ป่าสงวน และป่าอนุรักษ์ มีประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก และแผนงบประมาณปี 2568 ไม่มีตรงไหนที่ระบุว่าจะทำโฉนดชุมชนแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อน พร้อมเสนอแนะทางแก้ 3 ข้อ
เวลา 10.00 น. นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงผลการประชุมวิปฝ่ายค้าน โดยทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าการจัดสรรงบประมาณในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 ไม่ตอบโจทย์ประเทศไทยในอนาคต มีความพยายามเบียดบังงบประมาณเพื่อให้นโยบายของพรรคหลัก (ดิจิทัลวอลเล็ต) สำเร็จลุล่วงได้ โดยไม่สนใจว่าจะไปเบียดบังงบในส่วนอื่น ฝ่ายค้านทุกพรรคจึงมีมติร่วมกันว่า ไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568
เวลา 10.16 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายค้านประกาศคว่ำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในวาระแรก ว่า เรื่องของการเมืองก็ควรให้เป็นเรื่องของการเมือง ส่วนเวทีของสภาฯ ก็เป็นเวทีที่ให้ทุกฝ่ายนำเสนอ หรือมีข้อท้วงติง ข้อเสนอแนะนำ อยากให้คิดถึงเรื่องของผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ แต่เราเอง (พรรคร่วมรัฐบาล) ก็มี 314 เสียง มีความเหนียวแน่น คงไม่มีปัญหาอะไร พร้อมกับปฏิเสธกระแสข่าวเตรียมขับพรรคพลังประชารัฐพ้นพรรคร่วมรัฐบาล
เวลา 10.48 น. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงในประเด็นปัญหาเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา ว่า กระทรวงศึกษาธิการจะทำงานร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ซึ่งต้องของบประมาณในการสนับสนุน รวมถึงแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พร้อมระบุว่า “เรื่องการศึกษาไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่เราทุกคนมาช่วยกันปฏิวัติการศึกษา แก้ปัญหาประเทศ”
เวลา 12.36 น. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงและตอบข้อซักถามในหลายประเด็น โดยยอมรับว่า งบประมาณของกระทรวงเกษตรฯ ไม่พอต่อการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรทั้งระบบ ส่วนเรื่องการเผาในพื้นที่การเกษตร หน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรฯ กำลังร่างมาตรฐานใหม่ครอบคลุมเรื่องการลดเผา ซึ่งอยู่ในช่วงรับฟังความเห็นประชาชน จากนั้นจะเข้าสู่คณะกรรมการ ขณะที่สินค้าเกษตรราคาปรับสูงขึ้นหลายตัว ก็จะดำเนินการต่อไป
เวลา 12.47 น. ทางด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอบคุณ สส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ที่สะท้อนให้เห็นปัญหาการจัดงบประมาณปี 2568 ถือว่าข้อมูลเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และภายใต้ข้อจำกัดงบประมาณแผ่นดิน กว่าจะได้จัดสรรต้องผ่านขั้นตอนมากมาย ไม่ปฏิเสธว่าการบริหารจัดการน้ำ การบริหารจัดการเรื่องที่ดิน มีปัญหามากมาย ซึ่งหากไม่แก้กฎหมาย ก็เหนื่อย พร้อมย้ำว่า กระทรวงเกษตรฯ ต้องเดินหน้าใหม่ ทำเกษตรแบบใหม่ เพื่อพี่น้องเกษตรกร แก้ปัญหาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ส่วนโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง กำลังจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า
ขณะที่เมื่อเวลา 13.10 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้ประสานงานรัฐบาล มองว่า เป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะตัดสินใจลงมติคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 แต่ในความเป็นจริงต้องดูว่างบประมาณเหล่านี้พยายามแก้ไขปัญหาฉุกเฉินของประชาชนหลายด้านและเป็นปัญหาที่สะสมคั่งค้างมา พร้อมมองว่า การใช้วาทกรรมที่จะด้อยค่านั้นเป็นสีสัน และในความเป็นจริงฝ่ายค้านมีหน้าที่ในการตรวจสอบ ซึ่งการคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 ถือเป็นสิ่งที่เสียหายต่อประชาชน
พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมอภิปรายเมื่อเวลา 13.23 น. ถึงงบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ที่ขอมา 1.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ประมาณ 7 พันกว่าล้านบาท แต่ขณะนี้เกิดความขัดแย้งในบิ๊กตำรวจ ซึ่งความจริงเกิดจากโครงสร้างที่มีตำรวจสูงสุดเพียงตำแหน่งเดียว จึงเสนอทางแก้ว่าอยากให้เปลี่ยนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นกระทรวงตำรวจ เพื่อไม่ให้เกิดการย้ายข้ามหน่วย
จากนั้นเวลา 14.25 น. ทางด้าน น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ 2,945 ล้านบาท ว่า มีโครงการที่ซ้ำซ้อนกันกว่า 600 ล้านบาท โดยนำไป PR โครงการยอดฮิต คือ รณรงค์เรื่องยาเสพติด ในหลายกระทรวง และหลายกรม จึงขอตั้งคำถามว่างบประชาสัมพันธ์แบบนี้ประชาชนได้ประโยชน์จริงๆ หรือใครได้ประโยชน์ พร้อมเสนอปิดช่องโหว่งบประมาณโฆษณาประชาสัมพันธ์ภาครัฐ ต้องไม่ใช้ภาษีอวยตัวเอง ไม่ใช้สื่อรัฐเลือกข้างนำเสนอพรรคการเมือง ไม่ใช้ภาษีส่งเสริมภาพลักษณ์ตนเอง ยกระดับกรมประชาสัมพันธ์ให้ทันสมัย และการประชาสัมพันธ์รัฐต้องโปร่งใส ป้องกันการแทรกแซงครอบงำสื่อมวลชน
เวลา 16.13 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตอบข้อสังเกตและชี้แจงในเรื่องงบประมาณการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ว่า มี กคช.รายได้ 5,892 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นงบค่าลงทุน 1,300 ล้านบาท แต่ไม่ได้แปลว่างบการลงทุนมีเท่านี้ ซึ่งงบลงทุนในปี 2568 ตั้งเอาไว้ 5,317 ล้านบาท โดยกู้เพิ่ม 3,300 ล้านบาท และเงินอุดหนุนอีก 673 ล้านบาท ขณะที่เรื่องสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มีการอภิปรายว่าให้ความสำคัญฮาร์ดแวร์มากกว่านั้น ในรายละเอียดไม่ใช่เช่นนั้น พร้อมยืนยันว่า เงินที่แบ่งการใช้ในกระทรวง พม. ล้วนทำเพื่อให้เกิดประโยชน์กับที่น้องประชาชน
ในเวลา 16.25 น. เข้าสู่การอภิปรายของ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เรื่องงบประมาณกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ว่า แม้งบประมาณจะเพิ่มขึ้นกว่า 5 พันล้านบาทในรอบ 5 ปี แต่ไม่มีทางพัฒนาได้ หากไม่เข้าใจและไม่เลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม และอยากเสนอว่า เวลาที่หน่วยงานของบเกี่ยวกับ AI ต้องให้ประชาชนตรวจสอบติดตามได้อย่างจริงจัง ขอให้เอาเวลาออกอีเวนต์มาทำงานบ้าง เพราะงบประมาณด้านดิจิทัลของปี 2568 สะท้อนว่ารัฐบาลมีแต่ Buzzword สวยหรู ไม่มีความเข้าใจ ไม่มีวิสัยทัศน์ที่จะนำพาประเทศไปสู่สังคมโลกดิจิทัล ไม่ถอดบทเรียนจากอดีต มีแต่สานปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขอชี้แจงเมื่อเวลา 18.15 น. ถึงงบประมาณของกรมอุตุนิยมวิทยา มีการวางยุทธศาสตร์ในการจัดการผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติ รวมถึงแจงในเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีการจัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ หรือ AOC 1441 ซึ่งมีการแนะนำในเรื่องของ 191 เพราะมีงบประมาณหลายพันล้านบาท
ส่วนการอภิปรายของ นายปกรณ์วุฒิ ที่มีข้อห่วงใยในแอปพลิเคชันทางรัฐ หรือเอไอ กระทรวงดีอีมีการอนุมัติเรื่องการเช่าระบบคลาวด์ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ถือเป็นโครงการที่มีความจำเป็นและต้องเร่งดำเนินการมีแหล่งเงินรองรับ ต่อมา นายปกรณ์วุฒิ ขอใช้สิทธิ์พาดพิงว่า เรื่องระบบเตือนภัย เราน่าจะมีทางออกที่ทำให้ไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณของประเทศ เพื่อให้โครงการที่เราจะเตือนภัยเป็นโครงการเดียว สามารถแจ้งได้ในทุกรูปแบบและไม่ซ้ำซ้อน โดย นายประเสริฐ ลุกขึ้นกล่าวว่าจะรับข้อสังเกตของนายปกรณ์วุฒิไว้ และเรื่องนี้คงขึ้นอยู่กับคณะกรรมการอีกครั้ง
เวลา 18.37 น. ก่อนเข้าสู่การอภิปราย น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นขอหารือเรื่องสไลด์ประกอบอภิปรายของตนเอง ถูกตัดส่วนใบหน้านายกรัฐมนตรีออกไป และเซนเซอร์ให้เป็นรูปหุ่นยนต์แทน และพาดพิงถึงรัฐบาล โดย นายปดิพัทธ์ ทำหน้าที่ประธานการประชุมชี้แจงว่า เป็นการวินิจฉัยโดยใช้กรรมการ อาจไม่เกี่ยวกับเนื้อหา และเป็นภาพตัดต่อที่ดูไม่เหมาะสม ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ประท้วงว่าเป็นการกล่าวหารัฐบาล และไม่อยากให้ใช้แท็กติกแบบนี้ เมื่อรูปถูกแบนแล้วก็เอามาโชว์เพื่อให้ช่างภาพถ่าย โดย น.ส.รักชนก ระบุตอบโต้ว่าไม่มีเจตนาเสียดสี และจะนำภาพนี้ไปโพสต์ในโซเชียลมีเดียเพื่อให้ประชาชนตัดสิน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าผู้อภิปรายปิดเป็นคนสุดท้ายของคืนนี้คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล จากนั้นจะมีการลงมติของที่ประชุมสภาฯ ว่าจะรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 ฉบับนี้หรือไม่ หากมติที่ประชุมรับหลักการก็จะเข้าสู่การตั้งกรรมาธิการวิสามัญ และกำหนดกรอบเวลาในการแปรญัตติ ทั้งนี้ หลังจากลงมติเสร็จสิ้น จะมีการอ่านพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกาปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. 2567 ปิดท้ายการประชุม.
(อ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 โดยสังเขป)