สุดสลด ครูสั่งลงโทษเด็กนักเรียนชาย ป.1 วัย 7 ขวบ ติดเครื่องหมายชุดลูกเสือไม่ครบ ให้วิ่งรอบกลุ่มเพื่อนในหมู่ลูกเสือจนเด็กเหนื่อยหอบ อ้วกแตก แจ้งผู้ปกครองมารับพาส่งคลินิกก่อนส่งต่อโรงพยาบาล สุดท้ายเสียชีวิตอย่างน่าเศร้า ครูแจงสั่งลงโทษให้วิ่งจริง ไม่รู้ว่าเด็กมีโรคประจำตัวเป็นหืดหอบ ผอ.โรงเรียนพร้อมช่วยเหลือเยียวยา ไม่ทอดทิ้งแน่นอน ขณะที่แม่เด็กเผยแพทย์ระบุสาเหตุเสียชีวิตจากปอดติดเชื้อ กช.สั่งโรงเรียนตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง หากครูผิดจริงต้องถูกลงโทษ ด้านตำรวจยังไม่ได้รับแจ้งความเพราะญาติไม่ติดใจ แต่ไปขอข้อมูลจากโรงพยาบาลแล้วเหตุสลดใจเด็กชายวัย 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 ถูกครูลงโทษให้วิ่งจนเสียชีวิตอย่างน่าเศร้ารายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดโคกอุดม ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี สถานที่ตั้งศพ ด.ช.เก่ง (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนเจียหมิน อ.กบินทร์บุรี หลังได้รับแจ้งจากผู้ปกครองว่าเด็กถูกครูที่โรงเรียนทำโทษเนื่องจากแต่งกายชุดลูกเสือมาโรงเรียนติดเครื่องหมายไม่ครบ ครูสั่งลงโทษให้เด็กวิ่งจนหายใจไม่ออกเนื่องจากมีโรคประจำตัวเป็นหืดหอบ หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนแจ้งผู้ปกครองมารับตัวเด็กส่งไปรักษาที่คลินิกในพื้นที่ แต่อาการไม่ดีขึ้น ต้องนำส่งต่อ รพ.กบินทร์บุรี สุดท้ายแพทย์ยื้อไม่ไหวเสียชีวิตลงเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่ผู้ปกครองจะนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจกับการจากไปไม่ถึงวัยอันควรต่อมาในช่วงบ่าย คณะครูโรงเรียนเจียหมิน นำพวงหรีดมาแสดงความอาลัยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยครูหญิงที่สั่งลงโทษเด็กเผยว่า เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 18 ก.ค. ชั่วโมงเรียนวิชาลูกเสือ ให้นักเรียนที่แต่งตัวไม่ถูกระเบียบออกมายืนหน้าแถว แล้วลงโทษโดยการให้วิ่งรอบกลุ่มเพื่อนนักเรียน 3 รอบ หลังทุกคนวิ่งเสร็จแล้วกลับมาเข้าแถว ด.ช.เก่ง มาบอกว่าผมไม่ไหว ครูเห็นเด็กไม่สบายเลยให้ไปนั่งพักสักพักเด็กอาเจียน ครูเลยโทร.แจ้งผู้ปกครองให้มารับและให้เพื่อนไปเตรียมของและกระเป๋าเด็กมาไม่เกิน 6 นาที หลังจากที่วางสายพ่อเด็กมาถึงหน้าโรงเรียนครูก็พาไปส่งขึ้นรถ ครูไม่ทราบว่าเด็กมีโรคประจำตัวรู้แต่ว่าไม่สบายบ่อย ก่อนหน้านี้ก็หยุดเรียนไปหลายวันนายวันชัย อุ่นสุข ผอ.โรงเรียน เผยว่า ครูสอนวิชาลูกเสือในวันพฤหัสบดีแล้วสำรวจการแต่งกายของนักเรียน ด.ช.เก่ง ขาดอุปกรณ์บางอย่างในการแต่งกายลูกเสือ ครูก็ย้ำเตือนและบอกว่าจะลงโทษโดยการวิ่ง แต่ไม่ได้กำหนดระยะทางให้เด็กวิ่งเป็นวงกลมรอบๆกลุ่มเพื่อน ครูสั่งให้วิ่งประมาณ 10 รอบ แต่เด็กวิ่งได้ยังไม่ครบ 5 รอบ ก่อนจะเกิดอาการอ่อนเพลียเหมือนจะเป็นลม ครูก็แจ้งให้ผู้ปกครองมารับ อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรต้องคุยกับครูอีกครั้ง ส่วนการช่วยเหลือทางโรงเรียนไม่ทอดทิ้งแน่นอนให้ ผู้ปกครองเสนอมาว่าจะให้ช่วยอย่างไรแต่ต้องฟังข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งด้วย ทั้งนี้ ได้ส่งพวงหรีดไปร่วมแสดงความอาลัยและในช่วงค่ำจะไปเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามพ่อแม่เด็กถึงรายละเอียดที่เกิดขึ้น ปรากฏว่าย่าเด็กขอร้องไม่ให้ลูกชายและลูกสะใภ้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ให้เหตุผลเพียงว่าไม่ต้องการให้เป็นเวรกรรมติดตัวหลานชายไป ส่วนทางโรงเรียนจะรับผิดชอบหรือไม่ก็ไม่ว่า ขณะที่แม่เด็กเผยว่าแพทย์ที่โรงพยาบาลระบุสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากปอดติดเชื้อ จะตั้งศพสวดอภิธรรม 3 คืน แล้วทำพิธีฌาปนกิจศพด้านคดี ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถาม พ.ต.อ.ศิวัชณัฐ์ คุ้มทรัพย์ ผกก.สภ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นยังไม่มีใครมาแจ้งความแต่อย่างใด ทำให้ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ขณะที่ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต แต่เพื่อความแน่ชัดจะให้พนักงานสอบสวนไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อขอข้อมูลก่อนนายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่า ได้ติดตามกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว เบื้องต้นทางโรงเรียนแจ้งว่า ครูผู้ควบคุมกิจกรรมลูกเสือให้นักเรียนรายดังกล่าววิ่งรอบหมู่ลูกเสือ ก่อนจะมีอาการหายใจไม่ทันและนำส่งโรงพยาบาล ทางโรงเรียนยืนยันว่าครูให้เด็กวิ่งรอบหมู่ลูกเสือ ไม่ใช่วิ่งรอบสนาม อย่างไรก็ตามเพื่อความชัดเจนได้สั่งการให้โรงเรียนตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นและให้สรุปผลการสอบสวนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หากพบว่าครูกระทำความผิดลงโทษเด็กเกินกว่าเหตุก็ขึ้นอยู่กับโรงเรียนว่าจะดำเนินการทางปกครองกับครูอย่างไร รวมถึงอาจจะต้องส่งให้คุรุสภาพิจารณาเรื่องใบประกอบวิชาชีพครูอีกทางหนึ่งด้วยอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่