ผบช.ภ.1 ส่ง “ผู้การตี๋” ผู้การสืบสวนภาค 1 ลงพื้นที่คลี่คดี “น้องแอร์” ถูกฆ่าโหดทิ้งน้ำเป็นศพไร้ญาติ 8 ปี ลั่นถึงแม้คดีจะเกิดมานาน 8 ปี แต่จะหาพยานหลักฐานความเชื่อมโยงกับผู้ต้องสงสัยว่ามีคนไหนบ้าง ด้าน ผกก.สภ.ท่าเรือ ชี้จุดฆ่าจุดทิ้งศพไม่ได้เกิดในพื้นที่แน่นอน เพราะศพลอยน้ำมา ขั้นแรกต้องหาจุดฆ่าจุดทิ้งศพให้ได้ เชื่อว่าอยู่ด้านเหนือขึ้นไป เผยนำข้อมูลเดิมส่งหมายเรียกพยานใกล้ชิดคนตายมาสอบปากคำให้ได้ทั้งหมด ด้านสาวลูกพี่ลูกน้องรุดให้ปากคำ มั่นใจสาเหตุจากชู้สาว เพราะผู้ตายหน้าตาดีมีคนติดพันมากกรณี น.ส.ธัญญลักษณ์ พงษ์จีน หรือ “น้องแอร์” สาวชาวลพบุรีหายจากบ้านพร้อมทรัพย์สิน สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท และ จยย. 1 คัน ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.57 ต่อมานางมาลี พงษ์จีน ผู้เป็นแม่ประสานมูลนิธิกระจกเงา ช่วยติดตามตัวโดยการใช้ดีเอ็นเอ กระทั่งพบเป็นศพไร้ญาติอยู่ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม โดยก่อนนี้เมื่อ 8 ปีที่แล้ว มีผู้พบศพสาวปริศนาถูกฆ่าตายลอยมาอืดที่ริมแม่น้ำใน อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 22 ก.พ.57 สภาพมีบาดแผลถูกแทงที่ใบหน้าหลายแผลกระดูกหักหลายแห่ง จากนั้นนางมาลีได้ไปรับกระดูกลูกสาวกลับมาทำบุญที่บ้านเกิด จ.ลพบุรี พร้อมเร่งรัดให้ตำรวจ สภ.ท่าเรือ รื้อสำนวนคดีหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ความคืบหน้าในการคลี่คลายคดีน้องแอร์ที่ถูกฆาตกรรมเป็นศพไร้ญาติมา 8 ปี เมื่อวันที่ 8 ก.ย. พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ เผยว่า ขณะนี้มีทีมสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ลงพื้นที่มาช่วยหาข้อมูล ส่วนข้อมูลเดิมที่มีกำลังประสานส่งหมายเรียกมาสอบปากคำ เช่น ผู้ชายที่อยู่ใกล้ชิดในสมัยนั้นหรือผู้หญิงที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ตายในสมัยนั้น บางคนมีชีวิตอยู่ บางคนเสียชีวิตไปแล้ว จะพยายามติดต่อมาให้ปากคำให้ได้ทั้งหมด วันนี้จะส่งหมายเรียกพยาน คนที่เกี่ยวข้อง คนที่อยู่ใกล้ชิดมาสอบก่อน ได้ให้ตำรวจนำหมายเรียกไปส่งให้เลย สำหรับจุดพบศพห่างจากเขตบ้านหมอ จ.สระบุรี ไม่กี่เมตร กระแสน้ำไหลมาจากบ้านหมอ ในแม่น้ำป่าสัก มาเขต อ.ท่าเรือ เชื่อว่าจุดที่ทิ้งศพไม่ได้อยู่ในเขต อ.ท่าเรือ แน่เพราะศพลอยน้ำมา จุดทิ้งศพต้องอยู่เหนือน้ำขึ้นไป แต่ยังไม่รู้จุดที่โยนศพ จุดที่ฆาตกรรมหรือจุดที่เกิดเหตุทำร้าย มีความเป็นไปได้ที่น่าเชื่อ คือจุดที่โยนศพไม่ได้อยู่ในเขต อ.ท่าเรือแน่นอนผกก.สภ.ท่าเรือกล่าวต่อว่า จะต้องทราบให้ได้ว่าจุดเกิดเหตุ จุดทิ้งศพ ที่ไหน ต้องมีพยานบุคคลที่เชื่อมต่อวันนั้นได้ เรื่องกล้องวงจรปิดนี่เลิกพูดถึงเพราะเวลาผ่านมาหลายปี ตอนนี้ประสานไปยังจังหวัดใกล้เคียงคือ เรื่องรถจักรยานยนต์ผู้ตายที่ใช้ขี่ออกมาจากบ้านครั้งสุดท้าย ปัจจุบันจอดทิ้ง ตรวจยึดไว้ที่ไหนบ้างหรือไม่ เช่น จ.สระบุรี จ.ลพบุรี และจังหวัดข้างเคียงทั้งหมด ได้ทำหนังสือประสานแล้ว ให้ช่วยสำรวจรถที่ตรวจยึดหรือรถที่เคยเก็บรักษาไว้ที่มันใกล้เคียง เช่น รุ่น สี ยี่ห้อ เป็นต้นบ่ายวันเดียวกัน น.ส.ฌัฌชา นุ่มสำลี อายุ24ปี ลูกพี่ลูกน้องคนสนิท น.ส.ธัญญลักษณ์ พงษ์จีน หรือ “น้องแอร์” มาให้ปากคำเพิ่มเติม น.ส.ฌัฌชาเปิดเผยว่า หลังจากครอบครัวเชิญดวงวิญญาณของแอร์กลับบ้าน ทุกคนเชื่อว่าแอร์ตามกลับมา เพราะมีหมาหอนและเสียงนกแสกร้อง เชื่อว่าแอร์อยากจะกลับบ้านและตามมาด้วย ส่วนเรื่องของทางคดีครอบครัวรู้สึกสบายใจขึ้นที่ตำรวจรื้อคดีกลับมาทำใหม่ เชื่อว่าจะสามารถจับตัวผู้ที่ก่อเหตุ แต่ก็เป็นห่วงความรู้สึกของแม่แอร์ที่ยังทำใจไม่ได้ ส่วนมูลเหตุน่าจะเชื่อว่าเป็นไปทางชู้สาว เนื่องจากแอร์เป็นคนหน้าตาดี มีชายหนุ่มมาติดพันหลายคน แต่หากเป็นเรื่องชู้สาวมองว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป หากจะเลิกรากันควรจะเลิกรักกันด้วยดีไม่น่าจะมาทำและลงมือก่อเหตุฆ่ากันตายแบบนี้เย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 เดินทางมาที่ สภ.ท่าเรือ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค1 ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และชุดสืบสวน สภ.ท่าเรือ พล.ต.ต.วสันต์กล่าวว่า มาติดตามแนวทางการสืบสวนเกี่ยวกับคดีนี้ว่า สาเหตุเกิดจากอะไร ผู้ต้องสงสัยเป็นใครบ้าง ได้มาคุยกันเบื้องต้น คดีนี้มันนาน 7-8 ปีแล้ว พยายามที่จะหาพยานหลักฐานความเชื่อมโยงกับผู้ต้องสงสัย ว่ามีคนไหนบ้างมาพูดคุยแนวทางเบื้องต้น พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และให้จัดชุดสืบสวนภาค 1 มาร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา และชุดสืบสวนของ สภ.ท่าเรือ เจ้าของพื้นที่ แล้ว รวมทั้งประสาน พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับญาติผู้เสียชีวิต