โหมดของลองวีกเอนด์ เทศกาลแห่งความสุขมหาสงกรานต์ตามวิถีธรรมชาติแบบไทยๆที่ชอบรื่นเริงสนุกสนาน ฉลองปีใหม่กันสำราญบานใจ ปลดปล่อยความเครียด ทั้งเศรษฐกิจปากท้อง โรคระบาดโควิด–19 ที่ยังลามระอุกรุงเทพฯเงียบเหงาลงไปถนัดตา ถนนหนทางโล่งชั่วครู่ชั่วยามบรรยากาศทางการเมืองก็สงบ พักรบ หลบสงกรานต์กันชั่วคราวเป็นช่วงที่ท่านผู้นำอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ได้หายใจหายคอ จากที่โดนมรสุมกระหน่ำตั้งรับกันไม่ทันที่หนักหนาสาหัสสากรรจ์เลย ก็เรื่องเศรษฐกิจที่มีสัญญาณร้าย รัฐบาลต้องปล่อยลอยตัวน้ำมันดีเซลเพราะอั้นไม่ไหว กองทุนน้ำมันหมดเกลี้ยง กู้มาโปะกันไม่ทัน สิงห์รถบรรทุกเตรียมใช้น้ำมันดีเซลเกินลิตรละ 30 บาทและนั่นก็ต้องกระเทือนกันเป็นลูกโซ่ ราคาสินค้า ขนส่งบริการ ต้องปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน เป็นภาระกดทับไปที่ประชาชนอย่างหนีไม่พ้นอารมณ์ที่หมดหวังในเชิงบริหารของผู้นำทหารอาชีพ ยิ่งปะทุหนักไปกันใหญ่อยากให้เลือกตั้งเปลี่ยนรัฐบาล ต้องการมือบริหารอาชีพเข้ามากอบกู้เศรษฐกิจจากมหาวิกฤติโควิด ภารกิจใหญ่หลวงต่อชีวิตประชาชนคนไทยไม่เหลือเวลาให้ความขัดแย้งทางการเมือง เรื่องของการแย่งชิงระหว่างขั้วอำนาจ“ทหารเฒ่า 3 ป.” ไป “นายใหญ่ดูไบ” มา “ทหารเฒ่า 3 ป.” มา “นายใหญ่ดูไบ” ไปเกมอำนาจการเมืองวนลูปอยู่แบบนี้ไม่ไปไหน ในขณะที่ประเทศชาติประชาชนคนไทยนับวันยิ่งดิ่งลงเหวลึกลงไปทุกทีและเหมือนปาหี่ ที่เล่นกันอยู่แค่ 2 ขั้วอำนาจตามปรากฏการณ์อย่างที่เห็นล่าสุด ณ จุดที่ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังโงนเงนง่อนแง่นกับเกมในสภา เป็นผู้นำรัฐบาลที่ไม่ได้กุมเสียงข้างมากไว้ในกำมือไร้ฐาน ส.ส.เป็นของตัวเอง ต้องพึ่งจมูกคนอื่นหายใจ ในสภาพที่โดนพรรคร่วมรัฐบาลเกาะเกี่ยวกันด้วยผลประโยชน์ “เพื่อนกิน” ค่ายภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ จ้องขี่คอ แม้แต่ฐานหลักอย่างค่ายพลังประชารัฐเอง ยังต้องวัดเชิงวัดใจ “พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรค พปชร. มั่นคงกับ “น้องเล็ก” แค่ไหนภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ที่ทีม เสธ.ตึกไทยต้องสั่งตั้งค่าย “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นพรรคสำรอง เผื่อรองรับ “บิ๊กตู่” อยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีตามสภาพการณ์แบบที่ “พี่ใหญ่” จัดการกระชับอำนาจ ตั้ง “ขุนทหาร” ในคาถาเสียบทีมกรรมการบริหารพรรค พปชร.ในการประชุมใหญ่ “ตีกัน” กองกำลังชนกลุ่มน้อยของ “น้องเล็ก”เบียดเข้ากุมสภาพในค่ายพลังประชารัฐปากก็หวานใส่กัน แต่พฤติการณ์หักมุมอย่างสิ้นเชิงโดยเงื่อนไขสถานการณ์ “บิ๊กตู่” ไม่มีหลักประกัน ถ้าถึงวันเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ตั้งแต่วันที่ 22พฤษภาคมเป็นต้นไป ถ้าฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ล็อกดาบ “ยุบสภา”โอกาสท่านผู้นำอาจจะตกเก้าอี้คาสภา ก็เป็นไปได้สูงถึงสูงมากจากรูปเกมพวกที่รอลุ้น “ส้มหล่น” มีทั้ง “บิ๊กป้อม” ในฐานะรองนายกฯ เบอร์หนึ่ง “รักษาการ” หรือแม้แต่ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุขหัวหน้า พรรคภูมิใจไทย พรรคอันดับสองในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลแต่เรื่องของเรื่อง ของแบบนี้มันอยู่ที่ “บุญวาสนา”เพราะตราบใดที่ยังมีการปักหมุดอยู่ที่ชื่อ “ประยุทธ์” ต่อให้ง่อนแง่นโงนเงนก็ยังลากถูลู่ถูกังไปได้ อย่างที่เห็นๆอาการแปร่งๆของพรรคเพื่อไทย ที่ส่อเลื่อนเกมยื่นญัตติเชือดไม่ไว้วางใจไปเดือนสิงหาคม แทนที่จะยื่นในวันรุ่งขึ้นของฤกษ์เปิดสภาอย่างที่เคยประกาศไว้จนโดนคนดูโห่ มวยล้ม “ซูเอี๋ย”ตามสภาพการณ์บังคับจับทางได้ ทีมนายห้างดูไบก็ไม่กล้าเปิดเกมรุกไล่ “บิ๊กตู่” จนกระดาน เพราะนั่นคือ การบีบผู้นำให้ยุบสภาก่อนกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญเสร็จบัตรเลือกตั้ง 2 ใบที่ได้เปรียบในกำมือ อาจหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา.ทีมข่าวการเมือง