กกต.ร่วมกับ ตร.-กรมการกงสุล-ไปรษณีย์ไทย ปล่อยขบวนรถ 639 คัน ขนส่งบัตรเลือกตั้งกระจายไปยังหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ ใช้กำลังตำรวจ 1,356 นาย ติดอาวุธคุมเข้ม ไปรษณีย์ฯมอนิเตอร์ติดตามแบบเรียลไทม์ ยอดรวมขอลงคะแนนล่วงหน้า 2,235,830 คน พาสื่อสังเกตการณ์โชว์ความโปร่งใส “อุ๊งอิ๊ง” คลอดแล้ว ลูกชายชื่อน้อง “ธาษิณ” “คุณตาทักษิณ” ดี๊ด๊าขออนุญาตกลับบ้านเลี้ยงหลาน “อาปู” สุดปลื้มร่วมยินดี “เศรษฐา” คาด 7-8 วันกลับมาเดินสายหาเสียงได้ หวังช่วงโค้งสุดท้าย 3 แคนดิเดตฯอยู่พร้อมหน้า สวน “ตู่” ทุกอาชีพบริหารประเทศได้ “บิ๊กป้อม” ถือเคล็ดกราบหลวงพ่อใหญ่บรรลุฝัน “ขิง” ฟุ้ง “พี่ตู่” มาแรง กวาด ส.ส.ใต้เกินครึ่ง-ปาร์ตี้ลิสต์ 3 ล.เสียง ก้าวไกลไม่สนยิ่งทุบยิ่งโต

ท่ามกลางบรรยากาศการหาเสียงเข้าใกล้โค้งสุดท้าย ทุกพรรคการเมืองออกเดินสายช่วยผู้สมัครกันคึกคัก ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยขบวนรถขนส่งบัตรเลือกตั้ง ส.ส. ไปยังหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ พร้อมรับการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 7 พ.ค. และวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.

...

ปล่อยขบวนขนส่งบัตรเลือกตั้ง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 พ.ค.ที่สำนักงานบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด นายแสวง บุญมี เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล และนายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมแถลงข่าวการปล่อยขบวนรถขนส่งบัตรเลือกตั้ง ส.ส. นายแสวงกล่าวว่า สำนักงาน กกต.เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวก ให้ประชาชนที่จะมาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า จึงขอความร่วมมือฝ่ายตำรวจดูความเรียบร้อยด้านการจราจร และความปลอดภัยผู้ที่ออกไปใช้สิทธิ ผู้ที่ลงทะเบียนออกเสียงเลือกตั้งล่วงหน้า จะใช้สิทธิได้เฉพาะวันที่ 7 พ.ค. ไม่สามารถใช้สิทธิในวันที่ 14 พ.ค.ได้ โดยมีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิล่วงหน้านอกเขตทั้งสิ้น 2,235,830 คน

ใช้ตำรวจ 1,356 นาย คุ้มกันเข้ม

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) กล่าวว่า สตช.ได้รับมอบภารกิจให้สนับสนุนการเลือกตั้ง มีการประสานงานกับ กกต. และไปรษณีย์ไทยมาต่อเนื่อง ภารกิจการขนส่งบัตรเลือกตั้งไปยังหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ ได้จัดตำรวจทางหลวง ตำรวจในพื้นที่ภาค 1-9 และตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) รวมประมาณ 1,356 นาย พร้อมอาวุธ รถนำขบวน 639 คัน ดูแลความสะดวกมีการตั้งศูนย์ประสานงานการปฏิบัติดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เชื่อว่าการขนส่งบัตรจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุลกล่าวว่า มีคนไทยลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณา จักร 153,139 คน ขณะนี้สถานทูตหลายแห่งเริ่มจัดเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรแล้ว มีถุงเมลทางการทูตที่ขนส่งบัตรออกเสียงลงคะแนนกลับมาที่ไทยแล้ว ประกอบด้วย กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา คูเวต และซีอาน ประเทศจีน

ไปรษณีย์ฯ มอนิเตอร์เรียลไทม์

นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทยฯ กล่าวว่า ไปรษณีย์ ไทยขนส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรไปยัง 66 ประเทศ 94 เมือง ปลายทางเรียบร้อยแล้ว และจัดส่งหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ไปยังเจ้าบ้าน (ส.ส.1/16) จำนวน 18.4 ล้านครัวเรือน ส่วนการจัดส่งบัตรเปล่า จะมี 2 ส่วนคือบัตรที่จะใช้ในการเลือกตั้งล่วงหน้า (7 พ.ค.) จะเริ่มส่งตั้งแต่วันที่ 1-4 พ.ค. ส่วนบัตรที่จะใช้ในการเลือกตั้งทั่วไป (14 พ.ค.) เริ่มจัดส่งตั้งแต่วันที่ 4-10 พ.ค. ใช้รถยนต์ขนส่ง 535 เที่ยว จะมีการมอนิเตอร์ติดตามการขนส่งแบบเรียลไทม์ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าบัตรเลือกตั้งจะถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

พาสื่อสังเกตการณ์โปร่งใส

หลังการแถลงข่าว นายแสวงและคณะ ร่วมกันปล่อยขบวนรถขนส่งบัตรเลือกตั้งที่จะใช้ในการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 7 พ.ค. ไปทั่วประเทศ พร้อมกับพาสื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์การคัดแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด 26 ตัว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ทุ่งสองห้องคอยดูแลความเรียบร้อย หากพรรคการเมืองต้องการร่วมสังเกตการณ์ ต้องทำหนังสือขออนุญาตจาก กกต. และสามารถสังเกตการณ์ได้ผ่านทางกล้องวงจรปิดเท่านั้น ทั้งนี้เมื่อรถขนส่งถึงจุดหมายปลายทาง จะมีคณะกรรมการที่ กกต.แต่งตั้งขึ้น เป็นกรรมการตรวจรับ พร้อมตรวจนับจำนวนความถูกต้อง เมื่อตรวจสอบข้อมูลเสร็จสิ้น จะถ่ายรูปเพื่อรายงานความถูกต้องตามขั้นตอน

ซิดนีย์คึกคักใช้สิทธิกว่า 80%

ที่นครซิดนีย์ ออสเตรเลีย วันสุดท้ายของการเปิดลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ส.ส.นอกราชอาณาจักร ตามที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ จัดหน่วยเลือกตั้งเคลื่อนที่แบบคูหาที่โรงแรมเมโทร โฮเต็ล มาร์โลว์ ย่านไทยทาวน์ มาตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. นับเป็นจุดเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่คึกคักมาก นางหัทยา คูสกุล กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ กล่าวว่า ขอบคุณชาวไทยทุกคนที่ให้ความสำคัญและร่วมมืออย่างดี มาลงคะแนนเสียงที่หน่วยเลือกตั้ง บางคนเดินทางมาไกล บางวันฝนตกหนักก็มากัน เข้าแถวใช้สิทธิแบบท่วมท้น เท่าที่ดูคาดว่าคนใช้สิทธิกว่า 80% แต่ต้องรอนับบัตรลงคะแนนอีกครั้งก่อนส่งกลับประเทศไทย

นศ.-คนรุ่นใหม่แห่ลงคะแนน

นายมาโก้ มะลิวงษ์ ผู้บริหารออสเตรเลียน อินเตอร์เนชั่นแนล คอลเลจ เปิดเผยว่า ดีใจที่เห็นชาวไทยมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันคึกคัก มาต่อคิวเข้าแถวยาวจากในอาคารลงมาจนถึงถนนด้านนอกอาคาร แต่ใช้เวลาเพียง 10-15 นาที ก็ใช้สิทธิหย่อนบัตรเลือกตั้งได้ขอชมสถานกงสุลใหญ่จัดระบบและบริการได้ดีรวดเร็ว จากประสบการณ์ไม่เคยเห็นการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรครั้งไหนมีคนคึกคัก และจัดได้ดีเท่าครั้งนี้ ผู้มาใช้สิทธิส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา และคนรุ่นใหม่มากกว่าคนรุ่นกลางและรุ่นสูงอายุ

“อิ๊ง” คลอดลูกชายน้อง “ธาษิณ”

เมื่อเวลา 08.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย โพสต์ภาพคู่สามีนายปิฎก สุขสวัสดิ์ และ ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ ที่เพิ่งคลอดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 พ.ค. พร้อมข้อความว่า “สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชายพฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ ชื่อเล่นชื่อ “ธาษิณ” ครับ ขอบคุณทุกกำลังใจ เดี๋ยวอีกไม่กี่วันนี้คุณแม่รอแข็งแรงก่อนจะไปพบพี่ๆสื่อมวลชนครับ #baby Thasin #mmdpsbabyboy”

“พ่อ-อาปู” ดีใจขออนุญาตกลับ

ต่อมานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ลงทวิตเตอร์ว่า “เช้าวันนี้ผมดีใจมากที่ได้หลานคนที่ 7 เป็นชายชื่อธาษิณ จากน้องอิ๊ง แพทองธาร หลานทั้ง 7 คน คลอดในขณะที่ผมต้องอยู่ต่างประเทศ ผมคงต้องขออนุญาตกลับไปเลี้ยงหลาน เพราะผมอายุจะ 74 ปีกรกฎานี้แล้ว พบกันเร็วๆนี้ครับ ขออนุญาตนะครับ”

ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ดีใจที่สุด! ขอแสดงความยินดีกับหลานอิ๊งค์และปอนะจ๊ะ ที่ในที่สุดก็ได้เห็นหน้าหลานธาษิณแล้ว หลังจากรอคอยอุ้มท้องหาเสียงด้วยความอดทนมานาน ขอให้หลานมีสุขภาพกายที่แข็งแรง และจิตใจที่เข้มแข็งเหมือนแม่ และเชื่อว่าคุณตาคงอดใจรอจะอุ้มหลานไม่ไหว ส่วนอาก็รอวันที่จะได้อุ้มหลานนะ”

“เศรษฐา” คาด 7-8 วันเดินสายได้

ที่ลานพระรูปรัชกาลที่ 5 อ.เมืองสกลนครเวลา 09.00 น. พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัยใหญ่ นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค ช่วยผู้สมัคร ส.ส.สกลนครทั้ง 7 เขตหาเสียง ประกอบด้วย นายอภิชาต ตีรสวัสดิชัย นายนิยม เวชกามา น.ส.จิรัชยา สัพโส นายพัฒนา สัพโส น.ส.วงศ์อะเคื้อ บุญศล น.ส.สกุณา สาระนันท์ และนายเกษม อุประ มีประชาชนมาร่วมรับฟังจำนวนมาก นายเศรษฐาปราศรัยว่า เมื่อเช้าเป็นอีกวันที่เราต้องร่วมแสดงความยินดีกับครอบครัวชินวัตร เมื่อเวลา 07.00 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีหลานคนที่ 7 จาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธารฝากความคิดถึงพี่น้องชาวสกลนครทุกท่านด้วย คาดว่าอีก 7-8 วัน น.ส.แพทองธารน่าจะออกเดินสายหาเสียงช่วยให้พรรคเพื่อไทยได้

ย้ำจะทำให้คนไทยหายจน

นายเศรษฐากล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรงงาน หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ค่าแรงขั้นต่ำจะขึ้น 400 บาททันทีในปีหน้า และภายใน 4 ปี ค่าแรงจะปรับขึ้นเป็น 600 บาท สำหรับเงินเดือนปริญญาตรี จะถูกปรับขึ้น 25,000 บาท ภายในระยะเวลา 4 ปี เช่นเดียวกัน สำหรับพืชผลทางการเกษตรถือเป็นเรื่องสำคัญ หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลพี่น้องจะได้มีเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า สำหรับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นโยบายนี้มีคนบอกว่าเราทำไม่ได้ จะผิดกฎหมาย ขออย่าเชื่อ ขอให้พี่น้องเชื่อใจ พรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น พรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายยกเลิกบัตรคนจน แต่เรามั่นใจว่าบัตรคนจนจะหมดไป เมื่อพี่น้องร่ำรวยขึ้น ให้พี่น้องเอาบัตรคนจนแปะข้างฝา ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ดูต่างหน้าว่าเขาตราหน้าว่าเราเป็นคนจน แต่พรรคเพื่อไทยจะทำให้พี่น้องเราหลุดพ้นจากความเป็นคนจน ขอฝากพี่น้องชาวสกลนคร เลือก ส.ส.สกลนคร ทั้งคนทั้งพรรค เพื่อผลักดันนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จะเกิดขึ้นให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

ยุอย่าเลือกพรรคร่วมรัฐบาลเดิม

จากนั้นนายเศรษฐาและคณะเดินทางต่อไปยังเวทีปราศรัยที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร อ.พังโคน ซึ่งเป็นเวทีที่ 2 ช่วย น.ส.สกุณา สาระนันท์ นายพัฒนาสัพโส และ น.ส.จิรัชยา สัพโส ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร หาเสียง และเดินทางต่อไปยังเวทีปราศรัยที่ 3 ที่อ่างเก็บน้ำหนองสังข์ (ดอนตาทอง) อ.นาแก จ.นครพนม ช่วยนายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ นางมนพร เจริญศรี นายไพจิต ศรีวรขาน และนายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ มีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยจนเต็มพื้นที่ นายเศรษฐาปราศรัยว่า 8 ปีนี้เป็นช่วงที่ทุกข์ทรมานมาก มีปัญหาหมักหมมจากพรรคที่ร่วมรัฐบาลมา ทั้งพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ฯลฯ เราไม่ควรเลือกเขากลับมาใหม่และเราไม่เคยมีการตกลงว่าถ้าชนะเลือกตั้งแล้ว นายกฯจะเป็นลุงนั้นลุงนี้ นายกฯต้องมาจากเพื่อไทยเท่านั้น ขอเสียงโห่ร้องไล่ลุงทั้ง 2 กลับไปอยู่บ้านอีกที ต่อมาช่วงเย็น มีการจัดเวทีปราศรัยแห่งที่ 4 ที่โรงเรียนธาตุพนม อ.ธาตุพนม

หวัง 3 แคนดิเดตลุยโค้งสุดท้าย

ที่ศูนย์ประสานงานผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร ของนายพัฒนา สัพโพ นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ส่งข้อความผ่านไลน์ คุยและแสดงความยินดีกับ น.ส.แพทองธารแล้ว ทั้งคุณแม่และลูกชายสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดี ก็ให้กำลังใจ ดีใจที่คลอดออกมา เมื่อถามว่านายทักษิณทวีตข้อความระบุว่าอยากกลับมาเลี้ยงหลาน นายเศรษฐาตอบว่า “เป็นสิทธิของท่าน ผมก็เข้าใจความเป็นคุณพ่อและคุณตา” คงไม่ใช่การเรียกเรตติ้ง ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ ไม่ทราบด้วยว่าจะเป็นเหตุผลของการเรียกกระแสแลนด์สไลด์หรือไม่ หวังว่า น.ส.แพทองธารแข็งแรงหลังการคลอดลูกแล้ว ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งจะได้เห็นแคนดิเดตนายกฯทั้ง 3 คน ปราศรัยหาเสียงกันอีกครั้ง ขอให้ฟังการแถลงข่าวของ น.ส.แพทองธาร ต้องให้เกียรติ “อุ๊งอิ๊ง” ให้ได้พักผ่อนก่อน

สวน “ตู่” ทุกอาชีพบริหาร ปท.ได้

เมื่อถามว่ามีคนแสดงความเป็นห่วงอาการไข้และเสียงที่แหบ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่เป็นไร สู้ได้สบาย กลับจากเวทีปราศรัย จ.บุรีรัมย์ มาโรงพยาบาลให้น้ำเกลือแล้ว ยืนยันยังพร้อมลงพื้นที่ ไม่ต้องห่วง ยังสู้อยู่ วันนี้มาสกลนครให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.สกลนครของพรรคทุกคน เพื่อไทยต้องได้ยกจังหวัด ส่วนกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ พูดบนเวทีปราศรัยที่สงขลา ถามประชาชนว่าอยากได้นักธุรกิจมาบริหารประเทศหรือไม่ ไม่มีความเห็นอะไร ให้คนสงขลาตัดสิน หากหมายถึงตนไม่เป็นไร ทุกคนมีสิทธิจะบริหารประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร นักธุรกิจ ข้าราชการ

“เจ๊” ลั่นนายใหญ่คือประชาชน

ช่วงเช้าที่บ้านลาดปลาเค้า 60 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยสร้างไทย ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูป พร้อมกับผู้บริหารพรรค เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด วันที่ 1 พ.ค. คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวเปิดใจ “ชีวิตการเมืองเข้าปีที่ 32” ว่า การสร้างพรรคไม่ใช่เรื่องง่าย ภายใต้กติการัฐธรรมนูญ และสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน สงครามครั้งนี้จะเป็น Last War ของทั้งสองขั้ว ตนและทีมไทยสร้างไทย จะไม่ยอมให้เกิดการรัฐประหารอีกต่อไป ตลอดชีวิตการเมืองต้องพบเจอการรัฐประหารถึง 3 ครั้ง แต่ครั้งนี้เลวร้ายกว่าทุกครั้ง เพราะมีการสืบทอดอำนาจ และการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการใช้เงิน และอำนาจ หรือ Money politics มากที่สุด ไทยสร้างไทยพรรคเดียวไม่เกี่ยวกับใคร ไม่เป็นนอมินีใคร เพราะนายใหญ่คือประชาชน

“บิ๊กป้อม” กราบหลวงพ่อใหญ่

ที่ จ.ร้อยเอ็ด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมแกนนำพรรค เดินทางไปยังวัดบูรพาภิราม (วัดพระยืน) อ.เมืองร้อยเอ็ด สักการะพระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คูู่่เมืองร้อยเอ็ด และเข้ากราบนมัสการพระครูปริยัติเจติยาภิบาล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบูรพาภิราม ที่ให้พร พล.อ.ประวิตรให้มีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขความเจริญประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง พร้อมสนทนาธรรมว่า ปกติเจอแต่ในโทรทัศน์ ตัวจริงยังไม่แก่ยังดูแข็งแรง พร้อมถามว่าอายุเท่าไหร่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า 78 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสกล่าวย้ำว่า ใครมาวัดพระยืนต้องมาสักการะหลวงพ่อใหญ่ พระที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ มีประชาชนมากราบสักการะขอพรกันมาก โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา และการทำงาน ส่วนใหญ่ล้วนประสบความสำเร็จ ก่อนจะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด ในช่วงเย็นวันเดียวกัน

หยอดอีสานจะไม่น้อยหน้าใคร

ช่วงเย็นที่เวทีปราศรัยหอประชุมสาเกตฮอลล์ อ.เมืองร้อยเอ็ด พล.อ.ประวิตรขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ดหาเสียงว่า จะทําทุกวิถีทางให้ภาคอีสานอยู่ดีกินดี ยกระดับการขนส่งคมนาคม พัฒนาภาคอุตสาหกรรมควบคู่ไปกับระบบการศึกษา สร้างงานสร้างรายได้ด้วยนโยบายอีสานประชารัฐ ต่อไปนี้ชาวอีสานจะไม่น้อยหน้าใคร จากนั้น พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ว่า ดีใจมีคนมาฟังกันมาก เมื่อถามว่าอยากอวยพรอะไรกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ที่คลอดลูกชายหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “แสดงความยินดีด้วยนะครับ ขอให้มีความสุข” เมื่อถามว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯโพสต์ว่าจะกลับมาเลี้ยงหลาน พล.อ.ประวิตร ระบุว่า “กลับมาสิ” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ากลับมาได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบสั้นๆว่า “ก็กลับมาสิ”

“พี่ตู่” โปรแกรมยาวเต็มเหยียด

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เข้าทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้าตามปกติ มีการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ติดตามงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 2 พ.ค. ที่เปลี่ยนมาประชุมที่ห้อง 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 เนื่องจากตึกสันติไมตรีต้องเตรียมจัดสถานที่ในการจัดงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล วันที่ 4 พ.ค. และในวันที่ 2 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะแคนดิเคตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีโปรแกรมเดินตลาดหนองมน สักการะพระพุทธสิหิงค์มิ่งมงคลสิรินารถ ที่หอพระพุทธสิหิงค์ ศาลากลาง จ.ชลบุรี เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นเวลา 18.00 น. ขึ้นเวทีปราศรัยที่ลานหน้าศาลากลางจังหวัด มีแกนนำพรรค อาทิ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค ในฐานะรับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งภาคตะวันออก ร่วมปราศรัย และวันที่ 3 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์จะลงพื้นที่ปราศรัย จ.สุราษฎร์ธานี และวันที่ 5 พ.ค. หาเสียงที่ จ.สมุทรปราการ

โวใต้ได้เกินครึ่ง-ปาร์ตี้ลิสต์พรึ่บ

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงภาคใต้ที่ผ่านมาว่า พี่น้องชาวใต้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเหมือนที่ผ่านมา ทำให้ยิ่งมั่นใจในกระแสของ “ลุงตู่” หรือ “พี่ตู่” ภาคใต้สูงกว่าแคนดิเดตนายกฯจากพรรคอื่น เป็นผลมาจากการทำงานที่ผ่านมา จุดเด่น “พี่ตู่” ในสายตาคนใต้ที่ได้รับการสะท้อนมา คือความ จงรักภักดีต่อสถาบัน ความซื่อตรงต่อหน้าที่ เสียสละทำงานด้วยความทุ่มเท ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่โกงกิน จริงใจต่อพี่น้องประชาชน มั่นใจว่าเราจะได้ ส.ส.ภาคใต้เกินครึ่ง และได้คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ถึง 3 ล้านเสียงพื้นที่ภาคใต้

“พิธา” ขอคนเชียงใหม่กาก้าวไกล

ช่วงเช้าที่ จ.เชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ หาเสียง เริ่มที่ตลาดยางเนิ้ง อ.สารภี ช่วย น.ส.การณิก จันทดา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ตลาดสันกำแพง อ.สันกำแพง ช่วยนายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 และปิดท้ายที่ตลาดวโรรส อ.เมือง ช่วยนายเพชรรัตน์ ใหม่ชมภู ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 แต่ละจุดมีประชาชนมารอต้อนรับและถ่ายรูปกับนายพิธาอย่างคึกคัก นายพิธากล่าวกับประชาชนว่า ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ รู้สึกเชื่อมั่นว่าเราสามารถปักธงที่เชียงใหม่ได้ วันที่ 14 พ.ค.นี้ ให้ทุกคนหยิบปากกากาก้าวไกล ให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ให้เชียงใหม่ไม่เหมือนเดิม

คุยกระแสพุ่งแรงยิ่งไล่ทุบยิ่งโต

ที่พรรคก้าวไกล นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า กระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้นของพรรค แสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ ยิ่งช่วงโค้งสุดท้ายยิ่งมีขบวนการออกมาโจมตีด้วยข้อความอันเป็นเท็จ สร้างข่าวโจมตีโดยนักร้องหน้าเดิมๆ เราไม่หวั่นไหว เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า ก้าวไกลยิ่งทุบยิ่งหวาน ยิ่งตียิ่งโต แต่การปล่อยข่าวปลอมบิดเบือนว่าจะตัดเงินเดือน อสม. ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งไม่เป็นความจริง กำลังให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมหลักฐานดำเนินการทางกฎหมาย นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งเบาะแสความผิดปกติ เช่น มีทหารที่ จ.ตาก แจ้งว่ามีการบังคับให้ทหารเกณฑ์ไปลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า ที่ จ.กำแพงเพชร แบบยกหน่วย ขอให้ กกต.ชี้แจงด้วย ประชาชนต้องการการเลือกตั้งที่ยุติธรรม โปร่งใส พวกเราทุกคนต้องช่วยกันตรวจสอบ ตั้งแต่การเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 7 พ.ค. และเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.

ชี้เหตุผลต้องกระจายอำนาจ

ขณะที่นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร เขต 1 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ช่วงที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ช่วยหาเสียง มีประชาชนมาร้องเรียนกันจำนวนมาก ต่อปัญหาน้ำประปาไม่ไหลบ่อยในพื้นที่หลายตำบล อาทิ ต.ท่าฉลอม ต.บางหญ้าแพรก ฯลฯ บางครั้งหยุดไหลเป็นสัปดาห์ สอบถามไปยังการประปาภูมิภาคจังหวัดสมุทรสาคร ทราบว่าท่อส่วนใหญ่เก่าแล้ว มีรอยรั่วเยอะ ไม่มีงบประมาณซ่อมแซม ต้องรอการอนุมัติ งบประมาณจากส่วนกลาง ถือเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างเรื่องการกระจายอำนาจที่ชัดเจน หากท้องถิ่นมีอำนาจ มีทรัพยากร มีงบประมาณ มีปัญหาเกิดขึ้นในพื้นที่ ผู้นำท้องถิ่นสามารถแก้ไขได้เลย ไม่ใช่ต้องรอจากส่วนกลาง จึงเป็นสาเหตุที่พรรคก้าวไกลมีนโยบายและเจตจำนงอยากเข้าไปขับเคลื่อนเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ปลดล็อกท้องถิ่น แก้ปัญหาอำนาจที่ซ้อนทับกันอยู่นี้

“เสรีฯ” บู๊ปราบขาใหญ่ปากน้ำ

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ลงพื้นที่ตลาดปากน้ำ ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล จ.สมุทรปราการ ช่วย ร.ต.ท.เธียรสิน จิตพงค์ศรี นายภคเดช วันพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ หาเสียง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ขอย้ำนโยบาย 14 ข้อ โดยเฉพาะเรื่องที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย วันนี้เป็นวันแรงงาน นโยบาย 14 ข้อจะลดความเหนื่อยและเพิ่มความสุขให้ชาวแรงงานได้แน่ วันก่อนเปิดกลยุทธ์หาเสียงใหม่คือ “เสรีมีไว้ลุย” จะลุยแก้ปัญหาทุกด้านที่สะสมมานาน จ.สมุทรปราการเคยมีชื่อเสียงด้านลบหลายเรื่อง เช่น กลุ่มอิทธิพล การทุจริตเลือกตั้ง แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ขออาสาลุยไม่ให้ชาวสมุทรปราการโดนตราบาปจากฝีมือคนไม่กี่กลุ่ม ไม่กี่ตระกูลในพื้นที่ เคยเตือนแล้วบ้านใหม่ บ้านใหญ่ และขอเตือนครั้งสุดท้ายว่าอย่าทำ หากยังฝ่าฝืนรับรองเจอตนแน่ จะลุยเช็กบิลล้างบางแบบให้สิ้นซาก

ปชป.อุ้มสตาร์ตอัพเอสเอ็มอี

วันเดียวกัน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคมีนโยบายช่วยสตาร์ตอัพและเอสเอ็มอี (Startup-SME) ต้องมีแต้มต่อ 3 แสนล้าน เพราะถือเป็นจักรกลสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ เช่น ภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ ภาคการท่องเที่ยว จากข้อมูลปี 2565 พบว่าสตาร์ตอัพและเอสเอ็มอีมีผู้ประกอบการมากกว่า 3 ล้านราย ก่อให้เกิดการจ้างงานเกือบ 13 ล้านคน มีมูลค่าการส่งออกกว่า 1 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.6 ของยอดการส่งออกรวมตลอดปี นโยบายนี้ต้องการยกระดับขีดความสามารถของสตาร์ตอัพและเอสเอ็มอีไทย พรรคเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจที่เดินหน้ามาได้ต่อเนื่อง เกิดจากแรงขับเคลื่อนสำคัญของสตาร์ตอัพและเอสเอ็มอีไทย ที่เป็นฟันเฟืองตัวเล็กๆ

ชพก.ชู Gig Economy รับเมย์เดย์

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) กล่าวว่า พรรค ชพก.มีนโยบายเนื่องในวันแรงงาน ด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจ Gig Economy ตั้งแต่ระดับชุมชนไปจนถึงระดับประเทศ เสนอให้เพิ่มตำแหน่งงานนักวิจัย และนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระดับท้องถิ่น สนับสนุนให้เกิดการจัดตั้งศูนย์พัฒนานวัตกรรมเพื่อแปรรูปสินค้าเกษตร 1 แห่งทุกจังหวัด, ส่งเสริมการจ้างงานและยกระดับศักยภาพผู้สูงวัยด้วยการสนับสนุนเงินเดือนลูกจ้างผู้สูงอายุเดือนละ 5,000 บาท รวม 500,000 ตำแหน่ง ให้แก่หน่วยงานที่จ้างบุคลากรอายุ 60 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ ยังมีนโยบายการลดจำนวนทหารที่มาจากการเกณฑ์ทหาร และเพิ่มทหารประจำการแบบสมัครใจ โดยใช้สวัสดิการเป็นแรงจูงใจ พร้อมเปิดตำแหน่งงาน 25,000 อัตราในหน่วยราชการต่างๆเพื่อรองรับทหารหลังปลดประจำการ

เพื่อชาติวอนอย่ากลั่นแกล้งกัน

ที่ศูนย์นโยบายมีชีวิตพรรคเพื่อชาติ สุขุมวิท 12 พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และ ผอ.เลือกตั้ง ส.ส.กทม. กล่าวว่า ได้รับแจ้งจาก น.ส.ศณิศา จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 4 ว่า ป้ายหาเสียงบริเวณปากซอยสุขุมวิท 10 และบริเวณใกล้เคียงถูกทำลาย ตรวจสอบพบป้ายดังกล่าวถูกของมีคมตัดทำลายที่บริเวณด้านล่างซ้าย ที่มีภาพคิวอาร์โค้ดพรรคเพื่อชาติติดแสดงอยู่ ให้ประชาชนที่สนใจสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อทำความรู้จัก ประสานงานหรือติดตามข่าวสารของพรรคได้ทั่วไป ยังไม่ทราบว่าเป็นการกระทำของใครและมีจุดประสงค์ใด จึงเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.อดิเทพ เทพเสนา สว. (สอบสวน) สน.ลุมพินี ขอให้ติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เราเป็นพรรคเล็กไม่ได้เป็นพรรคคู่แข่งกับพรรคใด ขอให้ผู้กระทำอย่าได้ทำลายป้ายกันอีกเลย

“โรม” โวย “ส.ว.ทรงเอ” เลื่อนนัด

ที่ศาลอาญา ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีนายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. ยื่นฟ้องนายรังสิมันต์ โรม อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในข้อหาหมิ่นประมาทจากการอภิปรายทั่วไปในสภาฯ เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ซึ่งนายรังสิมันต์ โรม มาพร้อมคนใกล้ชิด และทนายความ เพื่อซักค้านและแถลงข้อเท็จจริง ขณะที่ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างว่าติดประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษา ติดตาม และเสนอแนะด้านพลังงานทดแทนและการอนุรักษ์พลังงาน วุฒิสภา ขณะที่จำเลยและทนายจำเลยแถลงคัดค้าน อ้างว่าโจทก์เป็นผู้นัดวันไต่สวนมูลฟ้องเอง แต่กลับประวิงคดีให้ชักช้า ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าโจทก์ติดประชุมคณะกรรมาธิการฯซึ่งมิอาจทราบวันนัดล่วงหน้าได้ จึงเห็นควรให้โอกาสโจทก์เตรียมพยานมาศาลพร้อมที่จะไต่สวนในนัดหน้า